สาวใหญ่โร่แจ้งความ ถูกครูโรงเรียนลูก ขอยืมเงินแปดแสน อ้างเพื่อนครูเดือดร้อน ทวงแล้วไม่คืน ผอ.ปัดไม่เกี่ยวเจ้าตัวลาออกแล้ว

ผู้ปกครองขึ้นโรงพักแจ้งความ ถูกครูที่ปรึกษาลูก ออกอุบายยืมเงิน 8 แสนบาท วอนขอคืน รักษายายป่วย ผอ.ทราบเรื่อง ปัด เป็นเรื่องของบุคคล โรงเรียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เผย ครูต้นเรื่องชิงลาออกแล้ว

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 67 ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น.ส.นุสรา โกมลานนท์ อายุ 53 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ประเสริฐศักดิ์ วงศ์ภูผานนท์ พนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ หลังครูที่ปรึกษา โรงเรียนดังแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ออกอุบายยืมเงินของตนไป 800,000 บาท ว่า จะนำเงินไปช่วยเพื่อนครูด้วยกันที่โรงเรียน เนื่องจากเพื่อนครูด้วยกันทำธุรกิจแล้วจะถูกฟ้อง และครูอีกหลายคนลำบากต้องการเงิน

น.ส.นุสรา ผู้เสียหาย เล่าว่า ลูกสาวของตนเรียนอยู่โรงเรียนดังกล่าว ช่วงชั้น ม.1 และมีครูที่ปรึกษาชื่อครูน้อง (นามสมมติ) อายุ 33 ปี และทุกวันนี้ ลูกสาวของตนเรียนชั้น ม.2 มีครูยุพิน (นามสมมติ) เป็นครูที่ปรึกษาลูกสาวของตน และช่วงวันที่ 7 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา ครูน้องได้โทรศัพท์คุยกับตนว่า ครูยุพิน ซึ่งเป็นครูที่ปรึกษาลูกสาวของตนเดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะครูยุพินทำนากุ้งและจะโดนฟ้อง และที่ผ่านมา ผอ.โรงเรียนก็ช่วยครูยุพิน เอารถไปจำนำและไม่มีที่ไหนรับเอาไว้ เพราะรถเก่า ซึ่งในช่วงนี้ครูยุพินเดือดร้อน ต้องใช้เงิน 300,000 บาท ตนก็ให้เงินสดครูน้องไป 300,000 บาท ต่อมาวันที่ 21 พ.ค. 67 ครูน้องก็ได้มาบอกกับตนว่ามีครูในโรงเรียนเดือดร้อนอีกหลายคน เช่น ครูต้นศักดิ์ ครูเดียว ครูปลา ต้องการใช้เงิน ขอยืมเงินมาหมุนก่อน 300,000 บาท ตนก็ให้เงินกับครูน้องไป 300,000 บาท และวันที่ 27 พ.ค. 67 ครูน้องก็พูดคำเดิมต้องการเงิน 100,000 บาท ตนก็ให้ยืมไป 100,000 บาท และวันที่ 2 มิ.ย. 67 ก็ต้องการเงิน 100,000 บาท ตนก็ให้ไป รวมเป็นเงินจำนวน 800,000 บาท และวันที่ 16 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 09.00 น. ตนได้คุยโทรศัพท์กับครูยุพิน ซึ่งเป็นครูที่ปรึกษาลูกสาวของตนเพื่อสอบถามเรื่องเงินที่ให้ยืมไป กลายเป็นครูยุพินงง และบอกกับตนว่าเงินอะไร ไม่รู้เรื่อง ครูยุพินไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ตนจึงรู้ว่าตนถูกหลอกแล้ว ซึ่งตนก็ได้คุยโทรศัพท์กับครูยุพินให้แจ้ง ผอ.โรงเรียน ซึ่งตนเกรงจะไม่ได้เงินคืน จึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บางใหญ่ เอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน เพราะเงินจำนวนนี้ตนต้องเก็บเอาไว้ใช้จ่ายในบ้าน ไหนลูกจะเรียน ในบ้านก็มีผู้ป่วยติดเตียง

ทางด้านพ่อของ น.ส.นุสรา ผู้เสียหาย กล่าวว่า ผอ.โรงเรียนท่านจะรู้ไหมว่าครูที่อยู่ในความดูแลของท่านมาทำแบบนี้กับลูกสาวของตน ถ้าท่าน ผอ.รู้เรื่องแล้ว ท่านพอมีอะไรที่จะช่วยเหลือ เคลียร์ปัญหาให้ตนด้วย เรื่องจะได้จบกันแค่นี้ และทางโรงเรียนของท่านจะได้ไม่เสียหาย และจะได้ไม่มีใครเอาไปเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะข่าวทำนองนี้ก็มีเยอะ อย่าเอามาเป็นตัวอย่างเลย ทำในเรื่องที่มันดี บริสุทธิ์ ยุติธรรม ดีกว่า เป็นแม่พิมพ์ของชาติ ทำให้เหมาะสมที่เป็นครูบาอาจารย์ ตนก็อายุ 80 ปีแล้ว พี่สาวตนก็อายุ 90 ปีแล้ว ช่วยกันดูแล แต่ยังมาซ้ำเติมกัน ถ้าเป็นแบบนี้ สังคมเราก็แย่ ต่อไปใครเดือดร้อนก็ไม่มีใครช่วยใคร ขอร้อง ถ้าผอ.โรงเรียนเห็นแก่ส่วนรวม เห็นแก่คุณงามความดีของครูบาอาจารย์ที่เป็นเรือจ้างส่งลูกศิษย์ถึงฝั่ง ช่วยพวกเราด้วย

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าว เพื่อเข้าพบ ผอ.โรงเรียน ซึ่งทางด้าน ผอ.ไม่ให้บันทึกภาพ ซึ่งท่าน ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า เรื่องที่ครูน้องไปยืมเงินกับผู้ปกครองนักเรียน เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับทางโรงเรียน ตนก็พึ่งจะรู้ก็ช่วงที่ผู้ปกครองเข้ามาพูดคุยกับครูน้อง และอีกอย่างครูน้องเป็นครูพนักงานจ้างตามภารกิจ ส่วนที่ครูน้องเอาชื่อครูอีก 3-4 คน ไปแอบอ้าง ครูทุกคนก็ไม่ติดใจ เพราะเขาไม่ได้ทำเรื่องที่เกิดขึ้น มันขึ้นอยู่กับผู้ปกครองและครูน้องกัน 2 คน และพอเกิดเรื่องขึ้นครูน้องได้พูดคุยกับผู้เสียหายว่าจะไปรีไฟแนนซ์บ้าน กับรถ เพื่อที่จะเอาเงินมาคืนไปก่อนเป็นบางส่วน และจะคืนเงินกันยังไงก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา และพอเกิดเรื่องขึ้นมา ครูน้องได้ลาออกจากโรงเรียนไปแล้ว ซึ่งทางโรงเรียนไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