xs
xsm
sm
md
lg

ประชุมคดีพิเศษหุ้น “STARK” ขยายผลเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ดีเอสไอ ร่วมหารือ ก.ล.ต.- บก.ปอศ.
เร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานคดีพิเศษ “หุ้น STARK” หลังรับเป็นคดีพิเศษ แจ้งข้อหากลุ่มบุคคลทำผิด-เยียวยาผู้เสียหาย

วันนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 15.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ ร่วมประชุมหารือกับ นายธวัชชัย พิทยโสภณ รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ (ก.ล.ต.) และ พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล รอง ผบก.ปอศ. เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือตรวจสอบ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) “STARK” ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เป็นคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ดีเอสไอ ได้หารือกับทางร่วมกับ ก.ล.ต. และ ปอศ. เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ สำหรับประเด็นสำคัญ 1. แนวทางปฏิบัติงานร่วมกัน ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และจะเสนอเรื่องให้ทางกระทรวงยุติธรรม เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีตามระเบียบราชการแผ่นดิน แต่งตั้งหน่วยงานร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวนด้วย 2. การแชร์ข้อมูลกับทาง ก.ล.ต. เนื่องจากมีการแสวงหาพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดี ทำให้ทราบข้อเท็จจริง ทราบพฤติการณ์ว่ามีกรณีใดบ้าง และร่วมกันบังคับใช้กฎหมายในทุกมิติ เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดและติดตามทรัพย์สินมาเยียวยาผู้เสียหายต่อไป

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยอีกว่า ดีเอสไอทราบตัวผู้กระทำผิดบ้างแล้ว แต่ยังขอไม่ขอเปิดเผย ซึ่งพฤติกรรมของผู้กระทำผิดมีมากกว่า 1 คน โดยประกอบไปด้วย กลุ่มผู้บริหาร-กรรมการบริษัท ส่วนประเด็นเรื่องร่องรอยเบาะแสการเงิน ดีเอสไอพบบางส่วนเช่นเดียวกันจึงขอเวลาในการทำงานสักระยะ เนื่องจากวันนี้เป็นเพียงการประชุมนัดแรกเพื่อกำหนดแนวทางการสอบสวน แต่ยืนยันว่าจะเร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุดในทุกประเด็น

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยด้วยว่า คณะทำงานทยอยเรียกบุคคลมาสอบปากคำบ้างแล้ว จำนวน 4 ราย ในฐานะพยานที่รับรู้พฤติการณ์ที่เกี่ยวข้อง และหลังจากนี้จะมีการทยอยเรียกพยานบุคคลที่รับรู้เกี่ยวกับการจัดการเรื่องเงินเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยดำเนินการขนานไปกับการตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงิน อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้มีกลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับ 3 บุคคลที่เชื่อได้ว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ได้แก่ อดีตผู้บริหารบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 1 ราย ส่วนอีก 2 ราย เป็นลูกน้องของผู้บริหารรายนี้ แต่ขณะนี้ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานก่อนเตรียมพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง

ด้าน นายธวัชชัย กล่าวว่า ก.ล.ต. เป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบเรื่องหลักทรัพย์ และจะร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยได้ประสานกับทางดีเอสไอ และ ปอศ. เป็นระยะ ซึ่งก็พบว่ามีรูปธรรมมากขึ้น และภายหลังจากที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ

นายธวัชชัย ระบุว่า จุดเริ่มต้นเกิดจากการที่บริษัทไม่ได้ดำเนินการส่งงบในปี 2565 จนนำไปสู่เหตุการณ์ผิดนัดหุ้นกู้ที่บริษัทเสนอขาย จากนั้นได้ขอให้ทางบริษัทชี้แจงเปิดเผย และเมื่อมีการทำการสอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษเพิ่มเติม จนบริษัทมีการส่งงบเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา จึงเห็นข้อมูลผิดปกติหลายเรื่อง ตามที่ปรากฏ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการขยายผลตรวจสอบพยานหลักฐาน และเบื้องต้นพอทราบตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องบ้างแล้ว โดยกลุ่มบุคคลนี้รู้เรื่องว่ามีการแก้ไขงบการเงิน และตนก็เชื่อว่ามีการดำเนินการมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ส่วนข้อเท็จจริงอื่นๆ เพิ่มเติมยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะมีการแก้ไขงบการเงินในปี 64 ด้วย ทั้งนี้ จำนวนผู้ถือหุ้นที่ได้รับความเสียหายมีจำนวนมาก โดยมีทั้งผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้

นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า ส่วนมูลค่าความเสียหายของหุ้นกู้ มีจำนวนหลายพันล้านบาท ขณะที่มูลค่าหุ้นของบริษัท พบว่า ลดลง และหุ้นทุกวันนี้ก็เหลือเพียงหลักสตางค์ อีกทั้งในวันนี้ ก.ล.ต. ได้มอบข้อมูลสำคัญให้กับทางดีเอสไอแล้ว ส่วนโอกาสที่ผู้เสียหายจะได้รับเงินคืนนั้น คงต้องดูกันไปอีกระยะหนึ่ง เพราะ ก.ล.ต. เองก็มีแนวทางสนับสนุนการเยียวยาผู้เสียหาย แต่ตอนนี้โฟกัสในส่วนที่ทำยังอย่างไรให้ผู้ลงทุนได้สิทธิในการเยียวยา
กำลังโหลดความคิดเห็น