MGR Online - “พ.ต.ต.ณฐพล” เผย ลูกชาย“เฮียเก้า” รับเป็นกรรมการ 9 บริษัท ทำธุรกิจหลายอย่าง แต่ปฏิเสธเกี่ยวข้องส่งออกตีนไก่สวมสิทธิไปจีน นำเอกสารชี้แจงอีกครั้ง 25 เม.ย.
วันนี้ (27 มี.ค.) พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยการสอบปากคำ นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ผู้ต้องหาในคดีสวมสิทธิตีนไก่ส่งออกประเทศจีน ว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ให้การเป็นประโยชน์ในบางส่วน พนักงานสอบสวนจึงมีความเห็นเสนอต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดี ให้ประกันตัวชั่วคราวด้วยการวางหลักทรัพย์ 200,000 บาท ก่อนนัดหมายให้ผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวและสอบปากคำในประเด็นตกค้างอื่นๆ อีกครั้งในวันที่ 25 เม.ย.
พ.ต.ต.ณฐพล เผยว่า ส่วนประเด็นการสอบสวนเรื่องการประกอบธุรกิจ เพราะรายงานการสืบสวนสอบสวน พบว่า ผู้ต้องหาได้เข้าไปเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามถึง 9 บริษัท ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นกรรมการจริง แต่การบริหารจัดการก็มีคนอื่นๆ มาดำเนินการด้วย โดยแต่ละบริษัทก็มีหุ้นส่วนมาร่วมลงทุน เป็นธุรกิจเกี่ยวกับผ้าอ้อมเด็ก ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าเกษตร จำพวกขายส่งเนื้อสัตว์ และเมื่อพนักงานสอบสวนสอบถามเรื่องการโอนเงิน หรือการทำธุรกรรมทางการเงินนั้น เจ้าตัวปฏิเสธตอบคำถาม แต่กล่าวอ้างถึงผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ในบริษัทแทน โดยยืนยันว่าตัวเองไม่รู้เรื่อง มีบทบาทเพียงเป็นผู้ติดต่อประสานงาน พร้อมปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจขายส่งตีนไก่สวมสิทธิไปยังประเทศจีน ทำเพียงธุรกิจนำผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปจากประเทศจีนมาจำหน่ายในประเทศไทยเท่านั้น
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวกับข้าราชการฝ่ายการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะในกรณีของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และในฐานะอดีต รมว.เกษตรฯ เนื่องจากผู้ต้องหาได้มีการใช้นามสกุล “ปิยพรไพบูลย์” ซึ่งเป็นนามสกุลของพี่ชายนายเฉลิมชัย คือ นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ โดยเจ้าตัวให้การว่า นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า ผู้เป็นพ่อ ได้พาเจ้าตัวไปหา นายวิรัช ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อไปขอใช้นามสกุล ทั้งนี้ ยืนยันว่า เฮียเก้า เป็นคนดำเนินการเองทั้งหมด ตัวเองไม่รู้เรื่องอะไรด้วย และจะนำเอกสารการเปลี่ยนแปลงชื่อ-นามสกุล มาชี้แจงอีกครั้ง เนื่องจากชื่อเดิม คือ “นายปรีชา แซ่จ้าว”
“นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังสอบถามว่ารู้จักกับ นายสมเกียรติ กอไพศาล อดีตเลขาฯ ส่วนตัวของนายเฉลิมชัย หรือไม่ ซึ่งนายสมเกียรติ หรือ เฮียเกียรติ ก็เป็น 1 ใน 5 ผู้ต้องหาในคดีเดียวกันกับนายกรินทร์นั้น เจ้าตัวระบุว่า เคยเจอกับนายสมเกียรติ ที่งานสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย ซึ่งมีเฺฮียเก้าก็ดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคม”
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวด้วยว่า เมื่อพนักงานสอบสวนสอบถามนายกรินทร์ เกี่ยวกับการรับโอนเงิน 20 ล้านบาท จากเฮียเก้า คือยอดเงินอะไร ซึ่งนายกรินทร์ให้การว่า 20 ล้านบาทนี้ เป็นค่าก่อสร้างบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ แต่ไม่ได้ระบุว่า เป็นค่าทำธุรกิจขายส่งตีนไก่ไปยังประเทศจีน ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือตอบเฉพาะเรื่องทั่วไป แต่ถ้าเป็นเรื่องการทำธุรกิจต่างๆ ให้การเพียงแค่ว่าเป็นเรื่องของกรรมการและหุ้นส่วนรายอื่นๆ