จังหวัดนครปฐม เปิดโครงการนำร่องการบำบัดผู้ป่วยยาเสพติดด้วยสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย มีผู้สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาจำนวนมาก ตั้งเป้าให้โปรแกรมนี้มีประสิทธิผลในเชิงประจักษ์
วันนี้ (16 พ.ค.) ศาสตราจารย์ เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการนำร่อง การบำบัดผู้ป่วยยาเสพติดประเภทแอมเฟตามีนด้วยสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย พร้อมด้วย นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และ พลตำรวจตรี ชนวีร์ ชมาฤกษ์ รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่หอประชุมชุณหะวัณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
โครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยในการบำบัดผู้ป่วยยาเสพติดประเภทแอมเฟตามีน ด้วยสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย โดยเปรียบเทียบผลตรวจทางห้องปฏิบัติการก่อนและหลังการเข้ารับการบำบัด , เพื่อเปรียบเทียบปริมาณแอมเฟตามีนในเลือด ปัสสาวะ และเส้นผมของผู้ป่วยยาเสพติดประเภทแอมเฟตามีน ก่อนและหลังเข้ารับการบำบัดด้วยสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย และเพื่อเปรียบเทียบค่าคะแนนความเข้มแข็งทางใจ ความหวังและการมองโลกในแง่ดีความตั้งใจเลิกเสพยาสพติด และคุณภาพการนอนหลับของผู้ป่วยยาสพติดประเภทแอมเฟตามีน ก่อนและหลังเข้ารับการบำบัดด้วยสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย ทั้งนี้ เพื่อติดตามการติดซ้ำของผู้ป่วยยาเสพติดประเภทแอมเฟตามีน หลังเข้าร่วมการบำบัดด้วยการตรวจปีสสาวะและการตรวจเส้นผม จัดทำคู่มือบำบัดผู้ป่วยยาเสพติดประเภทแอมเฟตามีนด้วยสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย โดยผู้เข้าร่วมการบำบัดในครั้งนี้คือ ผู้ป่วยยาเสพติดประเภทแอมเฟตามีนในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จำนวนเกือบ 30 คน ที่สมัครใจจะเข้ารับการบำบัดรักษาในโครงการเป็นเวลา 10 วัน และการจัดโครงการในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ในการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานคณะอนุกรรมการศึกษาการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดประเภทแอมเฟตามีนและสารเสพติดที่เกี่ยวข้อง ทำเนียบรัฐบาล ได้ปาฐกถาเรื่องสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในปัจจุบัน และแนวทางโปรแกรมนวัตกรรมการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดด้วยสมุนไพรและแพทย์แผนไทย กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหายาเสพติดในประเทศไทยกำลังทวีความรุนแรง และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นโยบายของรัฐบาลมีแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งต้องการให้ผู้เสพและผู้ติดยาเสพติดได้รับการบำบัดฟื้นฟูที่เหมาะสม ตามนโยบาย “ผู้เสพคือผู้ป่วย'”และสามารถกลับไปดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ แต่ก็ยังมีปัญหาต่างๆ มากมาย เช่น ผู้ติดยาเสพติดกลับมาติดซ้ำ ดังนั้น จึงเกิดโครงการ “นครพนมโมเดล” ขึ้น โดยการนำยาไทยสมุนไพรไทย และการบำบัดทางแพทย์แผนไทยเต็มรูปแบบมาใช้ เพื่อการล้างพิษยาเสพติดให้ออกจากร่างกายทุกระบบ คือ ทางอุจจาระ ทางปัสสาวะ ทางผิวหนัง และทางเหงื่อ พร้อมให้การลดอาการแทรกซ้อนต่างๆ เช่น การปวดเมื่อย นอนไม่หลับ อการลงแดง บำรุงร่างกายด้วยอาหารและยาจากสมุนไพร การออกกำลังกาย พร้อมกับสอนผู้ป่วยให้เรียนรู้สภาวะจิตของตัวเอง คือ การรู้จักตัวตน การเห็นคุณค่าของตัวตน และบำบัดจิตใจด้วยสมาธิ การสวดมนต์ การทำให้จิตมีสมาธิ มีความสุข เช่น การใช้ดนตรี ศิลปะบำบัด เป็นต้น
จากการจัดโปรแกรม “นวัตกรรมสุขภาพ” คลินิกอบอุ่น 3 จังหวัด ได้แก่ นครพนม มุกดาหาร และหนองบัวลำภู พบว่าสามารถลดการติดยาเสพติด เมตแอมเฟตีนและแอมเฟตามีนลงได้ทั้งปัสสาวะและในเลือด ด้วยหลักการล้างพิษด้วยสมุนไพร และยาไทย ในการล้างยาทางปัสสาวะ ทางอุจาระ ทำรอบตัว คือ ล้างทางรูขุมขน ประกอบกับการใช้อาหารสมุนไพร การออกกำลังกาย และการใช้จิตบำบัด แต่การอบรมทั้งสามครั้งยังไม่สามารถทำได้เต็มรูปแบบ เพราะเป็นทุนจากภาคประชาชน ดังนั้น ในการศึกษาโครงการนำร่องฯ ครั้งนี้ ได้ปรับข้อบกพร่องต่าง ๆ จากครั้งก่อนๆ อีกหลายกระบวนการ เพื่อให้โปรแกรมนี้มีประสิทธิผลในเชิงประจักษ์ มีความสมบูรณ์ตอบโจทย์ให้ประเทศ และสามารถนำไปใช้ได้จริงในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องศึกษาวิจัยให้สมบูรณ์ในการติดตามระยะยาว ตามหลักสากลยอมรับ