แฟนละคร “พรหมลิขิต” คงได้ยินคำว่า “ช่องกุด” ว่าเป็นหนึ่งในแหล่งค้าขายที่สำคัญ เมื่อตัวละครหลักอย่าง พ่อริดกับแม่พุดตาน จะไปซื้อสินค้าต่างๆที่ตลาด ก็กล่าวถึง “ประตูช่องกุด”
สำหรับ “ประตูช่องกุด” หรือ “ช่องกุด” เป็นประตูขนาดเล็กเจาะเป็นช่องตามแนวกำแพงเมืองไปตลอดโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ใช้สำหรับคนเดินเข้าออก มีลักษณะช่องโค้งปลายแหลม กว้าง 2 เมตร สูง 2.5 เมตร ซึ่งเป็นขนาดพอที่คนเดินเข้าออกได้ และหากช่องกุดมีอยู่ตามป้อมปราการ ก็เป็นช่องสำหรับใช้ตั้งปืนใหญ่ ซึ่งสมัยอยุธยารุ่งเรืองมีช่องกุดเป็นจำนวนมาก
บริเวณช่องกุดต่างๆสันนิษฐานได้ว่าคงเป็นแหล่งค้าขาย หรือตลาดสำคัญที่มีอยู่รอบเมืองอยุธยา ดังเช่นที่ปรากฏในละครพรหมลิขิตที่ “พ่อริด” สนทนากับ “แม่พุดตาน” ว่าอยุธยามีตลาดมากมาย โดยมีการกล่าวถึงประตูช่องกุดว่า “ที่ประตูช่องกุด มีท่าเรือจ้างข้ามไปวัดเจ้าพระนางเชิง” (วัดพนัญเชิงในปัจจุบัน) ซึ่งฉายภาพให้เห็นว่า ประตูช่องกุดเป็นย่านการค้าที่คึกคัก มีสินค้าให้เลือกซื้อหาอย่างหลากหลาย
อาณาจักรอยุธยาที่ยิ่งใหญ่ในอดีต เคยมีประตูช่องกุดจำนวนมากถึง 61 ประตู โดยอ้างอิงจากบันทึกหนังสือ “คำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม เอกสารจากหอหลวง” ที่ระบุไว้ว่า
“ตามกำแพงรอบกรุงศรีอยุทธยานั้น มีป้อมปืนใหญ่น้อยยี่สิบสองป้อม มีประตูใหญ่มียอดทาแดงยี่สิบสามประตู มีประตูช่องกุฎหกสิบเอดประตู” (สะกดตามภาษาโบราณ)
ปัจจุบัน ประตูช่องกุด ในพระนครศรีอยุธยาคงเหลือให้เห็นเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ซ่อนอยู่ที่บริเวณหลังโรงเรียนวัดรัตนชัย (วัดจีน) เป็นลักษณะกำแพงโบราณสถานขนาดเล็กๆที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ยังพอมีความสมบูรณ์ปรากฏให้เห็นช่องประตูทรงโค้ง ขนาดราว 2 เมตร เดินลอดเข้าไปได้ รวมถึงหามุมถ่ายภาพสวยๆในสไตล์ย้อนยุค
แม้ว่าบริเวณรอบๆนั้นเป็นที่รกร้าง และมีอาคารพื้นที่โรงเรียนปลูกสร้างรอบๆ ไม่มีอะไรเป็นสถานที่สำคัญ หากแต่ “ประตูช่องกุด” แห่งสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ ก็ยังนับเป็นสถานที่สำคัญให้คนรุ่นหลังได้มาศึกษาประวัติศาสตร์ เพื่อต่อยอดจินตนาการภาพของราชธานีในอดีตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline