xs
xsm
sm
md
lg

ภาพสยอง “เศรษฐา” เลื่อนแจก “เงินดิจิทัล”!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เศรษฐา ทวีสิน
เมืองไทย 360 องศา

ถ้าพิจารณากันตามความรู้สึกกันในตอนนี้ ก็ต้องยอมรับว่า ทั้งรัฐบาล ทั้งพรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนนำที่หาเสียงเรื่องการ “แจกเงินดิจิทัล” หัวละหมื่นบาท ให้กับคนไทยตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป กำลังตกอยู่ในความเครียด โดยเฉพาะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เนื่องจากจนถึงเวลานี้ ยังไม่มีความชัดเจนอะไรเลย และที่ผ่านมา ก็มีการเลื่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินหมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต หรือ “บอร์ดใหญ่” มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ก็เลื่อนประชุมแบบไม่มีกำหนด

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบว่า “จะหาเงินมาจากไหนมาแจก” ขณะที่เวลาที่รับปากเอาไว้ว่าจะเริ่มดีเดย์กัน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปีหน้าเป็นต้นไป

ดังนั้น หากพิจารณาจาก “ไทม์ไลน์” ที่กำหนดเอาไว้ว่าจะเริ่มแจกกันตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 หากนับจากวันนี้เริ่มเดือนพฤศจิกายน ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่วันเท่านั้น ขณะที่ชาวบ้านก็เร่งวันเร่งคืน เพื่อจะได้เงินดังกล่าว แม้ว่าส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าจะแจกกันแบบไหน ใช้จ่ายอย่างไรก็ตาม แต่เอาเป็นว่า “อยากได้เงินหมื่น” ก็แล้วกัน

ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายที่รวมถึงบรรดานักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการมากมาย ต่างออกมาแสดงความมั่นใจว่า รัฐบาลต้อง “เลื่อนแจก” แน่นอน หรือไม่ก็ต้องลดขนาดลงมา จากเดิมที่บอกว่าจะ “แจกถ้วนหน้า” นั่นคือ แจกคนไทยตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน จะปรับมาเป็น “ตัดคนรวย” หรือพิจารณาตามเกณฑ์รายได้ต่อเดือน หรือตามบัญชีเงินฝาก พิจารณา “แยกรวยจน” ออกมา

อย่างไรก็ดี นายเศรษฐา ทวีสิน ยังคงยืนยันว่า จะเริ่มแจกในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปีหน้า แน่นอน โดยล่าสุด ยืนยันกับประชาชน ระหว่างไปตรวจราชการที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังยืนยันคำเดิม หรือก่อนหน้านั้น ก็ยังย้ำว่า แจกทุกคนและแจกรวดเดียว แต่อาจปรับในเรื่องรัศมีการใช้จจ่ายเงินจากเดิมที่กำหนดว่าภายในรัศมี 4 กิโลเมตร อาจจะขยายเป็นขอบเขตอำเภอเท่านั้น

แต่ถึงกระนั้น กระแสความเชื่อว่า “ต้องเลื่อนแจก” ต้องมีแน่นอน รวมไปถึงการลดขนาดการแจก เช่น การ “ตัดคนรวย” ออกไป โดยการแจกเฉพาะคนที่มีความต้องการจริงๆ หรือ “แยกรวยจน” ออกมา โดยจะพิจารณาตามบัญชีเงินเดือน บัญชีเงินฝาก ก็ว่าไป ซึ่งก็จะเป็นการลดงบประมาณที่จะมาใช้จ่ายลงไป เป็นแสนล้านบาท แต่ไม่ว่าจะลดแบบไหนก็ตาม ก็มีคนมองเห็นว่า จำนวนเงินที่นำมาใช้ในโครงการก็ยังสูงอยู่ดี ทำให้เริ่มมองเห็นแล้วว่า รัฐบาลกำลังพยายาม “หาทางลง” หรือ “ล้มโครงการ” โดยจะอ้างทั้งเสียงคัดค้าน และเรื่องกฎหมายสารพัด แต่สาเหตุที่แท้จริง ก็คือ “รัฐบาลไม่มีเงินมาแจก” นั่นเอง

เพราะเวลานี้มีเงินงบประมาณที่พอ “เค้น” ออกมาได้เพียงแค่ “แสนล้านบาท” เท่านั้น และหากเดินหน้าต่อ ก็ไม่มีทางดำเนินการได้ทันภายในเดือนกุมภาพันธ์แน่นอน ซึ่งคนที่ออกมาฟันธงดังกล่าวหนึ่งในนั้น ก็คือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่เกาะติดเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น

สำหรับความเชื่อที่ว่า ต้อง “เลื่อนแจก” ค่อนข้างแน่ ล่าสุด ก็เป็นความเห็นของ นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ระหว่างไปร่วมงานเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ “นานาทัศนะกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท : เป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้ความท้าทายและพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปของประเทศ” จัดโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ก่อนหน้านี้ โดยกล่าวว่า โครงการนี้มีหลายอย่างที่ต้องปรับเปลี่ยน เช่น การให้สิทธิประชาชน 56 ล้านคน หลายฝ่ายเห็นว่าไม่ควรแจกคนรวย เพราะไม่ได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากคนรวยจะเอาเงินส่วนนี้ทดแทนค่าใช้จ่าย และเก็บเงินของตัวเองไว้แทน แต่ถ้าให้คนที่พอมี จะนำไปใช้หนี้

ดังนั้น ตัวเลขประชาชนที่ได้สิทธิจะเหลือ 40 กว่าล้านคน ซึ่งยังไม่รวมผู้ที่ไม่มาลงทะเบียนอีก จึงเชื่อว่า โครงการดังกล่าวจะใช้เงินจากงบประมาณ แต่คงไม่ถึง 500,000 ล้านบาท โดยผ่านการอนุมัติจากสภา ซึ่งงบฯ ดังกล่าวอาจล่าช้า ไม่น่าจะทันในเดือน ก.พ. 67

“ผ่านระบบงบประมาณ ซึ่งรัฐสภาอนุมัติ เผอิญระบบงบประมาณล่าช้า เสร็จประมาณเมษายนเป็นอย่างเร็ว ที่ประกาศว่า เดือนกุมภาพันธ์ เป็นไปไม่ได้ เพราะงบประมาณไม่เสร็จ ดังนั้น ต้องหลังเมษายน 2567 และต้องใช้ให้ได้ภายในเดือนกันยายน 2567” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวว่า ขณะเดียวกัน จะเร่งดำเนินการงบประมาณปี 2568 ไปด้วย เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และแล้วเสร็จในเวลาใกล้เคียงกัน ส่วนเงื่อนไขใช้เงินได้ในระยะรัศมี 4 กิโลเมตรนั้น คงไม่มีแล้ว แต่จะให้อยู่ในอำเภอ หรือเขตเดียวกัน เพื่อให้เกิดการกระจายอย่างทั่วถึง

“วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ ทั้งข้างบน ข้างล่าง ตรงกลาง กรอบหมดแล้ว ไม่สามารถจะกู้เพิ่ม รายได้ก็ไม่มี ฉะนั้น โครงการนี้จึงจำเป็น ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่น ความคึกคัก แต่โครงการนี้ต้องควบคู่ไปกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ และโครงการทางเศรษฐกิจที่ต้องทำให้มองเห็น ซึ่งเป็นโจทย์ยากที่รัฐบาลต้องทำให้สอดคล้องกันให้ได้” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวต่อว่า รัฐจำเป็นต้องแจกเงินเป็นเงินดิจิทัลเพื่อบังคับให้มีการใช้จ่าย ส่วนคนที่จะมาขึ้นเงินก็ต้องลงทะเบียนและเสียภาษีด้วย ทั้งนี้ การแจกเงินอาจได้ไม่พร้อมกัน และอาจได้ใช้เงินในช่วงที่มีวันหยุด เช่น ปีใหม่ หรือสงกรานต์ เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว และเชื่อว่า 90% น่าจะกลับไปใช้แอปพลิเคชัน เป๋าตัง เนื่องจากการพัฒนาระบบขึ้นมาใหม่ ต้องใช้เวลานาน และยุ่งยาก

สรุปจากคำพูดของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีคนนี้ ก็คือ “เลื่อนแจก” แน่นอน และใช้เงินงบประมาณ ซึ่งจะใช้ได้ราวเดือนกันยายน ต้องลงทะเบียน โดยใช้ “แอปฯเป๋าตัง” และไม่แจกทุกคน ดังนั้น ไม่มีแล้วเรื่อง “ซูเปอร์แอปฯ” ที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ เพราะต้องใช้เวลานาน และมีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งความคิดที่ว่านี้ก็ไม่ได้ผิดแผกไปจากการคาดหมายของหลายคนก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ล่าสุด กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วันอังคารที่ 31 ตุลาคม ก็ยังอ้ำอึ้งไม่ชัดเจน เกี่ยวกับเรื่องการแจกเงินดิจิทัล ว่า จะแจกได้เมื่อไหร่กันแน่ รวมไปถึงที่มาของเงิน ก็ยังไม่มีการพูดถึง อ้างแต่เพียงว่าข้อมูลกระจัดกระจาย ต้องมีการประชุมเพื่อกำหนดการให้ข้อมูลไปในทางเดียวกัน ส่วนเรื่องการประชุมของคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่เขาเป็นประธาน ก็ยังไม่กำหนดวันแต่อย่างใด

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากลีลาท่าทางแล้วการ “แจกเงินดิจิทัล” ต้องเลื่อนออกไปอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าจะเลื่อนไปถึงไหน นั้นอีกเรื่องหนึ่ง รวมไปถึงการลดขนาดงบประมาณ คัดแยกคนรวย คนจนออกมาหรือไม่ ก็ต้องรอดู แต่ไม่ว่าจะออกมาแบบไหน รับรองว่า “เศรษฐา” และพรรคเพื่อไทย เละแน่ หรือจะ “สยดสยอง” ทางการเมืองแค่ไหน ที่สำคัญอาจเป็นการนับถอยหลัง ในเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเลยก็เป็นไปได้สูง งานนี้ถือว่า “หมดหน้าตัก” หรือเปล่า !!



กำลังโหลดความคิดเห็น