xs
xsm
sm
md
lg

ก.อ.โยกย้ายแต่งตั้งอัยการ 727 ตำแหน่ง “โกศลวัฒน์” นั่งอธิบดีอัยการ สคช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง
ก.อ.โยกย้าย “โกศลวัฒน์” นั่งอธิบดีอัยการ สคช.- “ไพรัช” รอง อสส.จ่อตำเเหน่ง อสส. ปี 67 นั่งตำแหน่งเดิม- “ยรรยง” นั่งเลขาฯ อสส.- “ชัยวัฒน์” มือปราบทุจริตฯชายเเดน ขึ้นรอง อธ.อัยการ ภาค 9 ส่วน “วิรุฬห์-โกวิท-ประยุทธ-วัชรินทร์” ก็ยังเหนียวแน่นนั่งเก้าอี้เดิม

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. นายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธานการประชุม ก.อ. ครั้งที่ 9/2566 โดยมีวาระสำคัญเรื่องการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งและแต่งตั้งโยกย้ายสับเปลี่ยนข้าราชการอัยการ ระดับรองอัยการสูงสุด 4 ราย ระดับผู้ตรวจการอัยการ 9 ราย ระดับอธิบดีอัยการ 53 ราย ระดับรองอธิบดีอัยการ 83 ราย ระดับอัยการพิเศษฝ่าย 149 ราย ระดับอัยการชั้น 6 (ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ) 74 ราย ระดับอัยการชั้น 5 (อัยการจังหวัด-อัยการผู้เชี่ยวชาญ) 85 ราย ระดับอัยการชั้น 4 (อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด) 93 ราย ระดับอัยการชั้น 3 จำนวน 93 ราย อัยการอาวุโสจำนวน 84 ราย รวมทั้งสิ้น 727 ตำเเหน่ง

ให้มีผลตั้งเเต่วันที่ 1 ต.ค.2566 เป็นต้นไป ซึ่งมีรายชื่อที่น่าสนใจดังนี้

1. นายบุญมี แดนวังเดิม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี ไปเป็น อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ซึ่งคุมคดีเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับการเงินที่มีความซับซ้อน เช่นพวกคดีฉ้อโกงฯปั่นหุ้นที่มีมูลค่าสูง

2. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี หรือ สคช.ขึ้นเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี ซึ่งเป็นสำนักงานที่จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย (สคช.) เคยดำรงตำเเหน่งผู้อำนวยการสำนักกิจการและโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักงานอัยการสูงสุด ปัจจุบันเป็นรองโฆษกอัยการฯ ซึ่งเคยดำรงตำเเหน่งในกองงานโฆษกมาหลายสมัย นอกจากมีบทบาทสำคัญในด้านการเผยเเพร่ภาพลักษณ์ที่ดีกับองค์กรเเล้ว ยังมีด้านการสนับสนุนการทำงานช่วยเหลือสังคมและผู้ด้อยโอกาสมาโดยตลอด สนับสนุนผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้วยการมอบรางวัล “คนดีที่เรายกย่อง” เคยออกหน้าประสานงานด้านกฎหมายช่วยเหลือน้องปาล์ม เด็กที่โดนรถของกระทรวงสาธารณสุขชนจนพิการตลอดชีวิต ซึ่งภายหลังชนะคดีได้รับค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาล เมื่อครั้งโดนย้ายไปเป็นรองอธิบดี ภาค 9 ก็ได้รับเเต่งตั้งให้เป็นโฆษกอัยการปราบปรามทุจริต ภาค 9 เเถลงผลงานการดำเนินคดีทุจริตฯในภาค พร้อมให้ความรู้กฎหมายประชาชนเเละข้าราชการเกี่ยวกับคดีทุจริตฯเพื่อเป็นเเนวทางในการปฏิบัติไม่ให้ต้องคดี

บทบาทที่ผ่านมาของ นายโกศลวัฒน์ ถือเป็นอัยการที่ทำหน้าที่ให้แก่ส่วนรวมและผลประโยชน์สาธารณะที่ผู้บริหารในองค์กรเเละคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ไว้วางใจ

3. ม.ล.ศุภกิตต์ จรูญโรจน์ เลขาธิการสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ขึ้นเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการสูงสุด ยังนั่งเลขาธิการสถาบันนิติวัชร์อยู่เช่นเดิม ซึ่งจะมีบทบาทในการจัดเสวนาวิชาการช่วยเหลือประชาชนในคดีอาญาประสานความร่วมมือ หน่วยงานกระบวนการยุติธรรม ซึ่งมีการผลักดันการรื้อฟื้นเรื่องชะลอฟ้อง

4. นายเลิศพงศ์ กลัดอ่ำ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน ขึ้นเป็นรองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ซึ่งปัจจุบันนี้ภายหลังจากมี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ในมาตรา 31 วรรคสาม บัญญัติไว้ว่าด้วยการดำเนินคดี บัญญัติใกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่น นอกจากพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแล้ว กรณีการสอบสวนโดยหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่พนักงานอัยการ ให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบแจ้งเหตุแห่งคดีให้พนักงานอัยการทราบ เพื่อเข้าตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนทันที ซึ่งต่อไปจะเป็นสำนักงานที่มีบทบาทมากในการกำกับดูเเลการจับกุมคุมขัง

5. นายชัยวัฒน์ สุวรรณยอด อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 ขึ้นเป็นรองอธิบดีอัยการ ภาค 9 สำหรับนายชัยวัฒน์ เป็นอัยการมือดี ทำคดีทุจริตฯคนสำคัญในพื้นที่ ภาค 9 มีผลงานฟ้อง ข้าราชการ-นักการเมืองท้องถิ่นทุจริตฯศาลสั่งจำคุกคุกรายหลายจำนวนมาก ที่ล่าสุด ก็คดีจำคุก อดีตผู้ว่าฯ ยะลา จัดซื้อจีที 200 คดีศาลฎีกาสั่งคุก นายไพร พัฒโน อดีตนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ คดีเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีปลอมลายเซ็นทุจริตฯนำเงินเข้าตัวเอง เป็นต้น ครั้งนี้ได้ย้ายมาทำคดีอาญาทั่วไปในพื้นที่เดิม

6. นายประธาน จุฬาโรจน์มนตรี อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานอัยการสูงสุด เลขานุการอัยการสูงสุด (น.ส.นารี ตัณฑเสถียร) ขึ้นเป็นรองอธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษากฎหมายซึ่งดูข้อสัญญาหารือโครงการรัฐที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่ง น.ส.นารี อสส.เคยเป็นอธิบดีสำนักงานนี้

7. นายยรรยง เดชภิรัตนมงคล อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นเลขานุการอัยการสูงสุด (อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ ว่าที่อัยการสูงสุดคนต่อไป) นายยรรยง เคยเป็น รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และเคยเป็นเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุดคนเเรกขององค์กรอัยการมีฝีมือทางด้านงานวิชาการเเละงานบริหาร

8. นายธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายพัฒนากฎหมาย) เป็นอัยการผู้เชี่ยวชาญ (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายพัฒนากฎหมาย) สำนักงานวิชการ ซึ่งนาย ธนกฤต เป็นอัยการนักกฎหมายที่ให้ความเห็นข้อกฎหมายที่เป็นความรู้เเก่ประชาชน สิทธิต่างๆรวมถึงกฎหมายรัฐธรรมนูญ รวมถึงเป็นอาจารย์ผู้บรรยายกฎหมายให้กับสถาบันการศึกษาหลายสถาบันฯ รวมถึงถูกองค์กรรัฐขอตัวไปช่วยเป็นกรรมการเเละที่ปรึกษาหลายหน่วยงาน

9. น.ส. นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุดหญิงคนเเรกขององค์กร เป็นอัยการอาวุโส

10. นายสมเกียรติ คุววัฒนานนท์ รองอัยการสูงสุด เป็นอัยการอาวุโส สำหรับนายสมเกียรติตามคิว จะได้รับการพิจารณาขึ้นนั่งตำแหน่งอัยการสูงสุดในวันที่ 1 ต.ค. 67 แต่ได้สละสิทธิ์ โดยแจ้งความประสงค์ขอสละตำแหน่งบริหาร ไปดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ใหญ่ในองค์กรอัยการขอให้พิจารณาใหม่ เนื่องจากมีประวัติดีง มีความซื่อตรง เมื่อถึงคิวสามารถขึ้นตำเเหน่งผู้นำองค์กรได้เเน่ เเต่นายสมเกียรติยังยืนยัน มีแนวความคิดที่จะเยู่อย่างสงบ ไม่ต้องการตำแหน่งสำคัญ

11. นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ ผู้ตรวจการอัยการโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นอัยการอาวุโส

12. นางภาวนา ยิ่งวิริยะ อธิบดีอัยการสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด เป็นอัยการอาวุโส โดยนางภาวนาไม่ขอนั่งตำเเหน่งบริหารต่อ นางภาวนาเป็นผู้เคยรับผิดชอบคดีสำคัญ ซึ่งมีประวัติติทำงานด้วยความซื่อตรง

