รอง ผบ.ตร.เผยสั่งพนักงานสอบสวนคดีฆ่าหั่นศพ "ฮันส์ ปีเตอร์" นักธุรกิจชาวเยอรมัน พิจารณาแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองฯ มีโทษสูงสุดถึงประหาร
วันนี้ (14 ก.ค.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้า กรณีฆ่าหั่นศพ นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชาวเยอรมัน ว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินคดีข้อหากับกลุ่มผู้ต้องหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เนื่องจากความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานั้น มีโทษสูงสุดแค่จำคุกตลอดชีวิต แต่ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต โดยชุดพนักงานสอบสวนมีข้อมูลหมดแล้วว่า จุดไหนที่ไปซื้อเลื่อยไฟฟ้า รวมถึงทุกจุดที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมด เพื่อจะนำมาประกอบสำนวน
ทั้งนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของกลุ่มแก๊งที่อยู่ในพื้นที่พัทยา และพักอาศัยอยู่ที่หนองปรือ จ.ชลบุรี รวมถึงการตรวจสอบการขออนุญาตอยู่ต่อในรูปแบบของ วีซ่ารีไทร์เมนต์ โดยให้ลงพื้นที่สกรีนเป้าหมายทั้งหมดในพื้นที่พัทยา โดยกำหนดให้มีการส่งมอบข้อมูลทั้งหมดภายใน 2 สัปดาห์ และจะมีการลงพื้นที่กวาดล้างกลุ่มแก๊งพวกนี้ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ต้องจับตาดูกลุ่มชาวต่างชาติที่มาอยู่เมืองไทย ไม่มีงานทำ มีพฤติกรรมขี่รถ จยย. ฮาเล่ย์ เดวิดสัน และมีรอยสักเป็นตราสัญลักษณ์ของแก๊ง จะใช้มาตรการของ ตม. ในการเพิกถอนวีซ่า และส่งกลับประเทศของตัวเอง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า จะไม่ยอมให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้มาอาศัยพัทยาเป็นที่พักพิง เพราะฉะนั้นการที่ ตม. จะต่อวีซ่าให้แก่กลุ่มบุคคลที่มีรอยสักเป็นกลุ่มแก๊ง ต้องพิจารณาออกวีซ่ารีไทร์เมนต์ ไม่ได้ เมื่อกลุ่มบุคคลพวกนี้เข้าประเทศมาแล้ว มาก่อเหตุอาชญากรรม ด่านแรกคือ ตม. ต้องตรวจสอบ และกวาดล้างกลุ่มแก๊งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Outlaws หรือ Bandidos หลังการกวาดล้างเชื่อว่า กลุ่มแก๊งพวกนี้ที่อยู่ต้องเผ่นหนีไปหมด อยู่ในประเทศนี้ไม่ได้ หากจุดไหนที่เจ้าหน้าที่รัฐอ่อนแอ กลุ่มพวกนี้ก็จะไปที่นั่น เพราะฉะนั้นหน่วย ตม. จะต้องเข้มแข็ง ตนได้กำชับและสั่งการกับ ผบก.ตม.3 ไปแล้ว