ตร.แถลงข่าวพิสูจน์เสื้อเกราะเจ้าปัญหา โชว์ยิง-เลื่อยทดสอบความแข็งแรง ยอมรับเคยจัดซื้อจริงเมื่อปี 53 เลิกใช้มา 8 ปี แล้ว รอทำลาย ยันไม่ได้ทำจากไม้อัด แต่เป็นเส้นใยพิเศษซ้อนทับตามมาตรฐานสากล มีความเหนียวสามารถป้องกันอาวุธปืนสงครามได้
วันนี้ (24 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พล.ต.ต.นิรันดร ศิริสังข์ไชย ผู้บังคับการกองสรรพาวุธ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวชี้แจงกรณีปรากฏภาพเสื้อเกราะของตำรวจว่าวัสดุด้านในลักษณะคล้ายไม้อัดจนทำให้สังคมเกิดข้อสงสัยว่าเสื้อเกราะดังกล่าวสามารถป้องกันอันตรายเจ้าหน้าที่ผู้ใช้งานได้หรือไม่
พ.ต.อ.วีระยุทธ หิรัญ รองผู้บังคับการกองสรรพาวุธ กล่าวว่า เสื้อเกราะที่ปรากฎตามภาพในโซเชียลมีเดียที่มีหมายเลขซีเรียลนัมเบอร์ 8A154338 ดังกล่าวเคยใช้ในราชการตำรวจโดยจัดซื้อเมื่อเดือนเมษายนปี 2553 ทั้งหมด 650 ตัว เป็นเสื้อเกราะพร้อมแผ่นเกราะแข็งระดับ 3 จำนวน 500 ตัวและเป็นเกราะอ่อนอีก 150 ตัว ยืนยันว่าเกราะทุกตัวเป็นไปตามมาตรฐาน NIJ (National institute of Justice) ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังเกิดประเด็นในสังคมทางกองสรรพาวุธฯ ได้ไปตรวจสอบในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างเสื้อเกราะ ซึ่งวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง คือ ให้ผู้เสนอราคานำแผ่นเกราะมาเสนอพร้อมยื่นราคา จากนั้นจะมีการทดสอบประสิทธิภาพการป้องกันโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ยิงทดสอบ จนเมื่อผ่านเกณฑ์ไปแล้วผู้ที่เสนอราคาผ่านจะต้องถูกสุ่มตรวจวัสดุของเกราะอีกครั้งหนึ่งแบบมีหลักการจากหน่วยงานกลาง เพื่อพิจารณาเรื่องเส้นใยวัสดุที่จะต้องมีความแข็งแรงปลอดภัยสูงสุด สรุปได้ราคาจัดซื้อ ชุดดังกล่าวที่ราคา 34,000 บาทต่อตัว
"ยืนยันการจัดซื้อจัดจ้างเกราะเป็นไปโดยโปร่งใสตามขั้นตอนตรวจสอบได้ ยุทธภัณฑ์นี้มีประสิทธิภาพป้องกันได้ถึงระดับ ปืนซุ่มยิง หรือ ที่รู้จัก ปืน M16 ปืนอาก้า ปืนอาวุธสงคราม"พ.ต.อ.วีระยุทธ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.นิรันดร ศิริสังข์ไชย ผู้บังคับการกองสรรพาวุธ กล่าวเสริมว่า นอกจากการจัดหาเสื้อเกราะให้กำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดการประกันคุณภาพเสื้อเกราะรวมทั้งประกันชีวิตและประกันการบาดเจ็บของผู้สวมใส่ไว้ตามระยะเวลาข้างต้นด้วยหากได้รับบาดเจ็บเป็นเงิน 500,000 บาท เสียชีวิตเป็นเงิน 1 ล้านบาท พร้อมย้ำว่าเสื้อเกราะดังกล่าวที่เป็นประเด็นตามระเบียบราชการถือว่าหมดอายุการใช้งานแล้วเมื่อปี 2559 เพราะตามอายุที่กำหนดไว้คือ 5 ปี เท่านั้น ขั้นตอนจากนี้จะเป็นการจำหน่ายและทำลายยุทธภัณฑ์ตามระเบียบราชการ
ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กล่าวว่า ภาพเกราะที่ปรากฏตามสื่อโซเชียลเป็นเกราะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในชุดจัดซื้อ8A154338 จริง แต่เศษไม้ลักษณะสามเหลี่ยมที่วางอยู่บนเกราะยืนยันว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเกราะแน่นอน แต่เป็นชิ้นส่วนจากสิ่งใดยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เนื่องจากภาพที่โพสต์เป็นการครอปภาพแบบแคบจนไม่เห็นภาพรวมของเสื้อเกราะ
ทั้งนี้ สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ได้รับแผ่นเกราะมาทดสอบเพื่อหาคำตอบว่าวัสดุภายในเป็นสิ่งใดบ้าง โดยเจ้าหน้าที่นำมาชำแหละตรวจสอบโครงสร้างวัดขนาด ชั่งน้ำหนัก จากนั้นได้ตรวจสอบทางกายภาพ พบว่า วัสดุของเกราะมีการวางซ้อนกันด้วยผ้าแผ่นบางๆ ซ้อนกันมากกว่า 100 ชั้น เมื่อถ่ายจากกล้องวีดีโอไมโครสโคป 3D กำลังขยาย 1,500 ขึ้นไปจะพบว่าวัสดุของเกราะเป็นเส้นใย โพลีเอทิลีน ผสมกับพอลิสไตรลีนอัดด้วยกำลังอัดแน่นความดันสูงจนทำให้ผ้าทั้งหมดรวมตัวกันจึงมีลักษณะเหมือนของแข็ง
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า คุณสมบัติของเส้นใหญ่โพลีเอทิลีน เมื่อผ่านกระบวนการผลิตเทคนิคพิเศษทำให้เกิดความแข็งแรง และมีน้ำหนักเบา เมื่อมาใช้กันกระสุนคุณสมบัติของเส้นใยชนิดนี้ กระสุนจะถูกจับยึด ด้วยเส้นใย เส้นใยเหล่านี้จะดูดซับและกระจายพลังงานของหัวกระสุนปืน เป็นผลให้กระสุนนั้นบิดเบี้ยวหรือเสียรูปไปจนไม่สามารถทะลุเกาะได้ และ หลังตรวจสอบวัสดุ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานฯได้ทดสอบด้วยการยิงกระสุนจริงใส่เสื้อเกาะโดยใช้กระสุนขนาด 9 มม. ขนาด .357 และขนาด 45 มม. อย่างละ 3 นัดรวม 9 นัด ผลปรากฏว่าเสื้อเกราะทั้ง 3 ตัวสามารถกันกระสุนได้ทั้งหมดไม่มีกระสุนนัดใดทะลุเสื้อเกราะ
ขณะที่ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า หลังจากยุทธภัณฑ์หมดอายุการใช้งานจะไม่สามารถขายให้บุคคลใดได้เนื่องจากเป็นยุทธภัณฑ์ของทางราชการ พร้อมย้ำกับข้าราชการตำรวจที่ต้องทำงานที่มีความเสี่ยง ว่า ผู้บังคับบัญชาทุกระดับมีความเป็นห่วง ในการที่ต้องออกปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขอให้เชื่อมั่นว่าการจัดซื้อเป็นไปตามมาตรฐาน โดยสำนักงานตำรวจจะมีการจัดซื้อจัดให้ได้ปีละ 13,000 ตัว
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า ระหว่างการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้เปิดคลิปวิดีโอยิงทดสอบเสื้อเกราะระบุหมายเลขซีเรียลนัมเบอร์ 8A154338 ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ปรากฏในภาพดังกล่าวให้รับชมด้วยอาวุธปืนพก 3 แบบ ประกอบด้วยกระสุนขนาด 9 มม., ขนาด .357 แม็กนั่ม และขนาด .45 อย่างละ 3 นัด พร้อมอธิบายถึงวัสดุและเส้นใยที่ใช้ผลิตเสื้อเกราะ ซึ่งผลปรากฏว่าเกาะดังกล่าวสามารถกันกระสุนได้จริง นอกจากนี้ยังได้นำเสื้อเกราะตัวดังกล่าวมาทดลองให้สื่อมวลชนชายได้นำทดสอบเลื่อยด้วยตนเอง ซึ่งพบว่าเกราะดังกล่าวยังมีความเหนียว และไม่สามารถตัดเข้าได้สำเร็จ