บช.ก.ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลฯ เปิดปฏิบัติการ“สับสวิตช์ปิดตาย 525 ดับฝันลิงก์เว็บพนัน วัยรุ่นสร้างตัว” ลุยค้น 31 จุดทั่วประเทศ จับผู้ต้องหา 44 ราย ยึดทรัพย์สิน 69 ล้าน รวมฟาร์มควายดีกรีระดับแชมป์ 2 ตัว
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป. นายประสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ร่วมกันแถลงข่าวผลการเปิดปฏิบัติการ “สับสวิตช์ปิดตาย 525 ดับฝันลิงก์เว็บพนัน วัยรุ่นสร้างตัว” จับกุมผู้ต้องหา 44 ราย แบ่งเป็นตัวการ 20 ราย และ บัญชีม้า 24 ราย ตรวจยึดของกลาง 1,913 รายการ เป็นเงินสด 8,754,580 บาท พระเลี่ยมทอง, ทองคำ, กระเป๋าแบรนด์เนม, โฉนดที่ดิน, ควายพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ชื่อ จ้าวเพชรสาเกต และ มีตังค์ รวม 2 ตัว ราคา 5,600,000 บาท ควายสวยงาม และวัวพันธุ์บาห์มัน 22 ตัว อาวุธปืน, สมุดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) 928 เล่ม,บัตรเอทีเอ็ม (บัญชีม้า) 675 ใบ, โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต รวม 596 เครื่อง, ซิมการ์ดพร้อมใช้ 441 ชุด หนังสือเดินทางคนต่างด้าว 76 ชุด, ชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 13 เครื่อง รวมทรัพย์สินที่ถูกตรวจยึด มูลค่าทั้งหมดประมาณ 69 ล้านบาท
นายประเสริฐ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทั้งได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามเกี่ยวกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ มี พล.ต.ท.จิรภพ เป็นหัวหน้า ที่ผ่านมา ได้มีการตรวจสอบเว็บผิดกฏหมาย ทั้งเว็บพนันออนไลน์ เว็บลามกอนาจาร และเว็บมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ หลังจากตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกแล้วจึงได้มอบหมายให้ ผบช.ก.สืบสวนดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิด จนพบว่า มีกลุ่มวัยรุ่น คนทำงาน ที่มีฐานะร่ำรวยผิดปกติในระยะไม่เกิน 1-2 ปี เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกระทำความผิดจริง จึงได้ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 63 หมายจับ ตรวจค้น 31 เป้าหมายทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาได้ 44 คน ยึดของกลางได้เกือบ 2 พันรายการ มูลค่ากว่า 69 ล้านบาท ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กระทรวง DE ได้ปิดเว็บพนันออนไลน์ ที่ได้รับการร้องเรียนและจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ได้ปิดเว็บไปเกือบ 4 หมื่นเว็บแล้ว แต่ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ไล่ปิดอยู่ตลอดเวลา
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า หลังจากได้รับข้อมูล ตำรวจสอบสสนกลางได้สืบสวนใช้เวลาเกือบ 3 เดือน พบว่า มีการกระทำความผิดจริง พบเว็บพนัน 525 เว็บพนัน ที่แตกออกมาจาก 30 เว็บหลัก โดยมีผู้ต้องหาอยู่ 10 กลุ่ม กระจายอยู่ในหลายจังหวัด จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่บูรณาการเปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมจนได้ผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางได้ดังกล่าว แบ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์ 5 คน, กลุ่มเปิดบัญชีม้า จำนวน 24 คน, กลุ่มคนกด-ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม จำนวน 8 คน, กลุ่มพนักงานทำเว็บพนัน จำนวน 7 คน
ผบช.ก.กล่าวต่อว่า จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับรับว่าได้กระทำความผิดจริง โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ เริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดหาบัญชีม้า, กระบวนการเปิดบัญชีม้า, กลุ่มคนทำเว็บพนัน แอดมิน, คนทำกราฟิก, คนทำบัญชี และกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ โดยแต่และกลุ่ม ได้รับผลประโยชน์เป็นทรัพย์สินแตกต่างกัน
สำหรับกลุ่มนายหน้าจัดหาบัญชีม้าพร้อมใช้ ต้องมีพาสปอร์ตหรือบัตรประจำตัวประชาชน, สมุดบัญชี, บัตรเอทีเอ็ม, ชิมการ์ดโทรศัพท์พร้อมใช้ ได้รับเงินค่าจ้างจากเจ้าของเว็บหรือผู้จ้าง จำนวน 6,500-15,000 บาท โดยจะเอาเงินไปให้ผู้เปิดบัญชีเป็นค่าตอบแทนตั้งแต่ 1,500-3,000 บาท ทั้งนี้บัญชีม้าบางรายได้ ยังได้รายเดือนเดือนละ 500 บาทต่อบัญชี
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีลักษณะการเช่าบัญชีม้ารายเดือน เดือนละ 5,000 นอกจากนี้ หากบัญชีม้าที่กลุ่มนายหน้าจัดหามาเกิดมีการปิดบัญชี หรือไม่ส่งมอบเงินให้ตามที่ตกลง ก็จะมีกลุ่มบุคคลเข้าไปติดตาม ทำร้ายร่างกาย เตะ ต่อย บางครั้งมีการใช้ไม้เบสบอลทุบตีให้ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มผู้ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม จะได้เงินค่ากดครั้งละ 1,000-50,000 บาทต่อครั้ง หากถอนเงินหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร จะได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า แล้วแต่จำนวนยอดรวมที่กดเงิน กลุ่มที่ 3 กลุ่มพนักงาน (แอดมิน, คนทำบัญชี, ฝ่ายโฆษณา, คนทำระบบ) ได้รับค่าตอบแทนรายเดือน รวมกับโบนัสเป็นแรงจูงใจจากเจ้าของเว็บพนันแล้วแต่จะตกลงกัน กลุ่มที่ 4 เป็นผู้รับผลประโยชน์จะนำเงินที่ได้จากเว็บพนัน โดยนำไปซื้อทรัพย์สินและเอาไปฟอกในธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ซึ่งในกรณีนี้มีการตรวจยึดฟาร์มกระบือสวยงาม ระดับพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ดีกรีแชมป์การประกวดกระบือ ราคาตัวละหลายล้านบาท พบเปิดทำมาแล้วหลายปีด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหารายสำคัญที่จับกุมตัวได้ในปฏิบัติการครั้งนี้ คือ น.ส.อารัญ มงคลเมือง หรือ เสี่ยเฟรม อายุ 33 ปี และ น.ส.สุนันทา คำมาดี หรือ ซ้อนิ่ม อายุ 27 ปี อดีต รอง ผอ.โรงเรียนอนุบาลเอกชนใน จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นแฟนสาวของ น.ส.อารัญ โดยทั้งคู่เป็นเจ้าของ ฟาร์มศิริมาบ้านควายงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด หลังตรวจพบพยานหลักฐานว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญของขบวนการรับจัดหาบัญชีม้าให้กับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ เริ่มมีทรัพย์สินเงินทองที่ได้มาจากการกระทำผิดเพิ่มมากขึ้น จึงเริ่มหาวิธีการฟอกเงิน โดยการผันตัวมาเปิดฟาร์มควายสวยงามชื่อดัง ลงทุนซื้อพ่อพันธุ์ราคาแพง เพื่อนำมาเปิดขายน้ำเชื้อให้กับผู้ที่สนใจ ให้ดูเหมือนว่ามีรายได้มาจากธุรกิจดังกล่าว เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบ
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติการเสียภาษีรายได้ย้อนหลัง พบว่า ทั้งสองไม่เคยมีการยื่นเสียภาษีรายได้ หรือ ชี้แจงเงินที่มาของรายได้แต่อย่างใดสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้ขณะเข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้งสองราย เป็นสมุดบัญชีธนาคาร หรือบัญชีม้า รวมกว่า 500 บัญชี จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสมุดบัญชีธนาคารแต่ละเล่ม เฉพาะในห้วงเวลา 3-4 เดือน พบมีเงินหมุนเวียนเข้าออกทุกบัญชีรวมกันเกือบถึง 1 หมื่นล้านบาท โดยเปิดรับจัดหาบัญชีม้ามาเกือบ 2 ปี
จากแนวทางสืบสวนยังพบว่าแผนประทุษกรรมของขบวนการจัดหาบัญชีม้าของผู้ต้องหากลุ่มนี้ ยังมีลักษณะหรือรูปแบบคล้ายกับการขายตรง มีแม่ข่ายและลูกข่าย คอยจัดหารวบรวมบัญชีม้า ทั้งนี้ จากการสอบปากคำ เสี่ยเฟรม และ ซ้อนิ่ม เบื้องต้นให้การภาคเสธ รับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการจัดหาบัญชีม้าจริง แต่ยืนกรานปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์