ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีข่าวกรุงเทพมหานครทุ่มงบจัดงาน BMA EXPO 2023 เพื่อจัดแสดงความคืบหน้าผลดำเนินงาน 1 ปีที่ผ่านมาของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) จนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไร้ประโยชน์ แถมยังสวนนโยบาย “ห้ามเรียกรับ” เพราะต้องขอรับการสนับสนุนงบจากเอกชนนั้น มีข่าวฉาวปูดมาอีกแล้ว คราวนี้เป็นการแต่งตั้งโยกย้ายระดับผู้บริหารของ กทม. ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้
โดยแหล่งข่าวใน กทม.ระบุว่า เป็นที่น่าจับตามองว่าขณะนี้ กทม.กำลังจะมีการรับสมัครตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง (ผอ.เขต) และเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นาย ป ซึ่งเป็นคนของผู้มีอำนาจมีส่วนในการพิจารณาแต่งตั้งในครั้งนี้ ได้นัดหมาย ผช.ผอ.เขตทุกเขตมารายงานตัว ณ ห้องประชุมเขตแห่งหนึ่ง วาระการประชุมไม่มีแต่ส่งไลน์กลุ่มตามกันมา หลังพูดคุยโชว์บารมีแล้วช่วงบ่ายๆก็แยกย้ายกลับ คาดว่าเป็นการนัดมาเพื่อให้เห็นว่าใครทำตัวเข้าตาและพร้อมจะสวามิภักดิ์ก็มีสิทธิ์จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง มีข้าราชการบางคนไม่อยากมาเพราะเป็นวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันครอบครัว แต่ก็กลัวโดนสกัดกั้นตั้งแต่ส่งรายชื่อจึงจำใจจำต้องมา
เรื่องนี้มีการปิดข่าวกันให้แซ่ดทั้ง กทม. เพราะต่างก็ถามหาวาระที่จะมาพูดคุยแต่ก็ไม่มี บางคนไม่มาแต่ก็มีหลายคนที่มาเพราะตั้งแต่มีการอบรมเมื่อเดือนก่อน นาย ป ทำตัวใหญ่โตเจ้ากี้เจ้าการ เพื่อให้ข้าราชการรู้ว่าใครที่มีอิทธิพลและเป็นเด็กนายตัวจริง ซึ่งที่ผ่านมาคนใกล้ตัวของผู้ว่าฯกทม. ผู้ซึ่งเป็นผู้มากบารมีและนาย ป ลูกน้องของผู้มากบารมี ชอบเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับข้าราชการและงบประมาณต่างๆ ทุกเขตและทุกสำนัก จนข้าราชการเอือมระอา แม้กระทั่งงาน BMA EXPO 2023 ที่เพิ่งจัดไปก็ไม่เคยมีแผนหรือการเตรียมงบประมาณ ครั้นจะไม่ทำตามก็เกรงว่าจะโดนโยกย้าย เป็นที่น่าสังเกตว่า คนที่เป็นผู้มากบารมีจะยกหูโทรหาข้าราชการระดับบริหารของแต่ละสำนักเอง โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณและโครงการต่างๆ มีการล้วงลูกจนข้าราชการเอือมระอาและสับสนไปหมด
แหล่งข่าวยังบอกด้วยว่า ตอนนี้เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ข้าราชการว่าในการบริหารจัดการของผู้ว่าฯชัชชาติ ที่ได้ชื่อว่าโปร่งใสแต่ทำไมถึงปล่อยให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ถึงขนาดมองว่าผู้ว่าฯรู้เห็นเป็นใจให้คนมากบารมีและลูกน้องมาหาช่องทางทำมาหากินหรือเปล่า หรืออาจไม่รู้เรื่ิองจริงๆ แต่โดนปิดหูปิดตาปิดข้อมูลรายงานแต่เรื่องที่เป็นเท็จ และถ้ากลับไปเช็คประวัติผู้มากบารมีที่เป็นคนใกล้ชืดของผู้ว่าฯกทม. พบว่าประวัติไม่ธรรมดาขนาดสำนักข่าวดังอย่างสำนักข่าวอิศรายังเอาข้อมูลมาเผยแพร่ว่าถือหุ้นและเป็นกรรมการตั้ง 24 บริษัท รวมทั้งรับเหมาก่อสร้างด้วย จึงไม่น่าสงสัยว่าการให้ลูกน้องไปเตรียมการเพื่อสร้างเครือข่ายใน กทม. ครั้งนี้ สอดคล้องกับการที่ไปล้วงลูกตามสำนักต่างๆ เพื่อสานต่อผลประโยชน์ให้กับเครือข่ายธุรกิจของตัวเองหรือไม่
“หากผู้ว่าฯชัชชาติรู้อย่างนี้แล้วยังปล่อยให้คนใกล้ตัวไปยุ่งทุกหน่วยงานในสังกัด จนทำให้ข้าราชการอึดอัดและสงสัยในตัวผู้ว่าฯ แบบนี้ ระวังในที่สุดความคาดหวัง ความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวผู้ว่าฯ จะลดน้อยลงทุกวัน”
อย่างไรก็ตามเรื่องแบบนี้อย่าฟังความข้างเดียว แอบส่งคนลงไปเช็คข้อมูลลึกๆดู ท่านจะพบอีกหลายเรื่องทั้งค่าบริการห้องน้ำในสวนจตุจักรส่งไปที่ใคร หรือมีใครเรียกรับผลประโยชน์กับเอกชนเรื่องรับจ้างจัดเก็บขยะ เชื่อว่าข้าราชการ กทม. ยังแอบคาดหวังในตัวผู้ว่าฯ ที่แกร่งที่สุดในปฐพีอยู่ไม่น้อย และไม่เชื่อว่าท่านจะมีพฤติกรรมเหมือนคนใกล้ตัว เพียงแต่อยากให้ฟังเสียงจากข้าราชการบ้าง