xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ศึกชิง ส.ส.ระยอง ก้าวไกลไฟต์บังคับ วัดกระแส ‘พิธาฟีเวอร์’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 16 สิงหาคม 2566 ตอน ศึกชิง ส.ส.ระยอง ก้าวไกลไฟต์บังคับ วัดกระแส ‘พิธาฟีเวอร์’



พรรคก้าวไกลในฐานะว่าที่แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรกำลังเจอกับภารกิจท้าทายครั้งสำคัญในการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เพื่อรักษาพื้นที่จังหวัดระยอง เขต 3

หลังจาก นายนครชัย ขุนณรงค์ หรือ ไอซ์ ต้องลาออกเนื่องจากถูกตรวจสอบขาดคุณสมบัติเนื่องจากเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน

ย้อนกลับไปดูสถิติจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดพบว่าพรรคก้าวไกลกวาดคะแนนในพื้นที่นี้ไปได้ 29,034 คะแนน ตามมาด้วยอันดับสองอย่างนายพายัพ ผ่องใส ของพรรคพลังประชารัฐ 21,726 คะแนน และนายบัญญัติ เจตนจันทร์ จากพรรคประชาธิปัตย์ 14,668 คะแนน

เมื่อดูจากคะแนนครั้งที่ผ่านมาแล้ว จะเห็นได้ว่าพรรคก้าวไกลทิ้งห่างคู่แข่งพอสมควร

ถึงเวลานี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า นอกจากผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่เป็นต่อพรรคคู่แข่งแล้ว กระแสของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังถือว่าแรงต่อเนื่องพอสมควร เห็นได้จากการลงพื้นที่ช่วยนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลหาเสียง ปรากฎว่าได้รับการต้อนรับจากแฟนคลับอย่างล้มหลามท่ามกลางฝนที่เทะกระหน่ำอย่างต่อเนื่องเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กระแสของพรรคก้าวไกลยังจุดติดอยู่มาจากการที่ต้องตกมาเป็นฝ่ายค้าน ทั้งๆ ที่มีจำนวน ส.ส.มากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งการยังย้ำจุดยืนเดิมอย่างหนักแน่นว่ามีลุงไม่มีเรา ทำให้ยังได้ใจแฟนคลับของพรรคต่อเนื่อง แม้ว่าพรรคจะต้องกลับไปเป็นฝ่ายค้านอีกครั้ง

ขณะที่ คู่แข่งของพรรคก้าวไกลนั้นไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชารัฐหรือพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะทำอย่างไรกับพื้นที่เขต 3 เนื่องจากมีกระแสข่าวออกมาตลอดว่า พรรคประชาธิปัตย์ที่ถึงแม้จะไม่ได้ร่วมเป็นรัฐบาลในอนาคต แต่ได้ประสานไปยังพรรคพลังประชารัฐเพื่อหลีกทางให้พรรคประชาธิปัตย์ทวงคืนพื้นที่จังหวัดระยอง

ซึ่งพรรคพลังประชารัฐเองก็ยังไม่ตอบรับ หรือปฏิเสธกับข้อเรียกร้องของพรรคประชาธิปัตย์เนื่องจากเห็นว่าพรรคพลังประชารัฐเองมีคะแนนเป็นอันดับสองย่อมมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะขอท้าชิงกับพรรคก้าวไกล

จึงมีความเป็นไปได้ที่สองนี้จะต้องลงแข่งเพื่อตัดคะแนนกันเองอย่างเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เองส่งผลให้พรรคก้าวไกลที่ยังมีกระแสจากหัวคะแนนธรรมชาติคอยสนับสนุน จึงยังเป็นตัวเต็งที่จะรักษาพื้นที่นี้ได้อีกครั้ง

แต่อย่างไรก็ตาม พรรคก้าวไกลยังต้องเผชิญกับอุปสรรคขัดขวางหนสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง คือ กระแสต่อต้านการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ถึงแม้พรรคก้าวไกลจะยึดมั่นในอุดมการณ์ว่าไม่ยอมอ่อนข้อให้กับเรื่องนี้ แต่ในอีกมุมหนึ่งของสังคมมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วยกับจุดยืนของพรรคก้าวไกล

โดยมองว่าพรรคก้าวไกลให้พื้นที่ทางการเมืองกับวาระมาตรา 112 มากเกินไป จนละเลยการแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชน

ไม่เพียงเท่านี้ ยังเกิดปรากฏการณ์ที่ส.ส.พรรคก้าวไกลถูกเพ่งเล็งเรื่องจริยธรรม เช่น กรณีของนายยสิริน สงวนสิน ส.ส.กทม.ที่มีปัญหาระหองระแหงกับแฟนสาวถึงขั้นมีการแจ้งความกับตำรวจ ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะยุติคดีและไม่เอาความกันอีก

หรือกรณีเมาแล้วขับของนางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จนต้องประกาศลาออกในเวลาต่อมา ไม่เว้นแม้แต่การโพสต์ภาพพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 แม้ฝ่ายหนึ่งอาจจะมองว่ากรณีที่ว่ามานี้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่เอาเข้าจริงแล้วในทางการเมือง ปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคก้าวไกลก็เสียรังวัดไปไม่น้อย

ดังนั้น การเลือกตั้งในวันที่ 10 กันยายน หากพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งอีกครั้งถือว่าแค่ทำได้เสมอตัวในฐานะเจ้าของพื้นที่เดิม แต่หากแพ้ขึ้นมาย่อมสั่นคลอนพรรคก้าวไกลได้พอสมควรเลยทีเดียว

---------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )

ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1


กำลังโหลดความคิดเห็น