xs
xsm
sm
md
lg

เอเซอร์ชูกลยุทธ์“ACceLERate” หวังฟันรายได้ปีนี้เฉียด2หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเซอร์เผยแม้ปีที่ผ่านมาบรรยากาศการเมืองไม่อำนวย ราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุดส่งผลตลาดไอทีเติบโตแค่ 10 % แต่เอเซอร์โตส่วนกระแสถึง 30 % ปี 2551 คาดตลาดรวมเติบโตประมาณ 15 % เอเซอร์ขอโต 35 % ครองอันดับ 1 ทั้ง 4 ตลาด เดสท์ท้อป โน้ตบุ๊ก แอลซีดี และโปรเจกเตอร์ ชูแนวคิด “ UNLIMITED CHALLENGE” สร้างความท้าทายอย่างไร้ขีดจำกัดภายใต้กลยุทธ์ “ ACceLERate” สร้างตัวเร่งทั้งภายในองค์กรและตลาดภายนอกด้วยงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท พร้อมปรับโครงสร้างการบริหารและการตลาดใหม่ หวังเจาะกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นและเข้าสู่เป้าหมายรายได้ที่ 19,600 ล้านบาทในสิ้นปี 2551

นายแฮรี่ หยาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซอร์คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาแม้ภาพรวมตลาดจะไม่ค่อยดีนัก อันเป็นผลมาจากการเมืองยังไม่ลงตัว การลอยตัวของราคาน้ำมัน ส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ลดลง โดยตลาดรวมไอทีก็ได้รับผลกระทบเช่นกันมีอัตราการเติบโตประมาณ 10% แต่ในส่วนของเอเซอร์ก็ยังมีอัตราการเติบโตมากกว่าตลาด คือมีการเติบโตโดยรวม30 % โดยยังครองอันดับ 1 ในตลาดคอมพิวเตอร์โดยรวม โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 40 % โดยโน้ตบุ๊กมีการเติบโตประมาณ 60 % คอมพิวเตอร์เดสท์ท้อปเติบโต 20% จอแอลซีดีเติบโต 50% โปรเจกเตอร์เติบโต110 % และเซิร์ฟเวอร์เติบโต 33 %

ส่วนในปี 2551 นี้ เอเซอร์คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 35 % ในจำนวนนี้คาดว่าโน้ตบุ๊กจะมีการเติบโตประมาณ 60% พีซี เติบโตประมาณ 30% จอแอลซีดี เติบโตประมาณ 50% และโปรเจคเตอร์เติบโตประมาณ 110% พร้อมทั้งตั้งเป้าไว้ว่าในปีจะทำโปรเจคเตอร์เป็นอันดับ 1 ในตลาดให้ได้

จากเป้าหมายการเติบโคที่ 35 % ในปี 2551 หรือที่รายได้ประมาณ 19,600 ล้านบาท จากปี 2550 ที่มีรายได้ประมาณ 14,500 ล้านบาท เอเซอร์ตั้งเป้าว่าในปี 2551 นี้จะเป็นที่ 1 ในทุกตลาดคือ ทั้งเดสท์ท้อป โน้ตบุ๊ก จอแอลซีดี และโปรเจกเตอร์ พร้อมประมาณการการเติบโตของตลาดโดยรวมไว้ที่ 15 % หรือคิดเป็นจำนวนยูนิตประมาณ 1,700,000 เครื่องรวมทั้งพีซี และโน้ตบุ๊ก จากปี 2550 ที่ผ่านมาที่ตลาดรวมมีประมาณ 1,400,000 เครื่องทั้งพีซีและโน้ตบุ๊ก

“การขยายตัวของตลาดโดยรวมในปีนี้จะมาจากโน้ตบุ๊กเป็นส่วนใหญ่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปรับราคาลดลงจากเดิมราคาเฉลี่ยที่ 20,000 บาท มาในปีนี้ราคาตกลงมาอยู่ที่ประมาณ 17,000 บาท”

ผู้บริหารเอเซอร์กล่าวว่า การทำตลาดในปี 2551 นี้จะอยู่บนแนวคิด “UNLIMITED CHALLENGE” หรือความท้าทายอย่างไร้ขีดจำกัดภายใต้กลยุทธ์ “ACceLERate” หรือการเร่งพัฒนาทั้งภายในและขยายการตลาดภายนอก เริ่มจากอัตราเร่งตัวแรกด้วยการย้ายศูนย์กระจายสินค้าไปที่ใหม่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมลงทุนด้านซอฟต์แวร์การจัดการโลจิสติกส์และระบบไอที พร้อมเพิ่มทีมเซลล์อีก 20% รวมเป็นกว่า 200 คนในปัจจุบัน และขยายทีม คอลเซ็นเตอร์จาก 30 คนเป็น 50 คนเพื่อให้บริการได้มากยิ่งขึ้น และเพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับพาร์ตเนอร์ให้มากยิ่งขึ้นเอเซอร์ประสานงานกับธนาคารไทยพาณิชย์และกสิกรไทยให้เพิ่มวงเงินสินค้าให้กับพาร์ทเนอร์ให้มากยิ่งขึ้นเพื่อใช้ในการซื้อสินค้าจากเอเซอร์ให้มากยิ่งขึ้น

ในส่วนการจัดการภายในองค์กรเอเซอร์มีการจัดแบ่งกลุ่มการบริหารและการตลาดใหม่ เป็น 3 กลุ่มคือ 1. ผลิตภัณท์สำหรับกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปหรือคอนซูเมอร์ คือ โน้ตบุ๊กและเดสท์ท้อปในตระกูลเอสไปร์ 2. ผลิตภัณท์สำหรับกลุ่มองค์กรธุรกิจและผู้ประกอบการขนาดย่อมหรือคอมเมอร์เชียลและเอสเอ็มบี เป็นโปรดักส์โน้ตบุ๊ก ทราเวลเมท เดสท์ท้อปตระกูลเวอร์ริตอน เซิร์ฟเวอร์และสตอเรจ และ 3. ผลิตภัณท์สำหรับกลุ่มผู้ใช้เทคโนโลยีแสดงผลและการต่อพ่วงหรือดิจิตอล ดิสเพลย์ ได้แก่โปรเจคเตอร์และจอแอลซีดี

ในส่วนการสร้างอัตราเร่งภายนอกให้เกิดขึ้นเอเซอร์ใช้เงินกว่า 400 ล้านบาทเพื่อการกระตุ้นการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ตลอดจนการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเตรียมทีมงานและคู่ค้าเพื่อเจาะตลาดภาคเอกชนและราชการให้เพิ่มมากขึ้นโดยคาดว่าจะมีการเพิ่มงบประมาณนี้ขึ้นทุกปี จากปีที่ผ่านมาใช้ประมาณประมาณ 340 ล้านบาท

Company Related Links :
Acer
กำลังโหลดความคิดเห็น