“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 5 มีนาคม 2567 ตอน ยิ่งลักษณ์ กลับไทย กับเงื่อนไขพิเศษ ปีนี้จังหวะดีสุดแล้ว
กระแสข่าว ความเป็นไปได้ทางการเมืองเรื่อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น้องสาว ทักษิณ จะตามรอยพี่ชาย กลับไทย เริ่มกลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง
หลังล่าสุด ยิ่งลักษณ์ ชนะคดีในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา ในคดี งบอีเวนต์ 240 ล้านบาท โครงการโรดโชว์ ที่ศาลยกฟ้อง ยิ่งลักษณ์กับพวก
และก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงปลายปี คือ 26 ธันวาคม 2566 ยิ่งลักษณ์ ก็ชนะคดี ในคดีที่ถูกอัยการยื่นฟ้องเอาผิดกรณีย้ายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสมช.
นั่นเท่ากับว่า ถึงตอนนี้ คดีความของยิ่งลักษณ์ ที่ตกเป็นจำเลยในชั้นศาล จบเกือบหมดแล้ว
เหลือแค่คดีจำนำข้าว ที่ถูกศาลฎีกาฯ ตัดสินจำคุกห้าปี ที่ทำให้ยิ่งลักษณ์ต้องหนีคดีตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม แม้กฎหมาย เปิดช่องให้มีการยื่นอุทธรณ์คดีต่อที่ประชุมศาลฎีกา ได้ภายในสามสิบวัน หลังมีการอ่านคำพิพากษา
ซึ่งถึงตอนนี้ข่าวว่า คดีย้ายถวิล ทางอัยการสูงสุดขอขยายเวลาในการยื่นอุทธรณ์ แต่ก็ยังไม่มีข่าวออกมาชัดๆว่า ถึงตอนนี้ อัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดีย้ายถวิล หรือยัง
ขณะที่คดีงบอีเวนต์ ก็ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งเดือน ที่ต้องวัดใจ ว่า ป.ป.ช.จะมีมติให้ยื่นอุทธรณ์คดีหรือไม่ โดยหากไม่ยื่นคดีก็จบสิ้นกระแสความ ทันที
ว่ากันตรงๆ ไม่มีอ้อมค้อมถึงต่อให้ อัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดีย้ายถวิล และป.ป.ช.ยื่นอุทธรณ์คดี งบอีเวนต์ แต่โอกาสที่ผลคำตัดสินออกมาอีกแบบ คือ เปลี่ยนมาตัดสินลงโทษว่า ยิ่งลักษณ์ มีความผิดทั้งคดีย้ายถวิล เปลี่ยนศรี และคดีงบอีเวนต์ ความเป็นไปได้ ที่คดีจะพลิกออกมาอีกทางหนึ่ง แทบเป็นศูนย์ หรืออาจเป็นไปได้ แต่ยากมากที่จะเกิดขึ้นได้
เพราะที่ผ่านมา นับแต่มีการใช้กฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ให้มีการยื่นอุทธรณ์คดีได้ ทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย ที่ก็มีหลายคดีใช้สิทธิ์
แต่ปรากฏว่า ยังไม่เคยมีแม้แต่คดีเดียว ที่อุทธรณ์จนคดีพลิก ผลคำตัดสินออกมาแตกต่างจากตอนแรก
สาเหตุตรงนี้หลักใหญ่ก็เพราะ ระบบตุลาการ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องหลักอาวุโส -ประสบการณ์ โดยเฉพาะของศาลฎีกา ซึ่งองค์คณะฯ ที่ตัดสินคดีต่างๆ รวม 9 คน ทั้งหมดล้วนมาจากการเลือกของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา
โดยบางคดีก็มีระดับรองประธานศาลฎีกา -ประธานแผนกคดีต่างๆงในศาลฎีกา-ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา คือเป็นระดับ ตุลาการชั้นผู้ใหญ่ของศาลยุติธรรม
ดังนั้นเมื่อมีคำตัดสินใดๆ ออกมา ย่อมต้องผ่านการไต่สวน พิจารณาตัดสินคดี มาอย่างดี
ด้วยเหตุนี้ จึงยากที่ยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว คดีจะพลิก ตัดสินออกมาอีกแบบ
ยิ่งคดีงบอีเวนต์ ที่มีมติ 9 ต่อ 0 ยกฟ้องยิ่งลักษณ์กับพวก เจอแบบนี้ โอกาสที่คดีจะพลิก แทบเป็นไปไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ ถึงต่อให้ มีการยื่นอุทธรณ์คดีย้ายถวิล และคดีงบอีเวนต์ แต่ก็ยาก ที่คดีจะพลิกได้
จึงไม่แปลกที่ หลายคนเริ่มมองถึงโอกาสที่ยิ่งลักษณ์จะกลับไทย ว่าชักเป็นไปได้
เพราะถึงตอนนี้ เรื่องคดี ก็เหลือแค่ คดีจำนำข้าว ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งโทษเบากว่า คดีทุจริต หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ
อีกทั้ง ยิ่งลักษณ์ ก็โดนตัดสินจำคุกห้าปี ผิดกับ ทักษิณ ที่โดนตัดสินจำคุกหลายคดีรวมกันคือ 8 ปี และทักษิณโดนทั้งร่ำรวยผิดปกติ ถูกยึดทรัพย์-คดีทุจริต-คดีใช้อำนาจโดยมิชอบฯ เรียกว่า หนักกว่ายิ่งลักษณ์ เยอะ
แต่ทักษิณ ยื่นถวายฎีกาไป ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษจากแปดปี เหลือหนึ่งปี แล้วแกล้งป่วยจนตอนนี้ได้รับการพักโทษแล้ว
ดังนั้น หากยิ่งลักษณ์ ที่คดีเบากว่า ทักษิณ จะกลับมาแล้วเลียนแบบโมเดลทักษิณ ก็มีความเป็นไปได้มาก
แต่ยิ่งลักษณ์ จะกลับหรือไม่กลับ ต้องคิดหลายชั้น มีดีลหลายดีล เพื่อให้กลับมาแล้ว เซฟมากที่สุด
เพราะตอนนี้ เธออายุไม่ห่างเจ็ดสิบปีอยู่มาก จึงไม่เข้าเกณฑ์การพักโทษแบบทักษิณ อีกทั้งหากจะมาแกล้งป่วย แบบพี่ชาย ชาวบ้านได้ด่ากันทั้งเมือง ทำให้ ยิ่งลักษณ์ ต้องวางแผนเยอะ เพื่อจะได้ไม่เสี่ยงเข้าคุก หากกลับมา
จากนี้ กระแสข่าวยิ่งลักษณ์ กลับบ้านจะแรงขึ้นเรื่อยๆ
------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android