พนักงานสอบสวน บก.สอท.5 คุมตัวนางสาวดอกแก้ว บัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับเงินโอนซื้อมือถือจากนักเรียนหญิง ม.6 ผูกคอตัวเองเสียชีวิต ไปฝากขังศาล พร้อมคัดค้านประกันตัวแต่หมดเวลาทำการศาลแล้ว ไร้เงาญาติยื่นประกัน จึงส่งตัวนอนทัณฑสถานหญิงกลาง
วันนี้ (19 ต.ค.) พนักงานสอบสวน บก.สอท. 5 คุมตัวนางสาวดอกแก้ว แก้วเจิม ผู้ต้องหาความผิดฐานฉ้อโกง และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไปฝากขังยังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ในคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกขายโทรศัพท์มือถือให้กับเยาวชน อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ในจังหวัดศรีธรรมราช แต่ไม่ส่งของทำให้ เยาวชนดังกล่าวตัดสินใจผูกคอตัวเสียชีวิต โดยนางสาวดอกแก้ว เป็นบัญชีม้าแถวหนึ่งรับโอนเงินจากผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้นางสาวดอกแก้ว ยังคงแต่งกายชุดเดิมที่ถูกจับเมื่อวานนี้ และมีสภาพอิดโรย เนื่องจาก อดนอนจากการถูกสอบปากคำหลายชั่วโมงตั้งแต่เมื่อคืนนี้จนถึงช่วงเช้า ระหว่างพนักงานสอบสวนคุมตัวไป ผู้สื้อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกเสียใจหรือไม่ที่เป็นต้นเหตุให้นักเรียนหญิงเสียชีวิต และต้องการที่จะขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิตหรือไม่ ซึ่งนางสาวดอกแก้วไม่ตอบคำถาม ได้แต่ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำตาตลอด อย่างไรก็ตามตำรวจได้เชิญมารดาของผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วยซึ่งหลังให้ปากคำเดินทางไปศาลพร้อมกับลูกสาว
ขณะที่ไทมไลน์การโอนเงินของผู้เสียชีวิต โอนเงินเข้าธนาคาร CIMB บัญชีม้าของนางสาวดอกแก้ว ในวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลา 11.00 น. โอนเงินเข้า 5,500 บาท เวลา 12.00 น. โอนเงินเข้า 5,500 บาท เวลา 13.00 น. โอนเงินเข้า 5,500 บาท และเวลา 14.00 น. โอนเงินเข้า 2,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 18,500 บาท
ขณะที่จากการตรวจสอบบัญชีม้าของ นางสาวดอกแก้ว พบว่า มียอดโอนเงินออกจากบัญชีไปยังบัญชีม้าแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ก่อนพบยอดเงินโอนไปยังบัญชีม้าแถวที่ 4 จำนวน 30,000 และ 40,000 บาท ก่อนพบว่า มีการกดออกจากตู้เอทีเอ็ม ในปั้มน้ำในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ห่างจากชายแดน 3 กิโลเมตร ในวันเดียวกัน (15 ต.ค.) ส่วนการตรวจสอบที่อยู่ IP address ต้นทางที่เปิดเพจ facebook ใช้หลอกเหยื่อ อยู่ที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะที่ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท. 5 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า คดีนางสาวดอกแก้ว พบข้อมูลผู้เสียหาย 3 คน โอนเงินผ่านบัญชีม้าของนางสาวดอกแก้ว เป็นคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่นครบาล ซึ่งตำรวจนครบาลจะต้องประสานเพื่อขออายัดตัวนางสาวดอกแก้วไปสอบสวนเพิ่มเติม โดย ตำรวจ สอท. 5 จะขยายผล จากบัญชีม้า 3 คน ที่ออกหมายจับไปแล้ว โดยตำรวจได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามตัว มั่นใจจับเพิ่มได้วันนี้ 1 คน ส่วนอีก 2 คนพบหนีไปยังจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามไปจับกุม
ส่วนคนกดเงิน ที่เป็นคนไทย ขณะที่อยู่ระหว่างของศาลออกหมายจับ พบว่ายังเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศไทย ยืนยันจะขยายผลไปยังตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง ไม่จับแค่ปลาซิวปลาสร้อยที่เป็นบัญชีม้าเท่านั้น และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้ร่วมขบวนการเป็นขบวนการพนันออนไลน์จากฝั่งเมียนมา ซึ่งต้องขยายผลให้ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มพนันออนไลน์ หรือ คอลเซ็นเตอร์ ที่ร่วมกัน
ส่วนการสอบปากคำนางสาวดอกแก้ว ให้การยอมรับว่ารับ เปิดบัญชีม้าแบบแสกนใบหน้า ด้วยเงิน 300 บาท และได้รับเงินจริง และได้เริ่มใช้เป็นบัญขีม้าเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันเดียวกันกับที่เปิดบัญชี ซึ่งไม่พบว่าไปก่อเหตุมาก่อน และหลังจากนี้ตำรวจกำลังขยายผลไปยังเจ้าของบัญชีที่โอนเงินให้นางสาวดอกแก้ว ส่วนผู้เสียหายรายอื่น ที่โอนเงินเข้าบัญชีม้าทางตำรวจยังไม่ขอลงรายละเอียดว่าเป็นบัญชีเดียวกับน้องพลอยหรือไม่ ที่โอนให้กับนางสาวดอกแก้ว
สำหรับคดีดังกล่าว ออกหมายจับไปแล้ว 4 หมาย (รวมนางสาวดอกแก้ว) ทั้งหมดเป็นบัญชีม้า 1-4 ส่วนอีก 1 หมายที่เป็นคนกดเงิน คาดจะได้วันนี้ โดยทั้งหมดมีความผิด ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง และ ความผิด พ.ร.บ.คอมพิมเตอร์ ส่วนนางสาวดอกแก้วพนักงานสอบสวน จะคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพนักงานสอบสวน นำตัว น.ส.ดอกแก้ว อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หนึ่งในบัญชีม้าที่รับโอนเงินจากนักเรียนหญิง ม.6 ที่ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกโอนเงินผ่อนโทรศัพท์ไอโฟน 13 ผ่านเพจเฟซบุ๊ก มาฝากขังที่ศาลอาญา เป็นครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 19 -31 ต.ค.2566
ศาลอาญาพิจารณาคำร้องฝากขังแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 16.30 น.หมดเวลาทำการแล้ว ไม่ปรากฎว่าญาติหรือทนายความมายื่นประกันตัวผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงด้วยนำตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังทัณฑสถานหญิงกลาง
