ศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับชายขาวเมียนมาวัย 19 ปี ผู้ต้องหาฆ่าอดีตอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำเดนมาร์ก คาดยังกบดานต่างจังหวัด ส่งชุดสืบสวนติดตามตัวแล้ว
จากกรณีพบศพอดีตเอกอัครราชทูตประจำกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ภายในบ้านพัก ซอยวิภาวดีรังสิต 20 เขตจตุจักร กรุงเทพ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นผลชันสูตรพบว่า มีร่ิองรอยถูกแทงที่หน้าอก 3 แผล ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความึืบหน้าล่าสุดวันนี้ (9 ต.ค.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับชายชาวเมียนมา อายุ 19 ปี ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ หลังพนักงานสอบสวน นำพยานหลักฐานไปยื่นศาลขอออกหมายจับเมื่อวานนี้
โดยข้อมูลทางการสืบสวน พบว่า ผู้ตายได้มาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาเริ่มมีคนที่พยายามติดต่อหาผู้ตาย แต่ติดต่อไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนเยาวชนชายที่เชิญมาให้ข้อมูลเมื่อวานนี้ (8 ต.ต.) ไม่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่า มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ส่วนชาวเมียนมาที่ถูกออกหมายจับ พบว่า ลาออกจากงานเก่า มาทำงานเป็นคนงานในบ้านให้ผู้เสียชีวิตได้ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดหลังที่เกิดเหตุ เชื่อได้ว่าคนที่ลงมือก่อเหตุ เป็นชายชาวเมียนมา คาดว่า แรงจูงใจสำคัญเกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน เนื่องจากพบว่าในบ้านหลังเกิดเหตุมีทรัพย์สินสูญหาย เป็นโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต ส่วนสร้อย แหวน นาฬิกาข้อมือ กำลังตรวจสอบยืนยันว่า สูญหายหรือไม่
นอกจากนี้ยังพบว่า หลังเกิดเหตุเพียงไม่กี่ชั่วโมง มีความเคลื่อนไหวบัญชีการเงิน จากการเบิกถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม ในห้างสรรพสินค้า จำนวนหลักแสนบาท ซึ่งวันนี้จะให้ชุดสืบสวนไปขอให้ ธนาคารผู้ให้บริการ ตรวจสอบยืนยันว่า มีการเบิกถอนเงินไปกี่ครั้ง รวมจำนวนเท่าไร ก่อนจะหลบหนีไปต่างจังหวัด
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ว่า น่าจะยังกบดานตัวอยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งได้ให้ฝ่ายสืบสวนไปติดตามจับกุมตัวแล้ว
ส่วนที่ สน.สุทธิสาร เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจนำวัตถุพยานต่างๆ ที่เก็บได้จากบ้านที่เกิดเหตุ ขึ้นรถไปส่งให้ กองพิสูจน์หลักฐาน นำไปใช้ตรวจหาหลักฐาน DNA และลายนิ้วมือแฝง เพื่อเทียบเคียงยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุคือคนคนเดียวกับผู้ต้องสงสัยที่ถูกศาลออกหมายจับหรือไม่ ก่อนจะนำผลการตรวจพิสูจน์ มาประกอบในสำนวนคดีต่อไป