xs
xsm
sm
md
lg

“ชาฮ์รูค” แฉถูกโอลาฟ หัวโจกใหญ่ขู่อุ้มแฟนและน้องสาวไปขายที่เขมร หากไม่ร่วมฆ่านักธุรกิจชาวเยอรมัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวศรีราชา - “ชาฮ์รูค” ผู้ต้องหารายล่าสุดแก๊งอุ้มฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมันสาบานไม่ได้ลงมือฆ่า แต่ถูก “โอลาฟ” ขู่อุ้มน้องสาว และแฟนไปขายที่เขมรหากไม่ร่วมขบวนการ ด้านทนายความหัวโจกใหญ่แถเป็นอุบัติเหตุจากการบีบให้จ่ายเงินทำนักธุรกิจหัวใจวายตาย จนนำสู่การซ่อนศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีแก๊งอุ้มฆ่าหั่นศพ นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค (MR.HANS PETER RALTER MACK) อายุ 62 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวเยอรมัน หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ยกแก๊ง ล่าสุดหลังจากที่ นายชาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี สัญชาติ ไทย เชื้อชาติปากีสถาน ถูกจับกุมตัวได้ที่ จ.กาญจนบุรี ขณะเตรียมหลบหนีไปประเทศพม่า และถูกนำตัวมา สภ.หนองปรือ เมื่อเวลา 23.50 น.วานนี้ (12 ก.ค.)

พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี ได้คุมตัวผู้ต้องหาเข้าห้องขังทันทีในสภาพสีหน้าเคร่งเครียด โดยมี พ่อ แม่ และพี่ชายของนายชาฮ์รูค เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์และร้องขอที่จะเห็นหน้าลูกชายก่อนถูกนำตัวเข้าห้องขัง ถัดจากห้องขัง ของนายโอลาฟ ธรอสเทน บริงก์มันน์ หัวโจกใหญ่ในทันที

ทั้งนี้ นายชาฮ์รูค คารีม อุดดิน ถูกออกหมายจับในฐานความผิดร่วมกันฆ่าและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ นายฮันส์ ปีเตอร์ มุค นักธุรกิจชาวเยอรมัน และถูกติดตามจับกุมได้ขณะนั่งรถแท็กซี่ไปเปิดห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อซ่อนตัวและเตรียมหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่ถูกพนักงานของโรงแรมแจ้งเบาะแสไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าจับกุม


โดย นายซาบาส อายุ 52 ปี และนางแพค อายุ 56 ปี เจ้าของธุรกิจนำเข้าอาหารทะเลใน จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ นายชาฮ์รูค บอกว่ารู้จักกับ นางเพทรา คริสเติล กรุนด์กริฟ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นนายหน้าซื้อขายที่ดินชาวเยอรมันเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งนางเพทรา ได้มาติดต่อร่วมทำธุรกิจอาหารทะเลและขอให้ส่งของไปขายในพื้นที่เมืองพัทยา แต่เมื่อมีการเจรจาพูดคุยแล้วเห็นว่า นางเพทรา ไม่มีความน่าเชื่อถือการเจรจาทางธุรกิจจึงล่มไป และไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

กระทั่งทราบข่าวว่า ลูกชายยังติดต่อกับนางเพทรา อยู่ในเรื่องการเป็นนายหน้าซื้อขายที่ดิน ซึ่งที่ผ่านมาได้พยายามห้ามลูกชายแล้วแต่ไม่เชื่อฟังจนกระทั่งตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพดังกล่าว

และยังบอกอีกว่าลูกชายได้สาบานกับตนเองว่า ไม่ได้เป็นผู้ฆ่าหั่นศพ และยังบอกว่าถูกข่มขู่จากนายโอลาฟ ว่าหากไม่ร่วมขบวนการจะลักพาตัวน้องสาว และเมียไปขายที่เขมร ซึ่งทางครอบครัวยังเชื่ออีกว่าลูกชายถูกบังคับให้ทำเรื่องดังกล่าว และอาจถูกจัดฉากให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น

เช่นเดียวกับ นายชาฮ์ลี พี่ชายของนายชาฮ์รูค เผยว่า ตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องชายในช่วงเวลาสั้นๆ ทางโทรศัพท์ยืนยันว่า น้องชายถูกนายโอลาฟ ขู่ฆ่าและขู่จะลักพาตัวแฟนสาวและน้องสาวไปขายที่เขมร และเชื่อว่าน้องชายถูกหลอกให้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ โดยยืนยันว่า น้องชายเป็นคนจิตใจดี เพียงแค่ชอบในรอยสักและขี่รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ในกลุ่มที่ชื่อว่า “81” เท่านั้น


“โอลาฟ” ยังไม่ให้การตำรวจ ขณะผู้ช่วยทนายอ้างไม่ใช่เรื่องตั้งใจฆ่า

โดย นายแมททิว ซึ่งเป็นล่ามและผู้ช่วยทนายของ นายโอลาฟ ธรอสเทน บริงก์มันน์ อายุ 52 ปี ชาวเยอรมัน หัวโจกในคดีฆ่าหั่นศพเผยกับผู้สื่อข่าวว่าขณะนี้ นายโอลาฟ ยังไม่ได้ให้การใดๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของอุบัติเหตุและ ไม่มีใครตั้งใจที่จะฆ่า นายฮันส์ ปีเตอร์ เพียงแต่เป็นการบีบให้จ่ายเงิน และนายฮันส์ ปีเตอร์ น่าจะหัวใจวาย

ส่วนจำนวนเงินที่มีความพยายามบังคับให้ นายฮันส์ ปีเตอร์ จ่ายนั้นไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าใดและไม่ทราบว่าเป็นค่าอะไร ซึ่งในเบื้องต้นเชื่อว่าไม่ใครทำร้าย ทุบตี ต่อย หรือยิงนายฮันส์ ปีเตอร์ แต่น่าจะเป็นการเสียชีวิตจากโรคประจำตัวกำเริบ และเมื่อเกิดเหตุขึ้นทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทำอะไรไม่ถูกจนกระทั่งหาทางออกด้วยการลงมือในลักษณะดังกล่าว

“ขณะนี้ทีมทนายกำลังปรึกษาและรอดูท่าทีของ นายโอลาฟ ว่าจะให้การต่อพนักงานสอบสวนหรือไม่ ซึ่งนายโอลาฟ จะปฏิเสธในชั้นสอบสวน และจะรอดูว่า นายชาฮ์รูค จะให้การอย่างไรเนื่องจากเป็นผู้เช่าพูลวิลล่า อีกทั้ง นายโอลาฟ ยังบอกว่าไม่เคยรู้จักกับ นายชาฮ์รูค มาก่อน” ทนายความนายโอลาฟ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น