xs
xsm
sm
md
lg

เปิดตำนานอ้างเป็น “พระพุทธเจ้า” กลับชาติมาเกิด ก่อนลงเอยในคุก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ เปิดตำนานอ้างเป็น “พระพุทธเจ้า” กลับชาติมาเกิด ก่อนลงเอยในคุก



จากกรณีเด็กชายอายุ 8 ขวบ ซึ่งถูกพ่อแม่สร้างให้กลายเป็นคนดังแห่งจังหวัดสุราษฏร์ธานี ในฐานะเจ้าลัทธิเชื่อมจิต โดยอ้างว่าเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิดเพื่อโปรดสัตว์ให้ความช่วยเหลือสาวกที่ศรัทธาพร้อมจ่ายเงินสนับสนุนเจ้าลัทธิผ่านการโฆษณาชักชวนทางเพจ “นิรมิตเทวาจุติ” จนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่สังคมให้ความสนใจและชาวพุทธที่ไม่ได้กินหญ้าออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องผ่านสื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาจัดการกับขบวนการนอกรีตบิดเบือนพระไตรปิฏกจนนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีระหว่างแก็งค์เชื่อมจิตกับผู้เห็นต่างกว่า 30 คดี

ล่าสุดกลุ่มหลักที่เป็นคู่กรณีกับพ่อแม่เด็ก 8 ขวบ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามกลุ่มอเวนเจอร์เดินทางไปยังจังหวัดสุราษฏร์ธานี ตามที่ศาลนัดหมายไต่สวนมูลฟ้อง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ก่อนจะตามมาด้วยการตัดสินคดีแก็งค์เชื่อมจิตฟ้องสำนักข่าวเดลินิวส์ในข้อหาละเมิดสิทธิเด็กชายผู้เป็นเจ้าลัทธิ โดยต้องการให้ลบโพสต์ใสคลิปข่าวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผลจากทั้งสองกรณีที่ศาลจังหวัดสุราษฏร์ธานี ปรากฏว่า ในส่วนของเดลินิวส์ออนไลน์ ศาลยกฟ้อง ขณะที่ในส่วนของทีมอเวนเจอร์ ศาลนัดไต่สวนเพิ่มเติม จึงยังไม่ได้ข้อยุติ

อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของกูรูด้านกฎหมายและด้านศาสนาต่างให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า

จุดจบของแก็งค์ลัทธิเชื่อมจิตกำลังจะมาถึง ไม่ว่าผู้เป็นพ่อแม่และทนายความคู่ใจจะดึงดันเปิดศึกรอบทิศ สไตล์เดียวกับบิ๊กโจ๊กนายตำรวจใหญ่ที่โดนคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนที่ยังคงปิดตาไม่ยอมรับความจริง

แต่ในท้ายที่สุด เมื่อใดที่กระบวนการยุติธรรมขับเคลื่อนไปจนถึงปลายทางเมื่อนั้นแก็งค์เชื่อมจิตก็จะมีอันล่มสลาย พ่อแม่โดนดำเนินคดีอาจถึงขั้นจองจำ ขณะที่ผู้เป็นลูกอ้างว่า เป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด มีหวังที่จะโดนแยกไปอยู่ในความคุ้มครองของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

หรือหากดวงแตกแบบสุด ๆ น้องไนซ์ 8 ขวบคนดังก็อาจจะต้องเข้าไปจิ้มหน้าผากเชื่อมจิตให้สาวกกลุ่มใหม่สถานพินิจและคุ้มครองเด็ก ซึ่งภาษาชาวบ้านเรียกว่าคุกเด็กนั่นเอง

ทั้งนี้หากบทสุดท้ายของน้องไนซ์เป็นเช่นนั้น เรื่องราวของน้องไนซ์ก็คงจะไม่แตกต่างอะไรกับผู้ที่อ้างว่า เป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด ชาวเนปาลซึ่งโลกรู้จักในนาม “บุดดา บอย” เด็กหนุ่มที่เปิดตัวในภาพของโล้นห่มเหลืองนั่งสมาธิอดอาหารใต้ต้นไม้เป็นเดือน ๆ เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าในช่วงที่หาหนทางตรัสรู้ ส่วนผู้ที่ก้มกราบไหว้หลงเชื่อ แม้ในทางวิทยาศาสตร์จะยืนยันว่า สิ่งที่บุดดา บอย เปิดการแสดงใต้ต้นไม้ใหญ่เป็นเพียงปาหี่ที่มีผู้ร่วมขบวนการร่วมกันกระทำอย่างเป็นระบบ

