โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ส่งเสริมการต่อยอดในอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย พร้อมยกระดับเป็นสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ สนับสนุนเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยในตลาดโลก
วันนี้ (10 เม.ย.) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มุ่งหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย สร้างโอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจต่อยอดการผลิตสินค้าจากสมุนไพรไทย ผลักดันสมุนไพรไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดโลก ในฐานะสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ของไทย เพื่อเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยในตลาดโลก เพื่อให้เท่าทันการคาดการณ์ตลาดสมุนไพรโลกภายในปี 2573 มีมูลค่าถึง 2.7 ล้านล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมุนไพรไทยมีจุดเด่นจากสรรพคุณ มีความหลากหลายทางสายพันธุ์ รวมถึงมีการประยุกต์ใช้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ทำให้สมุนไพรไทยมีความโดดเด่นอย่างมาก ซึ่งจากข้อมูลตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั่วโลก มีมูลค่า 60,165.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภูมิภาคเอเชียมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 57.6% ซึ่งประเทศไทยมีขนาดตลาดสมุนไพรใหญ่เป็นอันดับ 4 ของภูมิภาคเอเชีย และเป็นผู้ส่งออกสมุนไพรเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน โดยเฉพาะพรรณไม้และส่วนของพรรณไม้ นอกจากนี้ ไทยยังมีสมุนไพรอีกหลายชนิดที่สามารถนำไปแปรรูป และต่อยอดเป็นสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ หรือ Made in Thailand เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าจากสมุนไพรไทย
โดยปัจจุบันภาครัฐได้จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ซึ่งเป็นความร่วมมือจาก 5 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นผู้นำในภูมิภาคด้านสมุนไพรเพื่อสุขภาพ มีการกำหนด “Herb of the year” รวมถึงจัดประกวดรางวัลผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพ (Premium Herbal Product) ของกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ตลอดจนขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองสมุนไพร 15 จังหวัด ต้นแบบ เมืองสมุนไพร ทั้งการเป็นแหล่งปลูกสมุนไพรให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมที่มีความต้องการ รวมไปถึงเพิ่มมูลค่าด้วยการจัดบริการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพภูมิปัญญาไทยและสมุนไพร ภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ 1) ด้านเกษตรและวัตถุดิบสมุนไพร 2) ด้านอุตสาหกรรมสมุนไพร และ 3) ด้านท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ความงามและการแพทย์แผนไทย
“นายกรัฐมนตรี สนับสนุนสินค้าสมุนไพรไทย ควบคู่กับยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยให้เติบโตได้ในตลาดสมุนไพรโลก เพื่อให้สองคล้องกับความต้องการทางตลาดตามที่ได้มีการคาดการณ์ รวมทั้งผลักดันให้เป็นสินค้าซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น” นายชัย กล่าว