กลยุทธ์โฟนวันเอื้อเครือข่าย คลุมทุกเซกเมนต์กำไรต่ำ

โฟนวันใช้กลยุทธ์ Pushing  และ Pulling  เปิดตัวมือถือใหม่ครบทุกเซ็กเมนต์ ถึงกำไรต่ำก็ต้องทำ แม้กระทั่งเครื่องราคาต่ำกว่าพันบาท ก็อยู่ในโรดแมป เพื่อดึงลูกค้าเข้าใช้เครือข่ายเอไอเอส ย้ำ “คนบริโภคโฟนวันคือคนบริโภคเครือข่าย” พร้อมอัดงบการตลาดกว่า 120 บาท กระตุ้นยอดขายที่ตั้งไว้ปีนี้ 5 แสนเครื่อง มูลค่ากว่า 1.3 พันล้านบาท

นายศักดิ์ชัย เลิศเวชกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดโฟนวัน ผู้จำหน่ายมือถือเฮาส์แบรนด์  กล่าวว่า หลังจากที่โฟนวันได้เริ่มทำตลาดในปีที่แล้วไปทั้งหมด 9 รุ่น ได้รับการตอบรับสินค้าเป็นอย่างดี เนื่องจากโฟนวันเป็นเฮาส์แบรนด์มือถือคุณภาพที่มีดีไซน์และฟังก์ชั่นครบ ในราคาที่ลูกค้าได้รับความคุ้มค่า สำหรับการทำตลาดปีนี้จะมีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคและให้นึกถึงโฟนวันก่อนตัดสินใจซื้อมือถือ ด้วยกลยุทธ์ที่สร้างจุดแข็งมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นไปด้านการคัดสรรสินค้าด้วยการใช้กลยุทธ์ Pushing คือการทำงานร่วมกันตั้งแต่ออกแบบสินค้า จนกระทั่งเป็นสินค้าสำเร็จรูปพร้อมขาย เพื่อให้ได้คุณภาพมาตรฐานตามที่ต้องการ และใช้กลยุทธ์ Pulling คือหาผู้ผลิตรายใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าที่มีคุณภาพและมีความหลากหลายตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ครบทุกเซ็กเมนต์มาจำหน่าย

สำหรับไตรมาสแรกทางโฟนวันจึงได้คัดสรรโทรศัพท์มือถือใหม่มาเปิดตัวพร้อมกันถึง 6 รุ่น คือ Basic Phone 1 รุ่นคือ phoneOne B102 ที่ใช้งานง่ายดีไซน์ทันสมัยในราคาเพียง 1,399 บาท  Multimedia Phone 4 รุ่นคือ phoneOne M202 รุ่น 2 SIM (Switching) โดยใช้ซิมได้ครั้งละ 1 เบอร์ พร้อมแบตเตอรี่ 2 ก้อนในราคาเพียง 2,590 บาท phoneOne M203 มีฟังก์ชั่นที่สามารถอัดเสียงและ วี ดีโอได้ และรองรับหน่วยความจำสูงสุดถึง 2 GB ราคา 2,490 บาท phoneOne M503 รุ่น 2 SIM ระบบ Dual SIM Standby อัตโนมัติรับได้ทั้ง 2 สาย  พร้อมระบบ Dual Bluetooth หน้าจอ touch screen ราคาเพียง 5,990 บาท phoneOne M601เป็นโทรศัพท์มือถือดูที วี ให้อัพเดทข่าวสารและความบันเทิงต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที โดยที่ตัวเครื่องสามารถรับสัญญาณโทรทัศน์ได้  หน้าจอคมชัดสมจริงขนาด 3 นิ้ว ในราคา 6,990 บาท Premium Phone 1 รุ่นคือ  phoneOne P001 พรีเมี่ยมโฟนรุ่นแรกเป็นนาฬิกามือถือที่มีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร โดยมีฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือนโทรศัพท์มือถือ สามารถใช้กับหูฟังบลูทูธสเตอริโอ รองรับระบบสัมผัสหน้าจอ  ราคาเพียง 8,990 บาท

