xs
xsm
sm
md
lg

รอง ผบก.ป.เผยหมอบีให้คนสนิทเบิกเงิน 200 ล้าน เร่งรวบรวมหลักฐานพิจารณาดำเนินคดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รอง ผบก.ป.เผยคดีหมอบีมีมูล พบ ปี 66-68 ให้ผู้อื่นไปเบิกเงินกว่า 200 ล้าน รอตรวจสอบหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนพิจารณาดำเนินคดีต่อไป ด้านอดีตคนสนิทโร่ให้ปากคำตำรวจในฐานะพยาน


วันนี้ ( 8 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงกรณีนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ "หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" เจ้าของเพจ "งมงาย สไตล์หมอบี" ที่ถูกร้องเรียนว่าส่อทุจริตเงินบริจาควัดชื่อดังแห่งหนึ่งว่า สำหรับหลักฐานยอดเงินบริจาค และการเบิกเงินของหมอบี จากการตรวจสอบพบว่า มีการมอบฉันทะให้ผู้อื่นไปเบิกเงินถึง 101 ครั้ง ร่วมเป็นเงิน 204 ล้านบาท ช่วงระหว่างเดือน พ.ย.64 ถึง 16 เม.ย.68 ส่วนช่วงปี 62-63 หลักฐานทั้งหมดมีเป็นจำนวนมาก ทางพนักงานสอบสวนกำลังเร่งตรวจสอบ เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจทาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.จึงสั่งการลงมาให้เร่งดำเนินการ

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวได้มีการสอบปากคำตัวหมอบีแล้ว รวมถึงคนสนิทที่รับมอบอำนาจไปเบิกถอนเงิน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีเงินวัดไว้แล้ว แต่ยังมีหลักฐานอีกหลายส่วนที่จะต้องสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งจากการตรวจสอบโดยเบื้องต้นแล้วก็น่าเชื่อว่าคดีนี้น่าจะมีมูลตามที่มีผู้ร้องเรียนมาจริง ๆ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องรอให้ตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ ให้ครบถ้วนก่อนที่จะมีการดำเนินคดีกันต่อไป

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่ากรณีการร้องเรียนเรื่องทุจริตเงินบริจาคของวัด ฯ ที่พบว่าการใช้นอมินีเข้าไปกว้านซื้อที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่นในจังหวัดลพบุรี โดยใช้ชื่อของผู้อื่นเข้าไปดำเนินการจนทำให้ผู้เกี่ยวข้องมีฐานะร่ำรวยผิดปกติ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าน่ามีข้อเท็จจริงตามที่ผู้ร้องเรียนเข้ามาจริง ๆ เนื่องจากว่าที่ผ่านมากรณีเงินบริจาคของวัดดังกล่าว ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากต่างให้ความศรัทธา และร่วมให้ความสนับสนุนด้วยมาเป็นเวลายาวนาน ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหามาก่อน กระทั่งมาเกิดกรณีฉาวขึ้น ทำให้ต้องมีการตรวจสอบทั้งหมด ก่อนจะพบข้อเท็จจริงบางประการที่อาจทำให้ตำรวจจะต้องดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

วันเดียวกัน น.ส.เอ (นามสมมติ) อดีตคนสนิทหมอบี เดินทางมาให้ปากคำในฐานะพยานที่ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเจ้าตัวปกปิดใบหน้าด้วยหน้ากากอนามัย สวมหมวก และใส่เสื้อคลุม

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้พยามสอบถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าง น.ส.เอ กับหมอบี โดยเจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามว่าเป็นเลขาหมอบีหรือไม่ แต่บอกว่าเป็นเพียงจิตอาสาที่ทำงานร่วมกันจึงไม่ทราบเรื่องเงิน

เมื่อถามถึงเรื่องเงินที่หมอบีอ้างว่าอยู่กับเลขา 3 วัน ก่อนจะมาถึงมือหมอบีนั้น น.ส.เอ กล่าวว่า ไม่เคยจับเงินพวกนั้น เพราะไม่ใช่เลขา จึงไม่ทราบเรื่องเงิน

น.ส.เอ กล่าวด้วยว่า ที่ออกมาให้ข้อมูลกับรายการดัง และเจ้าหน้าที่เพราะอยากให้เกิดความโปร่งใสและให้คนตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบที่เป็นจริง ส่วนหมอบีจะรู้เห็นกับพระอลงกตหรือไม่นั้นไม่ทราบ

นอกจากนี้เรื่องส่วนแบ่ง 70 % ให้วัด และ 30% ให้หมอบี ที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ น.ส.เอ กล่าวว่า "คงเป็นแบบนั้น"


