xs
xsm
sm
md
lg

รมว.ยุติธรรม เปิดอบรมหลักสูตร “การบริหารเชิงนิติศาสตร์ระดับสูง” (วทน.) รุ่นที่ 3

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งสภาทนายความ
รมว.ยุติธรรม เปิดอบรมหลักสูตร “การบริหารเชิงนิติศาสตร์ระดับสูง” (วทน.) รุ่นที่ 3 เพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาด้านนิติศาสตร์และบังคับใช้กฎหมายอย่างมีคุณภาพ

วันนี้ (3 พ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ไยุติธรรม ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งสภาทนายความ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร “การบริหารเชิงนิติศาสตร์ระดับสูง” (วทน.) รุ่นที่ 3 โดยมี ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ดร.คำนวณ ชโลปถัมภ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ ศาสตราจารย์พรชัย สุนทรพันธ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นายสมพงษ์ จู่ตันซ่วน ผู้อำนวยการวิทยาลัยทนายความ นายพรศักดิ์ สังข์สังวาลย์ กรรมการบริหารสภาทนายความ ภาค 5  พร้อมคณะกรรมการบริหารสภาทนายความ ผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย ผู้บริหารองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งสิ้น 80 คน เข้าร่วม

พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวตอนหนึ่งว่า ฝนฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและสภานายกพิเศษแห่งสภาทนายความ ยินดีและสนับสนุนโครงการของสภาทนายความฯ เพื่อยกระดับมาตรฐานการศึกษาอบรมทางด้านนิติศาสตร์และบังคับใช้กฎหมายอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ ติดตามการเปลี่ยนแปลง การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเสาหลักแห่งความยุติธรรม นำไปสู่การสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมสำหรับประชาชนอย่างทั่วถึง และเป็นธรรม


ด้าน ดร. วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวกับผู้เข้ารับการอบรม วทน. รุ่นที่ 3 ว่า “เราต้องช่วยเหลือให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม โดยสภาทนายความมีบุคลากรที่ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายคือ ทนายความอาสา ได้แก่ ทนายความอาสาประจำสถานีตำรวจ ทนายความอาสาประจำส่วนราชการ ศาลต่าง ๆ และให้คำปรึกษา ณ ที่ทำการสภาทนายความ (ส่วนกลาง) เพื่อให้บริการกับประชาชน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งการให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เพื่อให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมนั้น เป็นสิ่งที่ประชาชนไม่สามารถที่จะรอคอยได้”
สำหรับการอบรมหลักสูตร “การบริหารเชิงนิติศาสตร์ระดับสูง” (วทน.) รุ่นที่ 3 วิทยาลัยทนายความ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดขึ้น เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรดังกล่าวสามารถนำความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ในการบริหารงานได้อย่างสอดคล้องกับหลักกฎหมายในทุกด้าน รวมทั้งให้ความสนับสนุนพัฒนาองค์กรในสังคมให้มีหลักธรรมาภิบาล มีคุณธรรม และแนวปฏิบัติที่สอดคล้องกับกฎหมายในทุกด้าน สอดคล้องวัตถุประสงค์ 8 ประการ 1. เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรมีความรู้ ความเข้าใจในกระบวนยุติธรรมอย่างลึกซึ้ง และสามารถนำมาปรับใช้กับองค์กรของตน ช่วยให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม 2. เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรเพิ่มพูนความรู้ประสบการณ์เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่จำเป็นต่อการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ และเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชื่อมโยงกฎกติการะหว่างประเทศและกติกาภายในประเทศ 3. เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรภาครัฐได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้บริหารภาคเอกชน ในแง่มุมการบริหารจัดการองค์กรให้สอดคล้องกับกฎหมายมหาชน และกฎหมายเอกชน รวมทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ 4. เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ได้ร่วมมือการวางแผน และแนวทางบริหารองค์กรที่สอดคล้องกับกฎหมาย และวางแผนการบริหารองค์กรให้สอดคล้องกับกฎกติกาสากล 5. เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อันจะนำไปสู่การสร้างความเข้าใจอันดีต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรของตน 6.เพื่อเป็นการยกระดับธรรมาภิบาล คุณธรรมของผู้บริหารระดับสูงให้สอดคล้องกับแนวคิดและวิธีปฏิบัติด้านนิติศาสตร์ 7. เพื่อให้เกิดความเข้าใจและการนำกฎหมายไปใช้ในการปฏิบัติงานในสาขาต่างๆ เพื่อวิชาชีพทนายความเป็นที่ยอมรับในสังคมอย่างกว้างขวาง 8. เพื่อสร้างผู้นำองค์กรให้มีวิสัยทัศน์ ความรู้ความเข้าใจในโครงสร้างของสังคมอันมีกฎหมายเป็นพื้นฐานรับรองการดำเนินงานในด้านต่างๆ อันจะช่วยลดข้อขัดแย้ง หรือการดำเนินงานที่ขัดแย้งต่อบทกฎหมายในเรื่องต่างๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น