นอกจากอัยการที่มีชื่อโยกย้ายแต่งตั้งแล้ว ยังมีอัยการชื่อดังที่ยังนั่งอยู่ในตำเเหน่งเดิมที่มีความสำคัญ เช่น

นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ รองอัยการสูงสุดยังอยู่ในตำเเหน่งเดิม เเต่ขยับขึ้นเป็นรองอัยการสูงสุดคนที่ 1 ซึ่งจะมีคิวถูกเสนอชื่อเป็นอัยการสูงสุดคนต่อไปจากนาย อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ ว่าที่ อสส. นายไพรัช เคยเป็นอธิบดีสำนักงานคดีศาลเเขวงมาก่อน ขึ้นตำเเหน่งบริหารระดับสูงในองค์กร ซึ่งมีขอบเขตอำนาจพิจารณาสั่งคดีเเขวงทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ เคยนั่งอธิบดีอัยการสำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ มีผลงานในการพัฒนาปรับระบบการทำงานเพิ่มคุณภาพการดำเนินคดีอนุญาโตตุลาการอำนวยความสะดวกในงานคดีต่างๆ อดีตเคยดำรงตำแหน่งเลขานุการอัยการสูงสุดสมัยนายชัยเกษม นิติสิริ

นายศักดา ช่วงรังษี ยังอยู่ตำเเหน่งรองอัยการสูงสุด ตำเเหน่งเดิมแต่ขยับคิวอาวุโสขึ้น นอกจากเป็นอัยการเเล้ว นายศักดาเลขาธิการสำนักอบรมศึกษาเเห่งเนติบัณฑิตยสภาหรือครูใหญ่เนฯ รวมถึงยังเคยได้รับการเลือกตั้งเป็น ก.อ. โดยตอนนี้เป็น ก.อ.โดยตำเเหน่ง เป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบ ดีกรีนักเรียนนอกจบป.โทด้านกฎหมายจาก ฮาร์วาร์ด และ ป.โท จาก มหาวิทยาลัยดีคิ่น รุ่น 28

นายอิทธิพร เเก้วทิพย์ ตำเเหน่งรองอัยการสูงสุดตำเเหน่งเดิมเเต่ขยับคิวอาวุโสขึ้นเช่นกัน สำหรับนายอิทธิพร ก็มีคิวที่จะขึ้นเป็นอัยการสูงสุดในอนาคตต่อจากนายไพรัช เคยเป็น อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญเเบ่งเป็น 12 กองงานที่จะมีคดีใหญ่สำคัญเข้าในพื้นที่สำคัญจาก สน.ต่างๆ ในพื้นที่หลัก รวมถึงรับคดีจากกองปราบปรามเข้ามาพิจารณาสั่งคดีไป

นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ ยังนั่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญรับพิจารณาสำนวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และคดีป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน หรือปปง.ซึ่งจะต้องเป็นคดีที่มีมูลค่าทรัพย์ความเสียหายจำนวนมากมีอิทธิพลเข้ามาในคดีรวมถึงคดีการเมืองเเละการชุมนุมของม๊อบการเมืองต่างๆ นายวิรุฬห์เคยเป็นลูกหม้อเก่าของสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เป็นที่รู้จักในวงการอัยการ เคยเป็นเจ้าของสำนวนคดี การชุมนุม มีผลงานฟ้องคดีฟอกเงินเเชร์หรือเว็บการพนันมูลค่าสูง ที่บุคคลชื่อดังตกเป็นจำเลยต่อศาล ได้รับฉายา “อัยการวัคซีน” เนื่องจากช่วงภาวะแพร่โรคระบาดโควิดพาบุคลากรสำนักงานอัยการสูงสุด ทั้งอัยการ รปภ. แม่บ้าน และครอบครัวรับการฉีดวัคซีนโควิด เป็น 1,000 คน และจัดหายารักษา รวมทั้งจัดหาโรงพยาบาลให้ผู้ป่วย นั่งเป็นอธิบดีอัยการคดีพิเศษสมัยที่ 2 เเละเป็น ก.อ.จากการเลือกตั้งของอัยการทั่วประเทศ

นายโกวิท ศรีไพโรจน์ ยังนั่งอธิบดีอัยการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ ซึ่งถือเป็นโรงเรียนอัยการ โดยมีบทบาทในการจัดอบรมบรรยายปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรบทบาทหน้าที่ของอัยการผู้ช่วยที่สอบได้รวมถึงพัฒนาเพิ่มพูลทักษะของข้าราชการอัยการทั้งหมด ซึ่งทำให้รู้จักอัยการรุ่นใหม่ที่ผ่านเข้าอบรมจำนวนมากหากลงเลือกตั้งคาดว่าได้คะแนนนิยม
จากประวัตินายโกวิทเป็นอัยการสายบู๊ ดูงานคดีลูกหม้อสำนักงานคดีพิเศษเก่าเคยรับผิดชอบคดีม๊อบการเมืองเเละคดีผู้มีอิทธิพลสำคัญก่อนย้ายกลับไปภาคใต้ ก็มีบทบาทในเรื่องคดีที่เกี่ยวกับการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ จ.พังงา และ ภูเก็ต รวมทั้งคดีเจ้าหน้าที่รัฐประพฤติมิชอบสมัยเป็นอธิบดีอัยการปราบปรามทุจริตญ ภาค 8 ที่สำคัญเป็นคิวที่จะขึ้นดำรงตำเเหน่งอัยการสูงสุดในอนาคตด้วย

นายประยุทธ เพชรคุณ ยังนั่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เนื่องจากได้รับความไว้วางใจเชื่อถือทางด้านงานคดี เเละงานภาพลักษณ์องค์กร สำหรับนายประยุทธ มีบทบาทเป็นที่รู้จักในฐานะรองโฆษกอัยการฯ ที่โดดเด่น โดยนั่งตำเเหน่งในทีมโฆษกมายาวนานถึง7 ปีซ้อน รับหน้าที่เเถลงคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเเละคดีใหญ่สะเทือนขวัญ สำคัญหลายคดี ให้กับสื่อมวลชนเเละประชาชนเข้าใจชัดเเจ้ง รวมถึงมีบทบาทการสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือขององค์กร ได้รับไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้บริหาร เพราะสำนักงานคดีพิเศษเป็นสำนักงานที่รับพิจารณาสำนวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และคดีป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน หรือปปง.ซึ่งรวมถึงคดีการเมืองเเละการชุมนุมของม๊อบการเมืองต่างๆสำนักงานดังกล่าวจึงมีบทบาทสำคัญ ที่สำคัญในการเลือกตั้งคณะกรรมการอัยการที่ผ่านมานายประยุทธได้รับการเลือกตั้งเป็น ก.อ.ด้วยคะเเนนสูงที่สุดในครั้งนั้น เป็นคนที่มีความนิยมในหมู่อัยการสายต่างจังหวัด

จบหลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 59 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เคยดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดหลายจังหวัด สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการอยู่ 4 ปี ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปดำรงตำแหน่งอัยการพิเศษฝ่ายสำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ รับผิดชอบการบริหารจัดการด้านอาคารและที่ดินของสำนักงานอัยการสูงสุด ยังได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ของกระทรวงยุติธรรม และเป็นประธานพัฒนากฎหมายและอนุกรรมการพัฒนากฎหมายของหน่วยราชการอีกหลายคณะ

นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ ยังนั่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนเป็นอัยการมือสอบสวน ฝีมือดี มีผลงานสมัยอยู่สอบสวนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายเเดนลุยคดีปล้นปืน ได้รับคำสั่งให้ร่วมสอบสวนคดีสำคัญหลายคดีจำนวนมาก อาทิ คดีฟอกเงิน สหกรณ์รถไฟ, คดีรถหรู, เสาไฟกินรี, คดีสหกรณ์จุฬา, เป็นที่ปรึกษาคดีพิเศษคดีโครงการจัดซื้อรถซ่อมถนนแอสฟัลท์ติกแบบอัตโนมัติ, โครงการจัดซื้อรถซ่อมถนนและปูพื้นยางของ อบจ.น่าน กับโครงการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงถนนและปูพื้นยางแบบอเนกประสงค์ อบจ.สระแก้ว ที่อาจผิดฮั้วประมูล ยังไปเป็นที่ปรึกษา สปสช.ในช่วงวิกฤตสถานการณ์โควิดซึ่งช่วงนั้นมีการร้องตรวจสอบกรณีส่อทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างชุดตรวจ ATK เเละล่าสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงานอัยการ ร่วมสอบเครือข่าย ตุน มิน ลัต ที่เกี่ยวพันถึง สว.ชื่อดัง เเละล่าสุดเป็นหัวหน้าชุดคดีเรียกเงิน 140 ล้าน มีลูกศิษย์เป็นตำรวจเเละพนักงานสอบสวนให้ความเคารพเป็นจำนวนมาก

โดยจะมีผลตั้งเเต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 เป็นต้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น