รอง ผอ.ศูนย์ผดุงธรรมนนทบุรี วอนมหาดไทย ออกกฎหมายควบคุมฤาษี ร่างทรง จอมขมังเวทย์ ก่อนสายเกินไป เพราะมีช่องว่างไม่มีกฎหมายควบคุม ซ้ำทำให้เสื่อมเสียหลอกชาวบ้าน
วันนี้( 5 ม.ค.)เมื่อเวลา 17.00 น. นายธีรวงศ์ สรรค์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์ผดุงธรรมนนทบุรี เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนอยากขอเรียกร้องไปยังกระทรวงมหาดไทยผ่านสื่อมวลชนให้ออกกฎหมายควบคุมฤาษี ร่างทรง รวมถึงผู้ที่อ้างมีอิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย เปรียบเช่น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่มีบทบาทในการติดตามและตรวจสอบข้อเท็จจริง ปัจจุบันมีการใช้ช่องว่างทางกฎหมายให้มิจฉาชีพตั้งตนเป็นฤาษี ร่างทรงเพราะไม่มีกฎหมายควบคุม เช่น กรณีที่มีข่าวฉาวสร้างความเสื่อมเสียทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากปัจจุบันมีกลุ่มฤาษี ร่างทรง หลอกคนไปทำบุญและเงินที่บริจาคไปมีการให้ส่วนแบ่งผู้นำคนไปบริจาค และไม่มีการชี้แจงการใช้เงินบริจาคแก้กรรมอย่างชัดเจน
ทั้งไม่มีหลักฐานการเสียภาษี ซึ่งผู้เสียหายเป็นทั้งคนจนหาเช้ากินค่ำ และผู้มีหน้าตาทางสังคม บางรายเมื่อรู้ว่าถูกหลอกก็ไม่กล้าเข้าแจ้งความ ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เช่น กรณี ฤาษีชื่อดังบริเวณจังหวัดหนองบัวลำภู เครือข่ายเป็นพระ มีการอ้างว่ามีอายุมากกว่า 150 ปี หรือบางครั้งยังกล่าวอ้างว่าอายุเกินกัลป์ อวดอิทธิฤทธิ์ว่าเป็นพระศรีอริยเมตไตรย แต่กลับไม่มีบัตรประชาชน ประพฤติตนสูงยิ่งกว่าพระ สามารถเสกเพชรงอกมาจากเส้นผม งอกมาจากปาก และช่วยแก้กรรมได้ทั้งที่เพชรไม่สามารถงอกได้จากปากสุนัขหรือปากมนุษย์ขัดหลักวิทยาศาสตร์
เป็นการอวดอุตริสรรพคุณครอบจักรวาล ซึ่งไม่ใช่วิถีแห่งพุทธ และอาจทำให้บุคคลทั่วไปหลงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผู้วิเศษมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ยอมเสียเงินทำบุญเป็นจำนวนมหาศาล กระทรวงมหาดไทยจึงควรเข้าดำเนินการตรวจสอบกรณีนี้เร่งด่วนเพราะการอวดอ้างและกระทำดังกล่าวมีการพัฒนาความซับซ้อนมากขึ้น แม้กระทั่งการใช้ Blockchain, Crytocurrency มาเพื่อทำบุญ จะทำให้ความเข้าใจในศาสนาพุทธขุ่นมัว หลงผิดไปว่าแก้กรรม เช่น การเข้าบูชาผู้มีร่างกายคล้ายแดรกคูล่า อาจกระทบต่อความมั่นคงต่อสังคมโดยตรง มหาดไทยจึงควรตั้งทีมเฉพาะกิจเร่งด่วนจัดการฤาษีผู้มีฤทธิ์ที่ประพฤติมิชอบให้เป็นกรณีศึกษา และออกกฎหมายปกป้องเพื่อควบคุมจอมขมังเวทย์ทั้งหลายควบคู่กันไป ดังนี้
1. การขึ้นทะเบียน ฤาษี ร่างทรง นักพรต ผู้มีฤทธิ์ฯลฯ ที่พำนักอยู่ในไทย สัญชาติไทย ต้องดำเนินการแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ระบุประเภทของผู้มึอิทธิฤทธิ์ เพื่อป้องกันอลัชชีที่แอบบวชลวงโลก และควบคุมพฤติกรรมที่โลกติเตียนเช่น การรับบิณฑบาตนำหน้าพระสงฆ์ การพรมน้ำมนต์ให้พระ เป็นต้น
2. การขออนุญาตตั้งอาศรม ตำหนัก สำนัก ให้ขึ้นทะเบียนสถานที่โดยเจ้าสำนักต้องเป็นเจ้าของ หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินให้ใช้ หรือพำนักในอสังหาริมทรัพย์นั้น และอยู่ภายใต้กฎหมายควบคุมการก่อสร้างอาคาร ป้องกันไม่ให้อาศรมรุกที่สาธารณะ ภูเขา หรือพื้นที่ป่า และตรวจสอบการขออนุญาตก่อสร้างอาศรม และสิ่งปลูกสร้างอื่นใดที่มีการสร้างก่อนกฎหมายบังคับใช้
3. การรับบริจาค หรือสร้างวัตถุมงคลต้องมีการรายงานงบดุลของเงินบริจาคต่อภาครัฐ บะญชีที่ใช้ในการรับบริจาค การชำระภาษีเงินได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ผู้รับบริจาคควรต้องขึ้นทะเบียนเจ้าของสำนักอาศรมต่อกระทรวงมหาดไทย และสามารถตรวจสอบบัญชีรับจ่ายการนำเงินไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ขอรับบริจาค และต้องเปิดเผยต่อสาธารณะรายวัน
เหตุผลเพื่อปกป้องฤาษี ร่างทรง ที่ดีทำถูกต้องและมีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่เหมือนในปัจจุบันที่บางคนอ้างตนเป็นฤาษีแต่ไม่ทราบสัญชาติ และไม่พบบัตรประชาชน ย่อมไม่สมควรอนุญาตรับเงินบริจาคได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม นำมาสู่การตั้งข้อสังเกตุเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายกับผู้มีปัญญาเปรียบเช่นมีเกศแก้วที่บริสุทธิ์ จักตื่นรู้เพื่อเข้าถึงธรรมเพื่อสังคมต่อไป