สาวชาวจีนเจ้าของรถโรลส์รอยซ์ พร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน กรณีถูกกระบะซิ่งชนท้ายบนมอเตอร์เวย์ ยืนยันเอาผิดคู่กรณี ไม่ได้ยอมความ เพราะไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แต่วันเกิดเหตุสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง
จากกรณีอุบัติเหตุรถกระบะแต่งซิ่งชนท้ายรถหรูโรลส์รอยซ์ มูลค่า 32 ล้านบาท เหตุเกิดบนถนนมอเตอร์เวย์ ได้มีการแชร์ภาพดังกล่าวผ่านสื่อโซเชียล ต่อมามีการระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ได้ติดใจเอาความ ก่อนแยกย้ายกันไปตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (16 ส.ค.) หญิงสาวชาวจีนเจ้าของรถโรลส์รอยซ์ พร้อมล่ามแปลภาษา และ นายอนิรุจน์ คงทรัพย์ ทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.8 บก.ทล. เพื่อเอาผิดกับคนขับรถกระบะที่ชนท้าย เหตุเกิดบริเวณบนถนนมอเตอร์เวย์ขาเข้า กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยทนายความ เปิดเผยว่า เจ้าของรถชาวจีนรายนี้ ทำธุรกิจร้านอาหารในไทย มีสาขาทั้งใน กทม. และ พัทยา วันเกิดเหตุ กำลังจะนำรถเข้าเช็กที่ศูนย์บริการ ระหว่างที่ขับรถมาปกติเพียงลำพัง อยู่ๆ รถกระบะคู่กรณีขับมาพุ่งชนท้ายอย่างแรง ตัวเธอจึงลงไปเจรจากับคู่กรณี แต่ด้วยความที่พูดไทยไม่ได้ จึงใช้ภาษามือ บอกว่า ให้ไปเจอที่อู่รถ เพราะกำลังเอารถไปตรวจเช็ก ยืนยันไม่ได้บอกว่าจะไม่เอาความ เมื่อทราบจากข่าวจึงตกใจ และรีบปรึกษาทนาย ซึ่งเป็นทนายที่ดูแลว่าความให้เธออยู่แล้ว
สำหรับรถโรลส์รอยซ์ มีประกันชั้น 1 แต่หญิงสาวชาวจีนคนดังกล่าว บอกผ่านล่ามว่า ไม่ได้เป็นคนผิด จึงไม่ยอมความ และอยากให้ตำรวจตามตัวคู่กรณีมารับผิดชอบ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุ คนขับกระบะยังไม่ติดต่อมาเลย ส่วนความเสียหายอยากให้ประกันมาคุยกัน
ขณะที่ล่ามแปลภาษา เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุหญิงสาวชาวจีนได้นัดหมายอู่รถไว้ กำลังจะขับเพื่อนำเข้าไปเช็กระยะตามกำหนด แต่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น หญิงสาวชาวจีน บอกว่า ตนเองขับรถมาปกติ อยู่เลนขวา แล้วมีรถด้านหน้าชะลอ จึงชะลอตามๆ กัน แล้วรถกระบะก็ขับมาชนท้ายเอง ซึ่งเมื่อชนแล้วก็ลงมาเจรจากัน แค่คุยกันไม่รู้เรื่อง ใช้โทรศัพท์แปลภาษาคุยกัน แต่ไม่เข้าใจ โดยหญิงสาวชาวจีนพยายามบอกว่า รถมีประกัน โดยมีการสื่อสารกับคู่กรณีนิดหน่อยเป็นภาษามือ ตั้งใจจะบอกว่าให้ขับตามไป จะไปรอที่อู่ เพราะนัดประกันไว้แล้ว แต่คนขับรถกระบะน่าจะไม่เข้าใจ เลยไม่ได้ตามไป
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้ต่างคนต่างซ่อมแบบที่เป็นข่าว จะต้องให้ตำรวจประสานกับคู่กรณี และให้ประกันรถของอีกฝ่ายมาเจรจาค่าซ่อมรถด้วย
ด้าน พ.ต.ท.โสภณ โกมลสุทธิ รอง ผกก.สอบสวน กก.8 บก.ทล. เปิดเผยว่า หลังจากนี้ จะตามตัวคนขับรถกระบะมาสอบปากคำ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะตั้งแต่เกิดเหตุ ทั้งคู่ยังไม่ได้มาแจ้งความ ตำรวจก็ทราบเรื่องจากโซเชียลเท่านั้น จากนี้จะนำภาพวงจรปิดมาดูว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด โดยขณะนี้ ได้ตามตัวคู่กรณีพบแล้ว โดยไม่มีการหลบหนีแต่อย่างใดพร้อมที่จะมาเจรจาตามกฎหมายต่อไป