ตำรวจ สภ.คลองหลวง เตรียมออกหมายเรียกสาวมือตบคู่กรณี ใช้กรรไกไล่แทง หวังล้างหนี้ ในสำนักงานผู้สมัคร ส.ส. พรรคใหญ่ ปทุมฯ พบ ตร.
วันที่ 23 พ.ค. 66 จากเหตุการณ์สาวถูกทำร้ายร่างกายในสำนักงานผู้สมัคร ส.ส.พรรคการเมืองใหญ่ในจังหวัดปทุมธานี ทราบชื่อ น.ส.บิ๊ก อายุ 35 ปี เข้าพบ พ.ต.ท.ศิโรจน์ แนบเนียน รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.คลองหลวง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคนทำร้ายร่างกายทราบชื่อ น.ส.เฟิร์น ในข้อหา “พยายามฆ่า, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” หรือความผิดอื่นที่สอบสวนพบในภายหลัง เหตุเกิดในออฟฟิศ นายยุทธวัฒน์ (กำนันหมู) หาญเกียรติกล้า ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ เขต 4 ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ปากซอยคุณพระ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
โดยเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 22 พ.ค. 2566 นางสาวเฟิร์น ซึ่งรู้จักกับตนเอง และเคยยืมเงิน รวมทั้งต้องจ่ายเงินค่าสินค้า คืนให้กับตนเองจำนวนเกือบ 3 หมื่นบาท ซึ่ง นางสาวเฟิร์น อ้างว่า ตนเองจะใช้เงินจำนวนดังกล่าวคืนให้เป็น 30,000 บาท และได้นัดหมายให้ตนเองไปรับเงินจำนวนดังกล่าวคืนที่ออฟฟิศลุงกำนัน (ตนเองทราบว่าคือออฟฟิศ นายยุทธวัฒน์ (กำนันหมู) หาญเกียรติกล้า ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐเขต 4 ตั้งอยู่ในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ปากซอยคุณพระ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
แต่ตนเองไปสายเล็กน้อย เมื่อไปถึง น.ส.เฟิร์น ก็พาตนเองเข้าไปด้านในออฟฟิศ แล้วพาไปห้องหนึ่ง แล้วนั่งแกล้งปรึกษาปัญหาเรื่องการทำธุรกิจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พาตนเองไปที่อีกห้อง โดยมีผู้ชายเข้ามาด้วยหนึ่งคน จากนั้นก็ผลักตนเองลงไปนอนที่พื้น แล้วเข้ามาทำร้ายร่างกายตนเองทันที รวมทั้งขว้างปาสิ่งของใส่ จากนั้นได้เอากรรไกรมาแทงตนเองหลายครั้ง ตนพยายามปกป้องและเปิดประตูที่เขาล็อกเอาไว้ แต่คู่กรณีก็ตามมาใช้กรรไกรกรีดที่ใบหน้า และแทงที่ลำตัวของตนเอง ซึ่งตนเองพยายามหลบและเอามือกันไว้ จนได้รับบาดเจ็บ จากนั้น น.ส.เฟิร์น ยังได้เอาเอาน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ทราบชนิด มาสาดใส่ตนเอง พร้อมทำท่าจะจุดไฟแช็กมาโยนใส่ พร้อมกับถามตนเองว่า “อยากตายไหม” โดยไม่ยอมให้ตนออกจากสำนักงาน แต่มีคนมาห้ามไว้ และคนที่เข้ามาห้าม โทรศัพท์ไปหานางสาวแอล ว่า จะให้ปล่อยตนเองได้หรือไม่ แต่แล้วก็ยังไม่ได้จะปล่อยตนเอง จนสุดท้าย ตนเองหนีออกมาได้ น.ส.เฟิร์น พยายามตามออกมาทำร้ายตนอีก โดยการใช้กรรไกร ตามมาแทงอีก แต่ตนเองก็หนีขึ้นรถมาได้ และได้มีแจ้งความดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายไปแล้ว และจะได้เรียกพยานแวดล้อมและพยานที่อยู่ในเกิดเหตุมาสอบปากคำและสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมด และจะได้ติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี ซึ่งวันนี้ข้อเท็จจริงตามที่ผู้เสียหายได้อ้างที่เกิดเหตุอยู่ในออฟฟิศ ซึ่งอยู่ในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ และจะได้นำเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 เข้าตรวจสอบพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกแล้ว
เบื้องต้นเรื่องที่ทำการพรรคการเมืองนั้นเป็นเพียงสถานที่เกิดเหตุ และไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง และน่าเป็นการยืมเงินกันจำนวน 3 หมื่นบาท ตามที่ผู้เสียหายได้ให้การกับพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นเรื่องการทะเลาะกัน ส่วนเรื่องข้อกล่าวหาที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้นั้น ต้องมาดูว่าเข้าข่ายกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่สรุปต้องสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง