รอง ผบ.ตร.เผยเตรียมขอหมายจับอีก 2 ราย ผู้ต้องหาต่างชาติร่วมกันฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน ขณะนี้รู้พิกัดที่อยู่ระหว่างหลบหนี้แล้ว ยืนยันเร่งจับกุมมาดำเนินคดี
วันนี้ (11 ก.ค.) ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดีนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจชาวเยอรมัน ถูกฆ่าหั่นศพ ว่า จากการประชุมมอบหมายงานเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2 รักษาราชการแทน ผบก.จว.ชลบุรี และ บก.สส.ภ.2 ทำให้พบศพมีการฆ่าหั่นศพเก็บไว้ในตู้แช่ตรงกับที่สันนิษฐานไว้ก่อนหน้านี้ว่าอาจจะไม่มีชีวิตแล้ว พอเก็บร่องรอยพยานหลักฐาน อาทิ รอยนิ้วมือ ดีเอ็นเอ รอยฝ่ามือ เสร็จสิ้นมีการขอศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย 1.MRS.PETRA CHRISTL GRUNDGREIF (เพตรา) ชาวเยอรมัน 2.MR.OLAF THORSTEN BRINKMANN (โอลาฟ) ชาวเยอรมัน และ 3.นายซาฮ์รูค คารีม อุดดิน ชาวปากีสถาน สัญชาติไทย ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ
โดยขณะนี้จับกุมนางเพตราได้แล้วพร้อมจับกุมนายนิโค (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุและเตรียมขอศาลออกหมายจับสำหรับในส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 ราย คือนายโอลาฟ และนายซาฮ์รูค อยู่ระหว่างหลบหนีภายในประเทศไทย ตำรวจทราบพิกัดทั้งสองคนแล้วแต่ขอละเว้นการเปิดเผยไว้ก่อนและขบวนการดังกล่าวจะจับกุมทั้งหมดทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องขอเวลาสักระยะยืนยันรีบเร่งจับกุมตัวมาดำเนินคดีแน่นอน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวต้องรีบทำให้เร็วเพราะคนร้ายรู้วิธีการและมีความเกี่ยวพันเรื่องยาเสพติดยังเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติอาศัยประเทศไทยเป็นแหล่งพักพิง ก่อเหตุในพื้นที่พัทยาชาวบ้านทราบกันดีว่าขบวนการดังกล่าว โดยจะเดินทางไปร่วมประชุมกับ ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ ผกก.สภ.หนองปรือ โดยจะเรียกพูดคุยหารือทั้งหมด เพราะชาวบ้านเอือมระอาหมดแล้วสำหรับประเด็นที่จะพูดคุยหารือ เช่นลักษณะการอาศัยในไทยโดยใช้วีซ่าซึ่งก็จะวกกลับไปที่ตำรวจ ตม. ซึ่งรับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะการใช้วีซ่ารีไทร์เมนต์ (Retirement) หรือวีซ่าธุรกิจ ต้องตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ไม่ใช่มีแค่เงินแล้วทำได้ อยู่ได้เพราะตนเล็งเห็นว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีลักษณะพิเศษ เข้ามาไทยมีการสักทั้งตัว
อย่างไรก็ตามต้องกำชับว่าตำรวจ ตม.จะต้องกวาดล้างขบวนการเหล่านี้ให้หมดทั้งพัทยาและหนองปรือ เพราะหนองปรือถือเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อกลับจากพัทยา ทั้งนี้ ผกก.ทั้งสอง สภ. ต้องเข้มแข็งจะให้มีเหตุการณ์จีนอุ้มจีนหรือเยอรมันอุ้มเยอรมันในไทยไม่ได้
สำหรับไทม์ไลน์การก่อเหตุ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เพิ่งทราบคดีเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา แนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่าขบวนการดังกล่าววางแผนมาก่อน เตรียมการมาอย่างดีคาดว่าวางแผนมานานกว่า 1 เดือน มีการชี้เป้าหมายโดยนางเพตรา เป็นคนดึงผู้เสียชีวิตเข้ามาในบ้านจุดเกิดเหตุ หลอกเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ เพราะรู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนที่มีฐานะ แม้เงินยังไม่ได้ทั้งหมดเพราะทางตำรวจอายัดไป 3 ล้านบาทแล้วแต่ชนวนเหตุเบื้องต้นยืนยันว่ามาจากเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์ แต่ถ้าจะมีมากกว่านั้นขอขยายผลก่อนเพราะมองว่าขบวนการนี้มีคนร่วมมากกว่านี้แน่นอน
ประเด็นเส้นทางการเงินที่ออกจากบัญชีผู้เสียชีวิตนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ระบุว่า ทราบว่าเงินจากบัญชีผู้เสียชีวิต 3 ล้านบาท ถูกโอนออกไปยังบัญชีปลายทางประมาณหลักสิบบัญชี อยู่ระหว่างรีพอร์ตเพิ่มเติมจากธนาคารหลังจากนี้จะออกหมายจับบัญชีม้าทั้งหมดด้วยเพราะทราบว่าตัวยังอยู่ในเมืองไทย อย่างไรก็ตามปฏิบัติการหลังจากนี้ตำรวจจะปูพรมจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด