xs
xsm
sm
md
lg

อากาศร้อนไม่ใช่สวรรค์ สร้างความเหลื่อมล้ำ คนจนรับกรรมเต็มๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 วันอังคารที่ 30 เมษายน 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ อากาศร้อนไม่ใช่สวรรค์ สร้างความเหลื่อมล้ำ คนจนรับกรรมเต็มๆ



ชั่วโมงนี้คงไม่มีอะไรร้อนเท่ากับอากาศในประเทศไทย ภายหลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าสภาพอากาศของไทย ระหว่างวันที่ 26 – 30 เมษายน พ.ศ. 2567 จะมีความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ภาคเหนือ 44 องศา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 43 องศา ภาคกลาง 43 องศา ภาคตะวันออก 42 องศา ภาคใต้ 41 องศา กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 42 องศา

ความร้อนของอากาศที่กำลังระอุไปทั่วในเวลานี้ ทำให้กรมควบคุมโรค ต้องออกมาเตือนประชาชนให้ดูแลสุขภาพ โดยนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค ระบุว่า สถานการณ์โรคลมร้อน (Heat stroke) ช่วงเดือนมีนาคม -เมษายน 2567 เพียง 2 เดือน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 30 ราย เทียบปี 2566 ช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน 4 เดือนเสียชีวิต 37 ราย ปีนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2 เท่า กลุ่มเสี่ยงเป็นผู้สูงอายุ เด็กเล็กวัยทารกถึงอนุบาลเนื่องจากระบบระบายอากาศในร่างกายยังไม่สมบูรณ์ กลุ่มที่มีโรคเรื้อรังเช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคอ้วน เป็นต้น รวมถึงอาชีพเสี่ยงทั้งในกลุ่มคนทำงานกลางแจ้ง ทหาร ตำรวจ รปภ.

โรคลมแดดถือว่าเป็นหนึ่งในภัยเงียบที่คุกคามคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ค่อยได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปเท่าใดนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโรคนี้จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น ซึ่งรายงานของกรมควบคุมโรค มีการเก็บสถิติและเห็นแนวโน้มว่าตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้น มีผู้ป่วยเฉลี่ย 2500-3000 คนต่อปี และมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 33 คนต่อปี

คำแนะนำของหน่วยงานภาครัฐที่แจ้งให้ประชาชนเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งนั้นดูเหมือนง่าย แต่เอาเข้าจริงแล้วกลับเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายอย่างที่คิดภาครัฐคิด โดยเฉพาะกับคนที่มีรายได้น้อย ปากกัดตีนถีบ ซึ่งจำเป็นต้องออกมาทำงานหากินนอกเคหะสถาน

ยิ่งคนจนเมืองตามชุมชนแออัดแล้วยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เนื่องจากในเวลากลางวันคนกลุ่มนี้แทบไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ ด้วยเหตุที่บ้านของพวกเขาไม่ได้ระบบป้องกันความร้อนเหมือนกับบ้านคนทั่วไป ครั้นจะให้จัดหาเครื่องปรับอากาศมาไว้ที่บ้านยิ่งเป็นการเพิ่มภาระและค่าใช้จ่ายมากขึ้นไปอีก

คนกลุ่มนี้จึงไม่ต่างอะไรกับการที่ต้องมาแบกรับปัญหาโลกร้อน ทั้งที่การประกอบกิจกรรมและอาชีพของพวกเขาในแต่ละวันแทบจะมีส่วนต่อการทำให้โลกร้อนขึ้นน้อยมาก เมื่อเทียบกับกลุ่มภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีตัวเลขบ่งชี้ชัดเจนมีส่วนต่อการสร้างก๊าซเรือนกระจกเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น หากจะบอกว่าปัญหาอากาศร้อนในเมืองไทยไม่ได้เป็นปัญหาที่ว่าด้วยเรื่องสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่ลามไปถึงความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมอีกด้วย ซึ่งปรากฏให้เห็นแล้วจากสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยการอ้างว่าเป็นเพราะอากาศร้อน เช่น ผลผลิตทางการเกษตรที่ลดลงทั้งผักและเนื้อสัตว์ ทำให้ราคาขายในท้องตลาดถีบตัวสูงขึ้น เป็นต้น

กลับมามองที่การทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันต่อเรื่องดังกล่าว ต้องยอมรับว่ายังไม่ค่อยมองถึงปัญหาอากาศร้อนในมุมนี้เท่าใดนัก เนื่องจากรัฐบาลมองในภาพใหญ่และระยะยาวเกินไป เช่น การกำหนดแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ การหามาตรการต่างๆที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งมาตรการระยะยาวที่ว่านั้นไม่ได้เป็นเรื่องผิด แต่ต้องไม่ลืมว่ากว่าจะออกดอกออกผลต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งประชาชนที่ไม่ได้พิสมัยเรื่องโลกสีเขียว ไม่อาจรอได้ เพราะเรื่องปากท้องของพวกเขาสำคัญยิ่งกว่าเรื่องอื่นใด และอากาศร้อนในเมืองไทยไม่ได้เป็นสวรรค์บนดินเหมือนพวกนักกวีพร่ำบอกในสื่อสังคมออนไลน์

ถึงเวลาที่รัฐบาลควรต้องมองปัญหาในจุดเล็กๆที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตของประชาชนบ้าง โดยอาจต้องเปลี่ยนชุดความคิดใหม่ด้วยการมองว่าถ้าทำให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ก็ทำให้ออกไปประกอบอาชีพและสร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้มากขึ้น และไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากภาครัฐเพียงฝ่ายเดียวมากเกินไป

ทั้งหมดก็อยู่ที่รัฐบาลจะกล้าเปลี่ยนความคิดของตัวเองหรือไม่เท่านั้น

--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น