นครพนม - นายอำเภอท่าอุเทน พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่เหตุนายทุนรุกที่สาธารณะปลูกกัญชา พบบุกรุกที่สาธารณะและถมดินปิดกั้นลำน้ำจริง สั่งรื้อถอนต้นกัญชาออกทั้งหมด พร้อมสั่งการให้อบต.พนอม เจ้าของพื้นที่แจ้งความเอาผิดข้อหาบุกรุก
จากกรณีชาวบ้านหมู่ที่ 2 บ้านหนองสาหร่าย ตำบลพนอม อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ได้ร้องเรียนมีนายทุนบุกรุกที่สาธารณะและใช้รถแบ็กโฮถมดินปิดกั้นปากลำห้วยเพื่อเก็บกักน้ำไม่ให้ไหลลงสู่แม่น้ำสงครามตามปกติ เก็บน้ำไว้ใช้ในไร่กัญชาที่ปลูกไว้ร่วมสิบไร่ จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านเดือดร้อนและไม่สามารถนำรถเก็บเกี่ยวลงพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าวที่ปลูกได้ตามปกติ จึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์เรื่องดังกล่าวต่อ ส.ต.ต.วราชัย ดีบุกคำ นายก อบต.พนอม
เบื้องต้นนายก อบต.พนอมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเป็นจริงตามที่ผู้ร้องเรียน จึงได้บอกกล่าวด้วยวาจาแต่นายทุนที่บุกรุกไม่สนใจ ยังดื้อแพ่งขอเก็บเกี่ยวกัญชาก่อนจะคืนสภาพลำห้วย จึงได้ทำหนังสือแจ้งต่อนายอำเภอและเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานราวกลางเดือนที่ผ่านมา
หลังจากนั้นทาง อบต.พนอม ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบที่สาธารณะโดยตรงได้ติดตามและสั่งการให้ผู้บุกรุกพื้นที่ทำการขุดลอกลำห้วยฮองฮูและรื้อถอนต้นกัญชาที่ปลูกให้อยู่ในสภาพเดิม จากการเจรจาผู้บุกรุกรับปากว่าจะเร่งเข้ารื้อถอนและคืนสภาพให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ
ล่าสุดวันนี้ (13 ธ.ค.) นายปรีชา สะอิ้งทอง นายอำเภอท่าอุเทน พร้อมด้วยพ.ต.ท.คำดี เฮียงบุญ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ท่าอุเทน, นายพรประสิทธิ์ ศรีอุดร หน.สนง.ที่ดิน อ.ท่าอุเทน, นายธวัชชัย แสงจันทร์ หน.สาธารณสุข อ.ท่าอุเทน, ส.ต.ต.วราชัย ดีบุกคำ นายก อบต.พนอม ร่วมฝ่ายปกครอง อส.ร่วมกันบูรณาการลงพื้นที่ตรวจสอบที่สาธารณะ
จากการลงพื้นที่พบนายสมลักษณ์ พิมพ์คำ อายุ 53 ปี ยอมรับว่าได้ใช้พื้นที่สาธารณะบริเวณนี้ปลูกต้นกัญชา และได้นำดินมาถมปิดกักลำห้วยจริง โดยได้ขอเช่าพื้นที่แห่งนี้จากนายสุเทพ ศรีวรสาร ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 พร้อมทั้งแสดงหนังสือการเช่าทำประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่เป็นเงิน 500 บาท ก่อนที่นายอำเภอท่าอุเทนได้ชี้แจงต่อนายสมลักษณ์และนายสุเทพ ผู้ใหญ่บ้านว่าไม่มีสิทธิให้เช่าที่ดินเองได้ เพราะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของ อบต.พนอม
ทั้งนี้ นายสุเทพ ศรีวรสาร ผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้าใจพร้อมกล่าวขอโทษที่ตัดสินใจกระทำจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขณะที่นายธวัชชัย แสงจันทร์ สาธารณสุขอำเภอท่าอุเทน สอบถามถึงเอกสารการจดแจ้งเพื่อปลูกต้นกัญชาในที่ดินแปลงนี้ว่าได้ดำเนินการถูกต้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งนายสมลักษณ์อ้างว่าตนเป็นหนึ่งในสมาชิกวิสาหกิจชุมชนพื้นที่ตำบลนาคำ อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม แต่พื้นที่ปลูกไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ ซึ่งจะตรวจสอบการขออนุญาตและข้อจำกัดของกฎหมายการปลูกกัญชาอีกครั้งว่าทำได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ได้ปลดล็อกพืชกัญชาออกจากพืชยาเสพติดแล้ว แต่ยังมีข้อจำกัดการขออนุญาตการปลูกให้ถูกต้อง
ด้านนายปรีชา สะอิ้งทอง นายอำเภอท่าอุเทน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกที่ดินสาธารณะและถมดินปิดกั้นลำน้ำสาธารณะตามที่เป็นจริง จึงสั่งการให้ผู้บุกรุกเร่งแก้ไขและรื้อถอนต้นกัญชาออกทั้งหมดโดยทันที ตลอดจนมอบอำนาจให้ อบต.พนอม เข้าแจ้งความเอาผิดข้อหาบุกรุกที่สาธารณะเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป