“พล.ต.ต.ไพโรจน์” นายกสมาคมพนักงานสอบสวน แถลงเรียกร้องพนักงานสอบสวนทั่วไทย แสดงจุดยืน กรณีมีการปล่อยสำนวนคดีเว็บพนันมินนี่ ว่อนโซเชียล ทำลายความน่าเชื่อถือของระบบ
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่ สโมสรตำรวจ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ นายกสมาคมพนักงานสอบสวน แถลงข่าวเรียกร้องพนักงานสอบสวนทั่วไทยแสดงจุดยืน หลังทีมสอบสวนคดีเว็บพนัน น.ส.ธันยนันท์ หรือ สุชานันท์ สุจริตชินศรี หรือ มินนี่ ปล่อยสำนวนการสอบสวนว่อนโซเชียลมีเดีย เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของระบบ
พล.ต.ต.ไพโรจน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่มีข่าวแชร์ในโซเชียล ว่า พนักงานสอบสวนมีความเห็นทางคดีว่าสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 14 คน และในนั้นมี 8 คน ซึ่งเป็นลูกน้องของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และมีการระบุข้อหาอย่างชัดเจนว่า แต่ละคนโดนข้อหาอะไรบ้าง ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วข้อมูลเหล่านี้ควรเป็นความลับทางคดี ไม่ควรถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ต่อมาได้มีการขยายเส้นทางการเงิน และมีการส่งสำนวนไปยัง ป.ป.ช.แล้ว 5 ราย ประกอบด้วย 1. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. 2. พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ 3. พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล 4. พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร 5. ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ได้รับเงินมาจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล จริง โดยโอนมาจาก พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ โอนเข้าบัญชีบุตรชายของตน เป็นค่าที่ปรึกษาและค่าใช้จ่ายในการทำงาน แต่เอกสารลับทางราชการเช่นนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งผิดตามความลับของราชการตำรวจ ข้อ 7 ที่ระบุว่า พนักงานสอบสวนจะต้องรักษาความลับของราชการ และความลับในการปฏิบัติหน้าที่
โดยผมจะเดินทางไปพบนายกรัฐมนตรี ในช่วงบ่ายของวันนี้ เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสืบสวนสอบสวน ว่า ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักการสืบสวนสอบสวน และการรับฟังพยานหลักฐานโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และให้มีการตรวจสอบข้อมูลในสำนวนการสอบสวน ซึ่งอยู่ในความครอบครองของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ว่า หลุดออกมาสู่สาธารณะได้อย่างไร ใครเป็นคนปล่อยข้อมูล และเผยแพร่เพื่ออะไร และในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปที่ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบอำนาจของพนักงานสอบสวน ว่า ยังมีอำนาจอยู่หรือไม่ พร้อมเรียกสำนวนการสอบปากคำของพนักงานสอบสวนมาดูโดยเฉพาะคำสั่งของอัยการ ว่ามีการสอบเพิ่มเติมตามคำสั่งหรือไม่
พล.ต.ต. ไพโรจน์ กล่าวอีกว่า ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้ที่จะถูกดำเนินคดีจะต้องเป็นผู้รับเงินที่รู้ที่มาของเงินว่าเป็นเงินผิดกฎหมาย ถึงจะเข้าข่ายความผิด และตนเชื่อว่า การปล่อยข่าวในครั้งนี้เป็นเจตนาในการดิสเครดิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กับตน ส่วนพนักงานสอบสวน บก.สอท. เรียกสอบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) เป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน ตนยังไม่ทราบและอยากฝากถามผ่านสื่อมวลชน ว่า พนักงานสอบสวนชุดนี้มีอำนาจอะไรในการเรียกสอบ และสอบตามคำสั่งของอัยการหรือไม่ ซึ่งหากเป็นการสอบเพิ่มเติมจากอัยการ หมายความว่าสำนวนคดีมีปัญหา พนักงานสอบสวนทำงานบกพร่อง ทำให้อัยการไม่เชื่อ และเกิดความสงสัย
ส่วนการแถลงข่าววันนี้ เจตนาคือต้องการปกป้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือสถาบันพนักงานสอบสวน พล.ต.ต.ไพโรจน์ ตอบว่า ตนปกป้องสิทธิของประชาชนที่พึงได้รับ เพราะตน และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต่างเป็นประชาชนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม และตนในฐานะพ่อ จึงอยากปกป้องลูก เพราะลูกถูกตั้งข้อหาจากพนักงานสอบสวนชุดนี้ ในความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ ยืนยันว่า หลังจากนี้ ตนฟ้องร้องดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนชุดดังกล่าว โดยจะฟ้องเป็นรายบุคคล เพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมาย ส่วนจะฟ้องกี่คนนั้น จะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้ง