“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 3 เมษายน 2567 ตอน ปรับ ครม.กระตุ้นปั๊มผลงาน นายใหญ่รอตรวจ
กระแสข่าวเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรีที่กำลังแรงในเวลานี้ ส่วนหนึ่งมาจากการได้รับอิสรภาพของ 'ทักษิณ ชินวัตร' จริงอยู่ที่นายกรัฐมนตรียังชื่อ 'เศรษฐา ทวีสิน' แต่นายใหญ่ตัวจริงและผู้มีบารมีนอกรัฐบาลเป็นใครนั้นคนในพรรคเพื่อไทยต่างรู้ดี
ลองคิดดูว่าระหว่าง 'ทักษิณ' กับ 'เศรษฐา' เสียงใครจะดังกว่ากัน
ถ้าใครจำการบริหารงานการเมืองของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว จะพบว่านายกฯที่ชื่อทักษิณ จะเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีทุก 6 - 7 เดือน โดยมีเกณฑ์ว่ารัฐมนตรีของพรรคที่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อต้องอกกจากตำแหน่งส.ส.เพื่อให้ทุ่มเทกับงานของฝ่ายบริหาร โดยหากคนไหนไม่ทำงานไม่เข้าเป้า จะถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งหรือไม่ก็ออกจากคณะรัฐมนตรีไปทันที
ทำให้รัฐมนตรีหลายคนต้องทำงานยกระดับตัวเอง ดังนั้น อย่าได้แปลกใจว่าเมื่อรัฐบาลเศรษฐาเดินทางมาถึงประมาณครึ่งปี จึงเริ่มมีข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีกระพือขึ้นมา เรียกได้ว่าเป็นการถอดโมเดลมาจากสมัยพรรคไทยรักไทย
การปรับคณะรัฐมนตรีรอบนี้ส่วนใหญ่จะจำกัดวงเฉพาะรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเป็นสำคัญ โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่เห็นประจักษ์แล้วว่าเศรษฐาควบเก้าอี้ขุนคลังไม่ไหว
ทำให้ปรากฎชื่อ 'พิชัย ชุณหวชิร' ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ มาอยู่ในโผเก้าอี้ขุนคลังคนใหม่ เพื่อเข้ามาดูแลภารกิจการจัดเก็บรายได้ของประเทศเป็นการเฉพาะ หรือแม้แต่การออกมาเป็นคนปะฉะดะกับธนาคารแห่งประเทศไทยแทนนายกฯเศรษฐา
อีกหนึ่งตำแหน่งที่น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน คือ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ของ พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ภายหลังผลงานไม่เข้าตาหลายด้านทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาล รวมไปถึงความไม่ชัดเจนในแนวทางการทำให้พรรคเพื่อไทยกลับมาครองใจคนเมืองหลวง แต่อาจจะยังไม่ถูกปรับออกจากรัฐบาล โดยอาจสลับไปนั่งเจ้ากระทรวงวัฒนธรรมแทนนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ที่ดูเหมือนว่ายังไม่ถนัดงานศิลปวัฒนธรรมเท่าใดนัก
ขณะที่ พรรคร่วมรัฐบาลในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ น่าจะมีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน โดยเฉพาะการหาคนมาเป็นรัฐมนตรีคนที่ 4 ของพรรค ซึ่งวางตัว 'ไผ่ ลิกค์' ส.ส.กำแพงเพชร เอาไว้ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แต่ไผ่ยังไม่เคลียร์เรื่องคุณสมบัติ ก็เป็นโอกาสตัวสำรองอย่าง 'อรรถกร ศิริลัทธยากร' ส.ส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะรัฐมนตรีสำรองพร้อมเข้ารับงานทันที
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจของข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีอยู่ที่กระแสข่าวการดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาร่วมรัฐบาล ที่อยู่ดีๆกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนก็มีความเป็นไปได้ที่พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของ 'เฉลิมชัย ศรีอ่อน' หัวหน้าพรรค อาจฉีกม่านประเพณีไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย แต่สถานการณ์ในปัจจุบันต่างกับในอดีตอย่างสิ้นเชิง
ทั้งนี้ ใครจะไปคิดว่าอยู่ดีๆพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาได้รับกระแสตอบรับดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลทั้งการอภิปราย และการไล่ล่าหาข้อเท็จจริงกรณีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ผิดกับพรรคก้าวไกลที่ก่อนหน้านี้ยังไม่ค่อยตื่นตัวในการตรวจสอบกรณีชั้น 14 เท่าใดนัก เพิ่งจะมาตั้งหลักได้ภายหลังทักษิณได้รับการพักโทษ
พรรคประชาธิปัตย์ อาจประเมินตัวเองว่ากำลังมาถูกทางแล้ว ครั้นจะให้ไปร่วมรัฐบาลตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเองเกินไป การเลือกที่จะทนในหน้าที่ฝ่ายค้านน่าจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคมากกว่า เพราะอย่างน้อยเป็นโอกาสที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ชุบตัวเองขึ้นมาใหม่
หากในอนาคตสามารถกลับไปยืนในจุดเดิมที่เคยทำได้ ถึงเวลานั้นการจะไปร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยหรือพรรคก้าวไกล ก็มีแต่ได้กับได้ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าพรรคประชาธิปัตย์จะอดทนต่อความอดอยากปากแห้งได้นานแค่ไหน
------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android