xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เร่งขยายผลแก๊งมิจฉาชีพตุ๋นอธิการบดีลงทุนเทรดหุ้น สูญกว่า 38 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รอง ผบช.น. เผยเร่งตรวจสอบขยายผลผู้เกี่ยวข้อง แก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงอธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง ลงทุนเทรดหุ้นสูญเงินกว่า 38 ล้านบาท



จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. รักษาราชการแทน ปบก.น.2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเองที่ สน.บางซื่อ เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา

โดยพล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง จึงได้อายัดเงินเอาไว้ทั้งหมดจากเงินที่โอนออกบัญชีเมื่อวานนี้กว่า 3 ล้านบาท

ก่อนสอบปากคำเบื้องต้นผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า ถูกชักจูงให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้น จากบริษัทแห่งหนึ่ง แอบอ้างบุคคลที่มีชื่อเสียงด้านการลงทุนว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของบริษัท และสร้างแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ ชักชวนลงทุนในรูปแบบของ “บิ๊กล๊อต” โดยร่วมลงทุนกับบุคคลอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มไลน์ โดยผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินลงทุนเป็นจำนวนเงินกว่า 38 ล้านบาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทเป็นจำนวนกว่า 10 ครั้ง ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา และเห็นว่าเงินที่ผู้เสียหายลงทุนไว้ในแพลตฟอร์มของบริษัทนั้นได้กำไร แต่ไม่เคยตัดสินใจถอนออกมา จึงทำให้ไม่ทราบว่าตัวเองถูกหลอก ก่อนเจ้าหน้าที่โทรหาเมื่อวานนี้ ส่วนการขยายผล พบว่าการเปิดบัญชีนิติบุคคล เพื่อนำมาเปิดเป็นบัญชีม้าบริษัท เป็นการเปิดบัญชีขึ้นมาใหม่ ตรวจสอบเบื้องต้นมีความเกี่ยวข้องกับเงินผู้เสียหายที่โอนไปกว่า 22 บัญชี ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขยายผลไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ด้าน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เปิดเผยว่า กองบังคับการสืบสวนสอบสวน เป็นอีกหนึ่งหน่วยที่ได้รับแจ้งจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงจัดกำลังเข้าถึงตัวผู้เสียหายโดยทันทีและแจ้งให้ทราบถึงพฤติกรรมของเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลทราบอีกว่ามีเงินในบัญชีที่เตรียมไปร่วมลงทุนอีกกว่า 40 ล้านบาท หากเจ้าหน้าที่ไม่ยับยั้ง เชื่อว่าผู้เสียหายเตรียมที่จะลงทุนเพิ่มเติม

ส่วนผู้เสียหายอีก 1 คน ที่เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.หัวหมาก ถูกหลอกเอาเงินไปกว่า 6 ล้านบาท ข้อมูลการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าถูกหลอกในพฤติกรรมเดียวกัน ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลและสืบสวนหาผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดี รวมถึงบัญชีม้า และมากดเงินสดที่ขณะนี้ตรวจสอบแล้วพบว่าเงินในบัญชีส่วนใหญ่ถูกกดเงินสดตามตู้ ATM ในพื้นที่หลายจังหวัด


กำลังโหลดความคิดเห็น