แต่ในท้ายที่สุด ความจริงก็คือความจริงอย่างที่คุณครูปรีชาเจ้าตำนานล็อตเตอรี่คนดังเคยกล่าวเอาไว้ บทสุดท้ายของบุดดา บอย ก็คือการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ก่อนที่จะถูกศาลจำคุกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บุดดา บอย หรือที่คนไทยต่างรู้จักในนาม ลามะเนปาล สามารถนั่งสมาธิโดยที่อดข้าวอดน้ำเพื่อนั่งบำเพ็ญเพียรสมาธิตลอดโดยไม่ได้ขยับตัวไม่ยอมลุกไปไหนนานถึง 6 ปี ตั้งแต่ปี 2548 ทำให้เป็นที่น่าสนใจอย่างของเหล่าประชาชนทั่วโลกหลาย ๆ คนเกิดความศรัทธาเดินทางมากราบไหว้ เพราะมีความเชื่อว่าเขาเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด จึงได้ตั้งฉายาให้ว่า “บุดดา บอย”

บุดดา บอย มีชื่อจริงว่า ราม บาฮาดูร์บอมจอน หรือ ปาลเด็น ดอร์เจ เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2533 เป็นนักพรตจากเมืองรัตนปุรี เขตบารา ที่ประเทศเนปาล บุดดา ได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมของสื่อต่าง ๆ เพราะมีความคล้ายคลึงพระพุทธเจ้าที่ได้อ้างว่าเป็นการกลับชาติมาเกิดของพระโคตมพุทธเจ้า

เหล่าผู้นับถือของ บุดดา บอย มีความเชื่อว่าเขาเป็นอวตารของพระพุทธเจ้า โคตมะ แต่ บอนจอนก็ได้ปฏิเสธ และได้บอกกล่าวว่า “บอกประชาชนอย่าเรียกเราว่าพระพุทธเจ้า ขณะนี้เราไม่มีพลังแห่งพุทธะ เราอยู่ในระดับรินโปเช ” และประธานสภาพุทธศาสนาเนปาลก็ได้ออกมากล่าวเหมือนกันว่า “เราไม่เชื่อว่าเขาคือพุทธะ เขาไม่มีคุณสมบัติของพระพุทธเจ้า”

บุดดา บอย ได้ถูกตำรวจเนปาลเข้าจับกุมตัวในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กสาวอายุ 14 ปี และเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของสาวกอ 4 คน ที่ได้มีครอบครัวของเหยื่อเขาไปแจ้งความไว้

โดยมีแม่ชีวัย 18 ปีเข้าแจ้งความว่าถูกลามะปัลเดนข่มขืนในอาศรม ตั้งแต่อายุ 15แต่ด้วยกฎหมายที่อายุเธอยังไม่สามารถฟ้องเขาได้ ทางตำรวจจึงยังไม่ได้ตั้งของหา แล้วสุดท้ายเรื่องก็เงียบไป แถมยังมีการร้องเรียนนับสิบครั้งในข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่บอนจอนก็ได้อ้างว่าคนเหล่านี้มาก่อกวนเขาในเวลากำลังทำสมาธิ

นอกจากนี้สำนักงานสืบสวนกลางของเนปาล ได้เผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขุดค้นหาหลักฐานในป่าใกล้อาศรมหลังจากได้รับเบาะแสมาว่า สาวกที่หายตัวไปอาจกลายเป็นศพไปแล้วแต่ก็ยังไม่พบหลักฐานอะไร

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2567 ตำรวจเนปาลได้ออกมาแถลงว่าได้จับกุมตัว ราม บาฮาดูร์ บอมจอน ในเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ในอาศรมของเขา ที่ชานกรุงกาฐมาณฑุ ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศสาวก และหลบซ่อนตัวอยู่หลายปี โดยหลังจากการเข้าจับกุม ตำรวจได้นำตัวบอนจอนมายืนต่อสื่อในสภาพถูกใส่กุญแจมือเอาไว้

เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ราม บาฮาดูร์บอมจอน พยายามที่จะกระโดดหลบหนีลงจากอาคารที่พัก ขณะที่เจ้าหน้าได้บุกเข้าไปจับกุมตัว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมควบคุมตัวไว้ได้ และในตอนที่จับกุมตำรวจยังได้นำธนบัตรเนปาล ที่ระบุว่า เป็นเงินมูลค่า 227,000 ดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 8แสนบาท จากบ้านของจอนบอนอีกด้วย โดยจากการแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเนปาล บอนจอน จะถูกนำตัวไปขึ้นศาลที่ตอนใต้ของเนปาล

ล่าสุดวันที่ 1 กรกฎาคม ศาลเนปาลพิพากษาให้บุดดาบอยมีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศผู้เยาว์ ต้องโทษจำคุกเขานาน 10 ปี จ่ายเงินชดเชย 138,000 บาท ให้กับเหยื่อ

ส่วนกรณีน้องไนซ์เจ้าลัทธิเชื่อมจิตจะลงเองเหมือนบุดดา บอย แห่งเนปาลหรือไม่ ต้องอดใจรอความเป็นไปที่กำลังจะเกิดขึ้น

--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น