พ.ต.อ.เอนก กล่าวภายหลังสอบปากคำ น.ส.เอ ว่า คดีนี้เริ่มมีการร้องเรียนให้กองปราบตรวจสอบตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีการสอบปากคำพยานคนสนิทของหมอบี ซึ่งไม่ใช่เลขาส่วนตัว แต่เป็นผู้เคยทำกิจกรรมจิตอาสาร่วมกันมานาน โดยถือเป็นพยานสำคัญในอนาคต นอกจากนี้ได้สอบปากคำไวยาวัจกรณ์, เจ้าอาวาส และบุคคลที่เกี่ยวข้องภายในวัดไปแล้ว พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานทั้งเอกสารและบุคคลอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ทิศทางการสืบสวนชัดเจนขึ้น โดยพบความผิดปกติในบัญชีธนาคารชื่อ “ใจฟ้าอาทรประชานาถ” ซึ่งเปิดตั้งแต่ปี 2562 มีเงินจำนวนมากไหลเข้ามาก่อนที่หมอบีจะให้คนสนิทเบิกออกมาเป็นเงินสดครั้งละหลักแสนถึงหลักล้าน เพื่อนำไปให้หลวงพ่ออลงกตต่อ ซึ่งในแต่ละครั้งมียอดส่วนต่างที่หายไป ซึ่งตำรวจมีข้อมูลและบุคคลที่เกี่ยวข้องชัดเจนแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่หลวงพ่ออลงกตให้สัมภาษณ์ว่าหมอบีนำเงินส่วนต่างไปใช้ทำกิจกรรมจิตอาสานั้น เป็นสิ่งที่ประชาชนสามารถตั้งข้อสังเกตได้ แต่ตำรวจต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน และยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเชิญหลวงพ่อมาสอบปากคำหรือส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบที่วัด ในส่วนทรัพย์สินที่สังคมตั้งข้อสงสัย หมอบีอ้างว่า ได้นำเงินจากการปราบผีและธุรกิจกงสีของครอบครัวไปซื้อ แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ โดยพบว่าบ้านที่ซื้อเมื่อปี 2564 นั้นซื้อหลังจากเปิดบัญชีใจฟ้าฯ ที่เปิดเมื่อปี 2562 ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียด

"ปัจจุบันตำรวจมุ่งตรวจสอบเพียงบัญชีใจฟ้าฯ ในฐานะบัญชีหลักรับบริจาค พร้อมยืนยันว่ามีเส้นทางการเงินครบถ้วนแล้ว แต่หมอบีต้องชี้แจงเอกสารให้ชัดทุกยอดว่าเงินมาจากไหนและไปที่ใด ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินคดีกับใคร แต่ทางวัดได้ส่งทนายลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ลพบุรีแล้ว หากมีการดำเนินคดี ทางกองปราบจะเป็นผู้รับผิดชอบทำคดีเองซึ่งคดีนี้ต้องมีคนผิดและคนถูกอย่างแน่นอน แต่ยังไม่กำหนดกรอบเวลาสรุปสำนวน เนื่องจากต้องตรวจสอบเส้นทางเงินบริจาคย้อนหลังตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งมีรายละเอียดจำนวนมาก" รอง ผบก.ป.กล่าว


ต่อมา นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ เจ้าอาวาสวัดพระบาทนำพุ คณะกรรมการวัด สำนักพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการรวบรวมหลักฐานพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง

นายเกิดผล กล่าวว่า วันนี้เป็นการมาหารือประเด็นที่ตำรวจต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งจะกลับไปรวบรวมเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง โดยยืนยันวัดพระบาทน้ำพุไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอก เงินที่หายไปเป็นเรื่องระหว่างหมอบีกับหลวงพ่ออลงกต ตามข้อมูล หมอบีอ้างนำเงินบางส่วนไปใช้ในโครงการอื่น และอ้างว่าหลวงพ่ออนุญาต โดยนำเอกสารโครงการที่สรุปแบบไม่มีรายละเอียดมาให้ลงนามรับทราบ หลวงพ่อเข้าใจว่าเป็นโครงการจิตอาสา จึงเซ็นโดยไม่รู้ว่ามีการแฝงตัวเงินไว้ กระทั่งตรวจสอบย้อนหลังพบว่ายอดเงินที่หมอบีส่งต่อให้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง รวมกว่า 5.4 ล้านบาท จาก 10 รายการ ซึ่งหลักฐานได้มอบให้ทนายแล้ว

นายเกิดผล ระบุว่า หลวงพ่ออยากให้หมอบีออกมาชี้แจงต่อหน้าสื่อร่วมกัน เพราะปัจจุบันทั้งสองฝ่ายให้ข้อมูลไม่ตรงกัน และเพื่อความชัดเจนต่อสังคม พร้อมยอมรับว่าหลวงพ่อกังวลต่อผลกระทบ เนื่องจากมีตำแหน่งเจ้าอาวาส ซึ่งไม่สามารถปฏิเสธความเกี่ยวข้องได้ทั้งหมด แต่ต้องพิจารณาจากเจตนาและข้อเท็จจริงประกอบ

สำหรับเงิน 5.4 ล้านบาท ทนายยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจนว่าหมอบีเบิกเกินและส่งมอบไม่ครบ โดยนำไปใช้ในโครงการอื่นโดยไม่ขออนุญาตล่วงหน้า แม้หลวงพ่อจะเห็นว่ามีโครงการจริง แต่ไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดค่าใช้จ่าย ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และยังไม่สรุปว่าจะมีเงินก้อนอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับข้อมูลทางการสอบสวน พนักงานสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งคนสนิทหมอบี และผู้เกี่ยวข้องกับบัญชีเงินของวัดพระบาทนำพุไปแล้ว 6 คน โดยคนสนิทหมอบีที่เดินทางเข้าพบตำรวจในวันนี้ ก็เป็นอีก 1 คน ที่ได้รับมอบอำนาจไปเบิกเงินจากบัญชีธนาคาร และยังมีอีก 1 คน ที่ได้เคยได้รับมอบอำนาจเช่นกัน ตำรวจอยู่ระหว่างติดต่อเข้ามาให้ข้อมูล ส่วนหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการเอาผิดทางกฏหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้หรือไม่ ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนเงินที่นำไปซื้อบ้านพักหรูมูลค่ากว่า 30 ล้านบาทนั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบที่มาของรายได้ด้วยเช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น