รรท.ผบก.ทล.โต้ "วิโรจน์ ก้าวไกล" ยัน บช.ก.เอาจริงปราบส่วยสติ๊กเกอร์ เสนอ สตช.พิจารณาฟันวินัย 40 นาย ส่ง ปปช.ชี้มูลอีก 6 เผย อธิบดีกรมทางหลวงกำชับเข้มงวดรถบรรทุกเกินอย่างเต็มที่เพราะทำให้รัฐเสียงบซ่อมแซมถนนจำนวนมาก
วันนี้ (5 ก.ย.) พล.ต.ต จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล. กล่าวถึงกรณีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล พาดพิงถึงคดีส่วยสติ๊กเกอร์ทางหลวงโดยฝากไปถึงผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดมิใช่ทำตามกระแสสังคมและพอเรื่องเงียบหายไปก็ย้ายกลับมาอีกว่า กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ได้มีการสั่งย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับส่วยสติ๊กเกอร์จำนวน 40 นายเข้ามาช่วยราชการที่กองบังคับการตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา และได้มีการสอบสวนปากคำทุกคนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะส่งเจ้าหน้าที่ทั้ง 40 นายกลับไปประจำที่หน่วยเดิมโดยไม่ให้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับประชาชน หรือเกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าว นอกจากนี้ทั้ง 40 นายจะถูกส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พิจารณาเรื่องการลงโทษทางวินัย และจะพิจารณาย้ายออกนอกหน่วยในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งต่อไป
พล.ต.ต จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ในจำนวนนี้มีตำรวจ 6 นาย ซึ่งมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตส่วยสติ๊กเกอร์ ถูกส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช. เพื่อชี้มูลความผิด นอกจากนี้ยังมีตำรวจทางหลวงอีกอีก 11 นาย ที่ถูกร้องเรียนในการกระทำความผิดรูปแบบอื่นๆ ซึ่งก็ได้เรียกตัวทั้งหมดมาทำการอบรมพร้อมกับส่งกลับไปยังต้นสังกัดและติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามในระหว่างการสืบสวนสอบสวนเรื่องดังกล่าวพบว่ามีเจ้าหน้าที่ประจำด่านชั่งน้ำหนักของกรมทางหลวงมีการร้องเรียนกันไปมา เกี่ยวกับการทุจริตส่วยสติ๊กเกอร์และการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการรถบรรทุก จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมาทำการสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดต่อไป
พล.ต.ต จรูญเกียรติ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้หลังจากมีการเข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าวพบว่า มีความพยายามจากผู้ประกอบการรถบรรทุกบางคนติดต่อขอให้ช่วยเหลือผ่อนคลายการบังคับใช้กฎหมายกับรถบรรทุกนำหนักเกิน ซึ่งตนเองได้ปฏิเสธการให้การช่วยเหลือในทุกรูปแบบและให้ไปติดต่อทางกระทรวงคมนาคมเพื่อแก้ไขกฎหมายให้สามารถบรรทุกเกินได้ตามความต้องการของผู้ประกอบการแต่ละคน และยังได้แจ้งเรื่องดังกล่าวให้อธิบดีกรมทางหลวงรับทราบ ซึ่งทางอธิบดีได้กำชับให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างเต็มที่โดยไม่ละเว้น เพราะบอกว่าปัญหาดังกล่าวสร้างความเสียหายกับถนนทางหลวงในหลายสายซึ่งต้องเสียงบประมาณซ่อมแซมในแต่ละปีเป็นเงินจำนวนมาก
"ยืนยันว่าได้บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการจับกุมรถบรรทุกเกินและการปราบปรามการทุจริตใน บก.ทล.อย่างเต็มที่ ไม่ได้ทำตามกระแสอย่างที่บางฝ่ายตั้งข้อสังเกต และเพื่อไม่ให้ข้าราชการตำรวจในหน่วยไปแสวงหาเงินจากการทุจริต จึงได้เข้าไปตรวจสอบและดูแลสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงให้ได้รับค่าตอบแทนอย่างเต็มที่" พล.ต.ต จรูญเกียรติ กล่าว
