ตำรวจกองปราบรวบ 5 สมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมรอยเป็นหลานอาม่า ก่อนหลอกยืมเงิน 1.3 ล้านบาท
วันนี้ (17 ต.ค.) ที่ กองปราบปรามพล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์, พ.ต.ท.ปรัชญ์ แม้นเดช, พ.ต.ต.กรพงศ์ วงษาลังการ, พ.ต.ต.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายวิทวัส ศรีบุญเรือง อายุ 21 ปี ,นางสมพร จำแบบ อายุ 57 ปี , น.ส.อรสา ยะสะกะ อายุ 46 ปี , นายสุนทรวัฒน์ มหากิจสิริภักดี อายุ 31 ปีและ นายพรรษพล อยู่ฉิม อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลนครราชสีมา ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ และ ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากเพื่อกระทำความผิด” โดยจับกุมนางสมพร ได้ที่ จ.สระแก้ว ,นายวิทวัส จับได้ที่ จ.อุดรธานี , น.ส.อรสา ได้ที่ จ.สุรินทร์ ส่วน นายพรรษพล กับ นายสุนทรวัฒน์ จับได้ที่ จ.ขอนแก่น
ทั้งนี้เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ได้มีแก๊งมิจฉาชีพโทรศัพท์ติดต่อเหยื่อเป็นหญิงสูงวัยอายุ 73 ปี ก่อนสวมรอยอ้างตัวเป็นหลาน กระทั่งเห็นว่าเหยื่อหลงเชื่อคิดว่าเป็นหลานจริง จึงออกอุบายขอยืมเงิน 1.3 ล้านบาท เมื่อผู้เสียหายรู้ตัวก็ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา
จากแนวทางสืบสวนทราบว่า มีกลุ่มผู้ก่อเหตุบางส่วนพักอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงมีการใช้บัญชีม้าในการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิด จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด กระทั่งทราบว่าปัจจุบันกลุ่มบุคคลที่ทำหน้าที่รับเปิดบัญชีม้าให้กับแก๊งดังกล่าวนั้นกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน จึงนำกำลังตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 รายได้ดังกล่าว
สอบสวน น.ส.อรสา ให้การรับสารภาพว่าได้ขายบัญชีธนาคารให้กับชายชาวกัมพูชา ที่รู้จักที่คาสิโนแห่งหนึ่ง ในประเทศกัมพูชา โดยนำค่าจ้างจากการขายบัญชีไปเล่นการพนัน ขณะที่ในส่วนของผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่เหลือ ให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่ง สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
