ข่าวลึกปมลับ : 4 มี.ค.ศาลฎีกา ตัดสิน ยิ่งลักษณ์ ผิด-รอด ? คดีงบอีเวนต์สื่อ

“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ตอน 4 มี.ค.ศาลฎีกา ตัดสิน ยิ่งลักษณ์ ผิด-รอด ? คดีงบอีเวนต์สื่อ



ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้เดินทางกลับประเทศไทย ตามรอยพี่ชาย ทักษิณ ชินวัตรหรือไม่ จุดสำคัญก็คือคดีความต่างๆ ที่ยิ่งลักษณ์ เจอฟ้องเป็นจำเลยในชั้นศาล

หนึ่งในคดีสำคัญที่จะชี้ชะตาอนาคตว่ายิ่งลักษณ์ จะได้กลับหรือไม่ได้กลับในปีนี้ หรืออนาคตอันใกล้นี้ ก็คือ
คดีที่ยิ่งลักษณ์กับพวก ถูก ป.ป.ช. ยื่นฟ้องเอาผิดในคดีที่สมัยเป็นนายกฯ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้ว่าจ้างบริษัทที่ทำธุรกิจสื่อมวลชนสองแห่ง ทำอีเวนต์และโฆษณาประชาสัมพันธ์ โครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 วงเงิน 240 ล้านบาท

ต่อมามีการไปยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.ตรวจสอบการอนุมัติงบดังกล่าว ทำให้ ป.ป.ช. ตั้งอนุกรรมการไต่สวนคดี
และสุดท้าย มีมติว่าการว่าจ้างเอกชนทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ดังกล่าว มีความผิดปกติหลายอย่าง

จึงมีการเอาผิดยิ่งลักษณ์กับพวก ในความผิดตามพรบ.ว่าด้วยเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ-ความผิดตามพรบ.ป.ป.ช. ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันเสนอราคาอย่างเป็นธรรม

หลังมีการยื่นฟ้องคดีดังกล่าวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และมีการไต่สวนคดีเรื่อยมา สุดท้าย ศาลฎีกาได้นัดฟังคำพิพากษาคดีในสัปดาห์หน้านี้ คือวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม เวลา 09.30 น.

คดีดังกล่าวมีจำเลยดังนี้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ,นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ , นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี , บริษัทมติชน จำกัด , บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เจ้าของสื่อในเครือสยามกีฬา และนายระวิ โหลทอง เป็นจำเลยที่ 1-6

ดังนั้น จันทร์ที่ 4 มีนาคมก็น่าจะทราบผลกันว่า ศาลฎีกาฯ จะตัดสินว่าจำเลยทั้งหมดมีความผิดตามฟ้องหรือไม่ หรือจะยกฟ้องทั้งหมด หรือตัดสินว่าบางคนมีความผิด แต่บางรายยกฟ้อง

โดยคนที่ถูกจับตามองมากที่สุด ก็คือยิ่งลักษณ์ หลังก่อนหน้านี้ เมื่อปลายปีที่แล้ว ก็เพิ่งชนะย้ายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสมช. ซึ่งหากชนะคดีนี้อีก ก็ทำให้ กระแสข่าว ยิ่งลักษณ์ จะกลับไทย อาจเริ่มมีความเป็นไปได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ต้องดูด้วยว่า วันที่ 4 มีนาคมนี้ จะมีจำเลยมาครบหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ระหว่างการไต่สวนพิจารณาคดี ก็มีข่าวจำเลยบางคน มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถเดินทางไปศาลได้ ดังนั้น หากวันที่ 4 มีนาคมนี้ ถ้ามีจำเลยบางคน ไม่ไปศาล ก็คาดว่าอาจจะมีการเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปก่อนและนัดใหม่ภายในสามสิบวัน

แต่หากจำเลยทั้งหมด มาครบ แม้ไม่มียิ่งลักษณ์ ที่หลบหนีคดีอยู่ ก็คาดว่า ศาลฎีกา อาจจะอ่านคำพิพากษาเลย

ส่วนรูปคดีนั้น คาดว่าฝ่ายจำเลย คงมั่นใจมีลุ้นชนะคดีด้วยเหตุผลเช่น คดีดังกล่าว ป.ป.ช.ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาเอง เพราะหลังป.ป.ช.ส่งสำนวนไปให้อัยการ ปรากฏว่า อัยการมีความเห็นว่าสำนวนไม่สมบูรณ์ จึงมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง

ทำให้ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องคดีเอง จุดนี้คงทำให้จำเลยมั่นใจพอสมควรว่า อัยการคงเห็นแล้วว่า คดีมีช่องโหว่ฟ้องไป ก็อาจแพ้ จึงสั่งไม่ฟ้อง แต่ป.ป.ช.ไม่ยอมเลยฟ้องเอง

ประเด็นที่จะมีผลต่อคดีนี้ ก็คือ กรณีที่ หลังรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นมาบริหารประเทศแทนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แล้วบริษัทสื่อสองแห่งดังกล่าว ที่ได้งานดังกล่าวไป ได้ทวงถามเงินค่าจ้างตามสัญญาการว่าจ้าง และต่อมา สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจึงเข้ามาตรวจสอบ และมีความเห็นว่าการว่าจ้างทำโดยถูกต้อง จึงทำให้ พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ ช่วงรัฐบาลคสช. อนุมัติการจ่ายเงิน จึงเท่ากับว่ามีการตรวจสอบแล้วว่าการว่าจ้างดังกล่าวทำถูกต้อง ไม่มีอะไรผิดปกติ

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ที่มีการจ่ายเงินดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีผู้ใหญ่ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์เวลานั้น คอยช่วยเคลียร์ให้อีกทาง

จุดนี้ เป็นประเด็นสำคัญ ที่ทำให้ อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่ป.ป.ช.คงรู้ข้อมูลอะไรดีๆ เลยไม่ยอม จึงยื่นฟ้องเอง

นอกจากนี้ ฝ่ายจำเลย ก็อาจมั่นใจว่า การทำสำนวนคดีของป.ป.ช. ยังมีปัญหา เห็นได้จาก การที่ ตอนแรก ป.ป.ช.มีการยื่นฟ้องเอาผิดกลุ่มจำเลย โดยให้เอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ที่เป็นความผิดกรณี ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ

แต่ปรากฏว่า ศาลฎีกาฯ ไม่ประทับรับฟ้องความผิดข้อหามาตรา 151 ดังกล่าว เพราะเห็นว่า คําฟ้องของป.ป.ช.ไม่สมบูรณ์ ฟ้องไม่ครบองค์ประกอบของความผิด

และแม้ต่อมา ป.ป.ช.จะยื่นอุทธรณ์เพื่อขอให้ศาลฎีกาฯ รับฟ้องข้อหาดังกล่าวด้วย แต่ปรากฏว่า ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีคำพิพากษายืน ไม่ประทับรับฟ้อง ทำให้ป.ป.ช.เสียหน้าพอสมควร แต่ข้อหาอื่น ศาลฎีกาประทับรับฟ้องหมด

ส่วนว่าผลแห่งคดีนี้ จะทำให้ ยิ่งลักษณ์ กลับไทยได้ภายในปีนี้ตามรอยทักษิณหรือไม่ หลังมีคำพิพากษาออกมาวันจันทร์ที่4มีนาคมนี้ ถ้าไม่เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไป ก็มองเห็นทิศทางชัดขึ้น

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android