xs
xsm
sm
md
lg

ทลายแก๊งอดีตทหาร อ้างมูลนิธิชัยพัฒนา ตุ๋นลงทุนโครงการพันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



กองปราบรวบแก๊งอดีตทหาร แอบอ้างมูลนิธิชัยพัฒนา หลอกผู้รับเหมา- ชาวบ้านร่วมลงทุนโครงการแก้มลิงภาคอีสานมูลค่านับพันล้านบาท

วันนี้ (10 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สุพจน์ น้อยสวรรค์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลจับกุมแก๊งอ้างตัวเป็นเสธทหารหลอกลงทุนโครงการของมูลนิธิชัยพัฒนาฯ ได้ผู้ต้องหา 7 รายประกอบด้วย นายสมชาย หรือ ผู้กองเป็ด นามโสมอายุ 59 ปี , นายสุริยพันธ์ หรือผู้กองจอร์ท สัตยาพิทักษ์ อายุ 61 ปี , นายอัครวัฒน์ หรือเสธหนุ่ม พรหมคำน้อย อายุ 59 ปี ,นายประสาร หรือ เสธแดง แสงสว่าง อายุ 65 ปี , นายนิพนธ์ ภูคงคา อายุ 61 ปี ,น.ส.วราภรณ์ สุวรรณคำมูล อายุ 58 ปี และ นายสมศักดิ์ ขันทอง อายุ 51 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ฉ้อโกง และ ฉ้อโกงประชาชน” พร้อมของกลาง เอกสารโครงการรับเหมาก่อสร้างต่างๆ จำนวน 20 โครงการ สมุดบัญชีธนาคาร 18 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 3 ใบ และโทรศัพท์มือถืออีก 4 เครื่อง ได้ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ มหาสารคาม ,ร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์ ,เชียงใหม่ , ลำปาง และ สุพรรณบุรี

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า เมื่อต้นปี 64 ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก มูลนิธิชัยพัฒนา ว่ามีกลุ่มบุคคลแอบอ้างมูลนิธิจัดทำโครงการแก้มลิง ในพื้นที่ภาคอีสาน จำนวน 90 โครงการ เพื่อหลอกลวงเงินจากผู้ประกอบการรับเหมารายย่อยและชาวบ้าน ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าโครงการดังกล่าวไม่มีอยู่จริง ที่ผ่านมามีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า 20 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1.5 ล้านบาท หลังรับเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสคนร้ายทันที

ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มคนร้ายจะอ้างตัวว่าเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่และ เป็นตัวแทนจากมูลนิธิชัยฯ กำลังจัดทำโครงการขุดลอกหนองน้ำ ของมูลนิธิฯ ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือประชาชน และ กำลังมีนโยบายเปิดโอกาสให้ผู้รับเหมารายย่อยในพื้นที่ภาคอีสานได้รับงาน ซึ่งแต่ละโครงการจะมีงบประมาณสนับสนุน เป็นเงินหลัก 100 -1,000 ล้านบาท หากใครสนใจเข้าร่วมโครงการจะต้องจ่ายเงินค่าซื้อแบบโครงการจากกลุ่มผู้ต้องหา เป็นค่าแบบโครงการ จะเริ่มต้นที่ราคา 17,500 บาท ไปจนถึง 90,000 บาท ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และงบประมาณของโครงการที่จะได้รับ

พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวต่อว่า กลุ่มผู้ต้องหามักจะใช้สถานที่ราชการเป็นสถานที่นัดประชุม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งในแต่ละครั้งที่มีการจัดประชุมจะมีคนที่สนใจเข้าร่วมประมาณ 50-60 คน ที่ผ่านมามีการนัดประชุมมาแล้วประมาณ 4 ครั้ง อย่างไรก็ตามหลังจากมีการจ่ายเงินซื้อแบบโครงการและร่วมทำสัญญาว่าจ้าง (MOU) แล้วนั้น กลุ่มผู้ต้องหาก็จะขาดการติดต่อก่อนเชิดเงินหนีหายไป

ส่วน พ.ต.ท.ภาณุมาศ กล่าวว่า จากสวนสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพบผู้ร่วมกระทำผิดจำนวน 10 ราย มีการแบ่งหน้าที่กันทำโดยแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มนายหน้าผู้ชักชวนส่วนใหญ่จะอ้างตัวเป็นทหาร ส่วนผู้ต้องหากลุ่มที่สอง ที่ทำหน้าที่เป็นบริษัทหน้าม้า จากการตรวจสอบประวัติทั้งหมด พบ นายประสาร กับ นายสุริยพันธ์ นั้นอดีตเคยรับราชการทหารสังกัดหนึ่งจริง ส่วนที่เหลือเป็นการแอบอ้าง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 7 รายดังกล่าว คงเหลือเพียงนายกิตติศักดิ์ กับ น.ส.เมตตา ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี ส่วน นายเลิศพงศ์ นั้นถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำจากการถูกจับในคดีอื่น

ขณะที่ พ.ต.ท.สุพจน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธ ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดส่วนใหญ่ชี้ว่าเป็นการทำตามคำสั่งของ นายสมชาย หรือ ผู้กองเป็ด โดยไม่ทราบว่าเป็นการหลอกลวงเงินชาวบ้าน จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป











กำลังโหลดความคิดเห็น