MGR Online - โฆษกกรมคุ้มครองสิทธิฯ แจง ผู้บริหาร ก.ยุติธรรม ขอแสดงความเสียใจเหตุการณ์โกดังพลุระเบิด จ.นราธิวาส พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้เสียหาย-ผู้เสียชีวิต
จากกรณี โกดังเก็บพลุ ประทัด และดอกไม้ไฟ ระเบิด ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บกว่าร้อยราย รวมทั้งบ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนมาก นั้น
วันนี้ (1 ส.ค.) นายธีรยุทธ แก้วสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ ในฐานะโฆษกกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม รู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งผู้ประสบเหตุที่ได้รับความเสียหายในเหตุการณ์ครั้งนี้ ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ได้เร่งให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายเป็นการเร่งด่วน
โดยกรมฯ ได้ประสานงานกับ นางอำไพ ชนะชัย ยุติธรรมจังหวัดนราธิวาส และเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัด เพื่อประสานแนวทางการแจ้งสิทธิตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ร่วมกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจ สภ.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก และศูนย์ปฏิบัติการเยียวยาฯ อำเภอสุไหงโก-ลก รวมทั้งเครือข่ายศูนย์ยุติธรรมชุมชนในการให้คำปรึกษาเบื้องต้นและการให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ แก่ผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์พลุระเบิดครั้งนี้ด้วย
นายธีรยุทธ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดครั้งนี้ นับเป็นโศกนาฏกรรม ที่เกิดความสูญเสียอย่างมาก และเป็นเหตุสะเทือนใจของสังคม กรณีของผู้เสียหายที่เสียชีวิต มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาตามกฎหมายสูงสุด รายละ 200,000 บาท ประกอบด้วย ค่าตอบแทนเสียชีวิต ไม่เกิน 100,000 บาท ค่าจัดการศพ ไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู ไม่เกิน 40,000 บาท และค่าตอบแทนความเสียอื่น ไม่เกิน 40,000 บาท
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคณะอนุกรรมการจังหวัดนราธิวาส พิจารณาเป็นสำคัญ ส่วนกรณีผู้ที่ได้บาดเจ็บ มีสิทธิได้รับการเยียวยา ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล จำนวนไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพ จำนวนไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ เนื่องจากต้องพักรักษาตัว ตามค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดนราธิวาส (อัตราวันละ 328 บาท)ไม่เกิน 1 ปี และค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ตามความรุนแรงของอาการบาดเจ็บ จำนวนไม่เกิน 50,000 บาท
นายธีรยุทธ กล่าวย้ำว่า กรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นความผิดอาญาที่ชัดเจนจากการกระทำผิดของผู้อื่น โดยที่ผู้เสียหายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่า คณะอนุกรรมการจังหวัดนราธิวาส จะสามารถประชุมพิจารณาช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วภายในสัปดาห์หน้านี้ ส่วนกรณีที่ได้รับบาดเจ็บอาจต้องรอการรักษาพยาบาลและเอกสารประกอบการพิจารณา ซึ่งสำนักงานยุติธรรมจังหวัดจะได้ประสานงานกับผู้เสียหายและทายาทอย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้ ทายาทหรือผู้เสียหาย สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดนราธิวาส หมายเลข 0-7353-1234 หรือ สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77 (โทร.ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง)