รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ “โฟ 2 แว่น” มือแทง อำพรางตัวในฮู้ดสีดำ ชุดยอดนิยมของฆาตกร
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามรวบตัวฆาตกรโหด แทงเหยื่อวัย 54 ปี พ่อค้าเสื้อผ้าออนไลน์ จนเสียชีวิตคาคอนโดมิเนียม แล้วหมกศพที่มีร่องรอยบาดแผลถึง 15 แห่ง ไว้ในห้องพักหลายวัน จนกระทั่งส่งกลิ่นเหม็นบอกให้ผู้พักอาศัยในคอนโดมิเนียมแห่งเดียวกันรู้ว่า มีความไม่ปกติเกิดขึ้นจนกระทั่งมีการตรวจสอบจนพบร่างของเหยื่อที่เสียชีวิตมาแล้วหลายวัน นำไปสู่การตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วพบว่า
ฆาตกรที่เดินทางมายังคอนโดมรณะ และกดลิฟท์ขึ้นไปพร้อมกับผู้เสียชีวิต เป็นชายหนุ่มแต่งกายในลักษณะปิดบังรูปพรรณสัณฐานของตนเอง ด้วยการใส่ฮู้ดคลุมศีรษะ สวมแว่นตา คาดหน้ากากอนามัย จนทำให้สังเกตใบหน้าที่แท้จริงได้ยาก
แต่ด้วยการติดตามพฤติกรรมคนร้ายชนิดกัดไม่ปล่อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้รับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมและจากการสอบสวนเบื้องต้นทำให้ทราบว่าผู้ตายถูกสังหารตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม และได้เริ่มกระบวนการสืบสวนสอบสวนโดยไล่ภาพจากกล้องวงจรปิด ตั้งแต่คืนเกิดเหตุ จนได้เบาะแสสำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นการที่คนร้ายนำบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต ไปใช้ทำธุรกรรมหลายอย่างอาทิ การซื้อทองรูปพรรณ การขายโทรศัพท์มือถือของเหยื่อ รวมทั้งการว่าจ้างรถรับจ้างไปส่งตามสถานที่ต่างๆ ทั้งพัทยาและหัวหิน ก่อนจะซื้อตั๋วรถโดยสารไปยังสุราษฎร์ธานี แต่ลงรถที่จังหวัดชุมพร แล้วโทรศัพท์เรียกให้มารดาของตนเองขับรถมารับเข้าบ้าน
ตลอดเวลาที่คนร้ายเคลื่อนไหว สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงก็คือการซ่อนพรางตนเองด้วยเครื่องแต่งกายเดิมคือ ฮู๊ดสีดำสวมคลุมศีรษะ ใส่แว่นตา คาดหน้ากากอนามัย เพิ่มเติมด้วยแว่นตาดำอีก 1 ชั้น จนนำไปสู่ฉายา “โฟ 2 แว่น” หลังถูกจับกุม
สิ่งที่น่าตกใจสำหรับสุจริตชนก็คือ ฆาตกรที่ชื่อ นายภูริณัฐ กาญจนบรรยงค์ หรือ “โฟ 2 แว่น” เป็นบัณฑิตคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมีโปรไฟล์ดี ใช้ชีวิตหรูหรามาโดยตลอด
ผู้คนจำนวนมากจึงเชื่อว่า การเป็นผู้มีการศึกษาดี เฉลียวฉลาด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นายภูริณัฐ สามารถออกแบบแผนประทุษกรรมได้อย่างแยบยล โดยเฉพาะการพรางตัวตามที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหัวหมุน กว่าที่จะตามล่าจนประสบความสำเร็จ สามารถปิดคดีได้ในท้ายที่สุด
ไม่ว่าแรงจูงใจที่แท้จริงจากการก่อเหตุในครั้งนี้ จะเป็นไปตามที่นายภูริณัฐ กล่าวอ้างหรือไม่ก็ตามว่า ตนเองถูกโกงเงิน 5 ล้านบาท จากการทำธุรกิจซื้อขายเสื้อผ้าออนไลน์ร่วมกับผู้ตายเมื่อทวงถามก็ถูกทำร้ายด้วยการบีบคอ จึงใช้มีดที่เตรียมไปเป็นอาวุธป้องกันตัว จนผู้ตายถูกแทงถึง 15 แผล
แต่คดีนี้ อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการตื่นตัว ในการให้ความสำคัญต่อการเข้มงวดการแต่งกายสำหรับคนที่จะผ่านเข้าออกสถานที่สาธารณะ
โดยเฉพาะคอนโด หรือหมู่บ้าน ซึ่งเป็นที่พักอาศัย จะต้องมีกฎเกณฑ์ระบุว่า ผู้ที่ผ่านเข้าออก จะต้องเปิดเผยรูปพรรณสัณฐานอย่างชัดเจน เพื่อเป็นมาตรการป้องปรามการแฝงตัวของมิจฉาชีพเข้ามาก่อเหตุร้ายในรูปแบบต่างๆ
รวมทั้งร้านค้าธนาคาร ตลอดจนศูนยบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย ซ่อม แลกเปลี่ยน โทรศัพท์มือถือ หรือการให้บริการล้างทำความสะอาดรถ
ผู้ที่เข้ามาเป็นลูกค้าที่ปิดบังใบหน้าควรจะถูกสันนิษฐานไว้ก่อนว่า อาจมีความเป็นไปได้ว่าเพิ่งก่ออาชญากรรมมา และต้องการทำลายหลักฐานร่องรอยที่จะนำไปสู่การจับกุมตนเอง
ในท้ายที่สุด หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อนมาตรการตามที่กล่าวมาข้างต้นอย่างจริงจัง ก็เชื่อได้ว่าผู้ที่คิดจะเป็นอาชญากรคงเปลี่ยนใจ ไม่กล้าลงมือ หรือหากยังดื้อดึงก่ออาชญากรรมไม่ว่าจะในรูปแบบใด
การแกะรอยติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องยาก หากเครื่องแบบโจรอันประกอบไปด้วยการสวมฮู้ดปิดหัวสวมแว่นตาดำ และหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ซึ่งถือเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ และถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่าเป็นเครื่องแบบต้องห้ามสำหรับสุจริตชน
--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android