“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2567 ตอน 'เศรษฐา' อยู่ยาว หลากปัจจัยหนุน แต่ 4 ปีมี 2 นายกฯ?
“ผมมีความตั้งใจจะเป็นนายกรัฐมนตรี 4 ปีครับ แล้วผมมั่นใจว่าถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี 4 ปีได้ ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนจะดีขึ้น ผมมีความมุ่งมั่นและตั้งใจ ที่จะทำสิ่งเหล่านี้ให้กับพี่น้องประชาชน”
เป็นการยืนยันแสดงความมั่นใจอีกครั้งว่าจะอยู่ครบเทอมของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระหว่างการลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนธันวาคม2566 ก็ประกาศความมั่นใจในทำนองเดียวกันนี้เช่นกัน
อาจจะเป็นเพราะว่านักข่าวถามหรือนายกฯอยากพูดออกมาเอง แต่การประกาศยืนยันความมั่นใจของนายกฯถึงสองครั้งในช่วงเวลาใกล้ๆกัน ย่อมเป็นเรื่องที่มีนัยทางการเมืองพอสมควร และปัจจัยอะไรที่ทำให้นายกฯมั่นใจได้ขนาดนั้
ปัจจัยแรก คือ เสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ต้องบอกว่าเวลานี้ถือว่าตำแหน่งต่างๆและการแบ่งงานความรับผิดชอบของรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลเป็นไปอย่างลงตัว จากเดิมที่ก่อนหน้านี้มีการงัดข้อให้เห็นกันบ้าง
อย่างกรณีความขัดแย้งในเรื่องการแบ่งงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเวลานี้เคลียร์ใจกันจบแล้ว
ส่วนงานในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือเป็นอีกกลไกสำคัญก็ทำงานได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น แม้รัฐบาลจะมีครหาว่านายกรัฐมนตรีไม่ค่อยมาตอบกระทู้ในสภา แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่ได้อยู่กระแสเท่าใดนัก อีกทั้งสถานะของฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็ไม่ได้มีความเป็นฝ่ายค้านมืออาชีพเหมือนในอดีต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะส.ส.เก่าที่มีพรรษทางการเมืองสอบตกกันเป็นส่วนใหญ่
หรือแม้แต่พรรคก้าวไกลเองก็ยังวางตัวไม่ถูกกับการเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้าน กล่าวคือ พรรคก้าวไกลกำลังอยู่บนทางแยกว่าการค้านนโยบายแก้ไขปัญหาปากท้องของรัฐบาล จะทำให้พรรคก้าวไกลเสียคะแนนหรือไม่ ซึ่งแสดงให้เห็นผ่านท่าทีของแกนนำพรรคก้าวไกลหลายคนที่มองว่าพรรคก้าวไกลจะเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกฎหมายกู้เงิน 5 แสนล้านบาทในโครงการเงินดิจิทัล
พรรคก้าวไกลอาจมองว่า หากร่างกฎหมายกู้เงินไม่ผ่านด่านศาลรัฐธรรมนูญขึ้นมาจริงๆ โดยที่พรรคเป็นผู้ยื่นให้ศาลตีความ ย่อมอาจถูกตีตราว่าเป็นผู้ขัดขวางการแก้ไขปัญหาปากท้อง
เหมือนเมื่อครั้งหนึ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เคยโดนกระแสโจมตีว่าขัดขวางความเจริญ จากการเป็นผู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งพรรคก้าวไกลคงไม่ให้ตัวโดนแขวานอย่างนั้นเป็นแน่
ด้วยเหตุนี้ หากจะเรียกว่าเป็นช่วงนาทีทองที่รัฐบาลจะเก็บแต้มทางการเมือง ก็คงไม่ผิดนัก
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การอยู่ครอบเทอมของนายกฯเป็นไปได้ คือ สถานะของพรรคก้าวไกลในปัจจุบันไม่ได้เข้มแข็งเหมือนช่วงเลือกตั้ง เนื่องจากอนาคตของพรรคก้าวไกลยังไม่มีความแน่นอนมากนัก อันมาจากการมีคดีความอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งคดีการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ คดียุบพรรคจากการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
แม้ว่าพรรคก้าวไกล จะได้เตรียมแกนนำแถวสองหรือแถวสาม โดยอาจให้ 'ศิริกัญญา ตันสกุล' เป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่ากระแสจะแรงได้เท่ากับเมื่อครั้งมี 'พิธา'
จึงเหลือแค่ความสามารถของพรรคเพื่อไทยว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้สังคมไทยลืมเหตุการณ์ 'แกงส้มผลักรวม' เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งทฤษฎีที่่ว่าด้วยการอยู่ครบเทอมของรัฐบาลนั้น อาจไม่ใช่การครบเทอมภายใต้นายกฯที่ชื่อ 'เศรษฐา' เพียงคนเดียว เพราะต้องรอดูว่าช่วงครึ่งของรัฐบาลที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งเสียงส.ว.ในการโหวตเลือกนายกฯ อาจมีแรงสนับสนุนให้เปลี่ยนตัวนายกฯ เป็น 'แพทองธาร ชินวัตร' หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็เป็นไปได้
อย่าลืมว่า 'อุ้งอิ้ง' คือ ผู้ถูกเลือกคนต่อไปในการเลือกตั้งครั้งหน้า และคงจะดีกว่าถ้านายหญิงลงหาเสียงเลือกตั้งในฐานะนายกฯรักษาการ ภายหลังรัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี
ดังนั้น การมีนายกฯเศรษฐาและแพทองธาร ตามลำดับ อาจไม่ได้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายเท่าใดนัก
------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android