MGR Online - “ดีเอสไอ” ออกหมายเรียกผู้บริหาร บ.สตาร์ค รับทราบข้อหา 3 ราย “พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ-ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนรถหรู 4 คันตามอายัดแล้ว
วันนี้ (12 ก.ค.) เวลา 14.30 น. ที่ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ อาคารเอ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกดีเอสไอ และ น.ส.พิทยาภรณ์ ชูรัตน์ รองโฆษกดีเอสไอ ร่วมแถลงความคืบหน้าคดีทุจริตหุ้น STARK โดย สำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลจำนวน 10 ราย อดีตผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ในคดีพิเศษที่ 57/2566
น.ส.พิทยาภรณ์ กล่าวว่า ดีเอสไอมีการออกหมายเรียกผู้ต้องหา 3 ราย คือ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) , นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีตกรรมการและในฐานะผู้บริหารฝ่ายการเงินของบริษัท สตาร์คฯ และ น.ส.ยสบวร อำมฤต เลขานุการของนายชนินทร์ เนื่องจากพบพฤติการณ์ในการร่วมกันตกแต่งบัญชีบริษัทและมีเส้นทางการเงินชัดเจน ซึ่งนายชนินทร์ ได้หนีไปต่างประเทศแล้ว ยังไม่มีการประสานมายังดีเอสไอแต่อย่างใด ส่วนอีก 7 ราย เป็นนิติบุคคล 4 ราย และ บุคคลอีก 3 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและจะเรียกมาชี้แจงในฐานะพยาน โดยบางส่วนได้มีการประสานเข้าพบพนักงานสอบสวนภายในสัปดาห์หน้า สำหรับการยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม ดีเอสไอเร่งติดตามรายการทรัพย์สินส่งให้สำนักงาน ปปง. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปแล้ว
น.ส.พิทยาภรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนรถหรู 4 คันของนายชนินทร์ ล่าสุด ดีเอสไอสามารถติดตามตัวรถได้ครบแล้ว โดยทราบว่า สองคันเป็นของนายชนินทร์เป็นผู้ครอบครอง ส่วนอีกสองคันอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ ผู้ครอบครอง ทั้งนี้ ในส่วนผู้ครอบครองจะมีความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินหรือไม่ ต้องพิจารณาว่ามีเจตนาในการครอบครองหรือไม่ นอกจากนี้ ดีเอสไอได้ประสานไปยังอินเตอร์โพล หรือ องค์การตำรวจสากล เพื่อออกหมายแดง ติดตามนำตัวนายชนินทร์เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา
“ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังบรรดาผู้เสียหายว่า เดิมทีดีเอสไอได้มีการเปิดให้ลงทะเบียนผ่าน QR Code แต่ล่าสุดได้มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ได้แจ้งความประสงค์มายังพนักงานสอบสวนว่าจะมาขอรับหน้าที่เป็นผู้รักษาผลประโยชน์แทนผู้ถือหุ้นกู้ จึงขอให้บรรดาผู้เสียหายไม่ต้องเป็นกังวลในส่วนนี้”
น.ส.พิทยาภรณ์ กล่าวเสริมว่า ส่วนการเข้าค้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับหุ้น STARK เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้อายัดเงินบริษัทในกลุ่มบริษัททั้งหมด ทำให้พนักงานไม่สามรถเบิกถอนเงินเดือนได้หรือได้รับความเดือดร้อน ยืนยันว่า ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่มีเจตนากลั่นแกล้งผู้ใด และจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างส่งผลกระทบต่อตลาดทุน