“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2566 ตอน รัฐบาลเศรษฐา1 โจทย์ใหญ่แก้เศรษฐกิจ ผลงานไม่ปัง...พังทั้งกระดาน
ไม่น่าเชื่อว่ากว่าจะตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการได้ต้องใช้เวลาไปกว่าสามเดือน ซึ่งตลอดเส้นทางที่กว่าจะมีรัฐบาลเศรษฐา1 เรียกได้ว่าการเมืองไทยเกิดการพลิกไปพลิกมาพอสมควร
พรรคเพื่อไทยเองแม้จะคุ้นเคยกับเกมการเมืองทำนองนี้มาไม่น้อย แต่ก็เกือบเอาตัวไม่รอด โดยเฉพาะต้องมาเจอกับเกมต่อรองอย่างสุดซอยของพรรคพลังประชารัฐ ที่แม้จะมีเสียงไม่มาก แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ สามารถกุมเสียงส.ว.ไว้ได้ส่วนหนึ่ง กว่าที่พรรคเพื่อไทยจะปิดดีลได้ ก็ต้องยอมเฉือนเนื้อให้ไป
ทั้งนี้ ตามไทม์ไลน์ภายหลังโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรีชุดใหม่และถายสัตย์ปฏิญาณตนอย่างเป็นทางการตามรัฐธรรมนูญ คาดว่าการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาจะมีขึ้นได้ช่วงเร็ววันนี้ และรัฐบาลจะเริ่มมีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดินนับจากนั้น
การก้าวขึ้นมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งของพรรคเพื่อไทยในทศวรรษนับตั้งแต่รัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกตั้งความหวังไว้ว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ให้กับประชาชนได้
แต่เมื่อดูจากโครงสร้างของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค ปรากฎว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้คุมกระทรวงเศรษฐกิจที่คุมนโยบายแก้ปัญหาให้กับประชาชนฐานราก อย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย เพราะต้องตกเป็นของพรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทยตามลำดับ
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นที่ทราบกันดีว่าหัวใจอยู่ที่กรมชลประทานที่ควบคุมการบริหารจัดการน้ำให้กับเกษตรกรทั้งระบบ ซึ่งเกษตรกรเองก็ล้วนเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย หรือกระทรวงมหาดไทยที่ควบคุมการบริหารราชการส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ก็มีบทบาทสำคัญในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจเช่นกัน
ดังจะเห็นได้จากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่มีเม็ดเงินมากกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาทผ่านกระทรวงมหาดไทย จึงไม่แปลกที่จะมีแชทหลุดในกลุ่มสนทนาของส.ส.พรรคเพื่อไทยที่แสดงถึงความไม่พอใจต่อการจัดสรรตำแหน่งรอบนี้
กระทรวงเศรษฐกิจในมือพรรคเพื่อไทยที่เป็นเนื้อเป็นหนังก็มีเพียงกระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม ซึ่งในส่วนของกระทรวงคลังที่นายกฯเศรษฐาเข้าควบตำแหน่งเจ้ากระทรวงด้วยตัวเองก็หวังผลักดันนโยบายเงินดิจิทัลให้เป็นผลสำเร็จ
แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นการการันตีว่า จะทำได้จริงหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่ากระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานที่ทำงานในแบบอนุรักษ์นิยมพอสมควร หากนายกฯเศรษฐาเจอการทัดทานด้วยข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศที่อาจไม่เอื้อต่อการดำเนินนโยบายเงินดิจิทัล รัฐบาลจะกล้าแหวกม่านประเพณีหรือไม่
ไม่เว้นแม้แต่กรณีของกระทรวงคมนาคม ซึ่งพรรคเพื่อไทยพยายามผลักดันนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 ตลอดสาย ก็ยังถูกตั้งข้อสงสัยว่าจะเอาเงินจากไหนมาอุดหนุน เนื่องจากการเก็บค่าโดยสารของรถไฟฟ้าต้องอยู่ภายใต้สัญญาที่ทำไว้กับเอกชน
เอาแค่สองกระทรวงนี้ ถ้าผลงานไม่ออกให้เห็นประจักษ์ภายใน 1-2 ปี ถึงเวลานั้นรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ต้องเตรียมรับแรงปะทะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขณะเดียวกัน ยังไม่นับการกลับมาเข้ามารับโทษของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ช่วงแรกดูเหมือนจะกระแสเป็นบวกจากการเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ทำไปทำมาจนถึงขณะนี้เริ่มจะไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว แถมจะเป็นไม่เป็นผลบวก แต่เป็นระเบิดเวลาต่อรัฐบาลด้วย
เมื่อมองภาพรวมทั้งหมดรัฐบาลชุดนี้อาจมีโชคดีอยู่บ้างที่กระแสต่อต้านอาจะไม่ถึงขั้นทำให้ล้มรัฐบาลได้ แต่ถึงกระนั้นต้นทุนทางการเมืองที่จะเหลือพอสำหรับการพารัฐบาลไปให้ได้ตลอดรอดฝั่ง คงจะเหลือน้อยเต็มที
---------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1