จากการนำเครื่องลูกข่ายรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดครั้งนี้ ทำให้โฟนวันมีมือถือที่จำหน่ายออกไปแล้วทั้งหมด 15 รุ่น ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในทุกเซกเมนต์ และผู้บริหารโฟนวันมั่นใจว่าการนำโฟนวัน 6 รุ่นล่าสุดนี้ออกสู่ตลาด จะโดนใจลูกค้าที่กำลังมองหาโทรศัพท์มือถือคุณภาพในราคาถูกใจอย่างแน่นอน และที่สำคัญสำหรับลูกค้าโฟนวันมีบริการหลังการขายจาก MFA ที่รับประกันเปลี่ยนเครื่องใหม่ภายใน 7 วัน มั่นใจได้กับศูนย์บริการใกล้บ้านที่มีครอบคลุมทุกจังหวัด เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าทั่วประเทศ

การออกเครื่องลูกข่ายให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย แม้บางเซกเมนต์จะมีกำไรต่ำมาก  โดยเฉพาะเครื่องที่มีราคาพันกว่าบาท หรือตลาดล่าง แต่โฟนวันก็ต้องทำ เพราะต้องปูทางสำหรับการใช้งานในเครือข่ายของโอปอเรเตอร์อย่างบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส

“การทำตลาดล่างไม่ได้กำไร แต่ต้องทำ หรือแม้กระทั่งราคาไม่ถึงต่ำกว่าพันบาทก็อยู่ในโรดแมปเรา แต่จะเป็นขาวดำ ทั้งนี้ เพื่อรองรับผู้บริโภค เพราะเราเป็นโอปอเรเตอร์ด้วย คนที่บริโภคโฟนวันคือคนที่บริโภคเครือข่าย เราโฟกัสคคือคุณภาพของเครื่อง คุณภาพเครือข่าย และคุณภาพของตัวแทนจำหน่าย”

สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายในปีนี้นอกจากจะวางจำหน่ายสินค้าในช่องทางปกติคือร้านค้าทั่วไปแล้ว ยังได้ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเข้าไปที่กลุ่มลูกค้า Corporate  ซึ่งจะมีการนำเสนอสินค้าพร้อมโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆให้กับลูกค้าในองค์กรต่างๆ และยังร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจใหญ่ๆที่หลากหลายเพื่อให้สินค้าเข้าถึงกลุ่ม เป้ าหมายได้มากขึ้น ซึ่งจะทำควบคู่ไปกับการส่งเสริมการขาย โดยร่วมกันจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษให้กับลูกค้าตลอดทั้งปี

พร้อมกันนี้ ยังมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่เน้นด้านการสร้าง Brand Awareness โดยจะมีภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ที่นำเสนอโดยพรีเซ็นเตอร์โฟนวัน Theme ใหม่จะออกอากาศในเร็วๆนี้ ซึ่งการสร้าง Brand Awareness จะไปพร้อมการสร้างยอดขายในเวลาเดียวกัน โดยมีกิจกรรมทางการตลาดเจาะไปยังกลุ่ม เป้าหมาย เพื่อให้ลูกค้านึกถึงโฟนวันทุกครั้งที่คิดจะเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ  พร้อมทั้งยังสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่วางใจใช้เฮ้าส์แบรนด์โฟนวัน โดยจะใช้งบประมาณ 110-120 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาใช้ไป 65 ล้านบาท

ส่วนยอดขายปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 5 แสนเครื่อง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 2 เท่า ที่มียอดขายอยู่ที่ 1.5 แสนเครื่อง หรือมีรายได้อยู่ที่ 300-400 ล้านบาท โดยในปีนี้มีแผนจะจำหน่ายโฟนวันในกลุ่มเบสิกโฟนและมัลติมีเดียโฟนให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดล่างซึ่งมีขนาดมากถึง 50% ของตลาดรวม และคาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดปีนี้ประมาณ 6%

Company Related Links :
Phoneone