ตำรวจ ปปป. ซ้อนแผนบุกจับ "เอกพจน์ วงศ์นาค" นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวงร่วมกับ ผอ.กองช่างฯ เรียกรับสินบนค่าถมที่ดิน 3 ล้านบาท จากเดิมที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมทั่วไปเพียงแค่ 500 บาทเท่านั้น
วันนี้ (3 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป. พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย ผกก.2 บก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ท. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. บุกจับกุม นายสถิต ฉ่ำแฉล้ม อายุ 50 ปี ผอ.กองช่างเทศบาลเมืองคลองหลวง ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยหน้าที่ ,เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ได้ที่ภายในห้องทำงาน สำนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมประสานเชิญตัว นายเอกพจน์ ปานแย้ม อายุ 53 ปี นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง มาแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดเดียวกัน
สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่เข้าไปติดต่อขออนุญาตถมดินกับทางเทศบาลดังกล่าว ซึ่งเดิมทีผู้ขออนุญาตจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมทั่วไปเพียงแค่ 500 บาท แต่ นายเอกพจน์ นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง กลับเรียกรับเงินผู้เสียหายลูกบาศก์เมตรละ 50 บาท จากดินที่จะใช้ถมจำนวน 60,000 ลูกบาศก์เมตร รวมเป็นเงิน 3,000,000 บาท ผู้เสียหายเกรงว่าหากไม่ทำตามข้อเรียกร้องจะส่งผลกระทบต่องานที่ทำ จึงยอมจ่ายให้ก่อนเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท โดยมี นายสถิต ผอ.กองช่าง เป็นคนรับเงิน ก่อนจะขอผลัดผ่อนทยอยจ่ายส่วนที่เหลือให้ในภายหลัง หลังทราบเรื่อง ตำรวจ บก.ปปป. จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริงทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสอง มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตจริง ประกอบกับทางกลุ่มผู้ต้องหาได้ติดต่อให้ผู้เสียหายนำเงินสดอีก 5 แสนบาท มาส่งมอบให้อีกครั้งในวันนี้ ที่ห้องทำงานสำนักงานเทศบาลคลองหลวง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ นายสถิต จนนำมาสู่การเข้าจับกุมขณะกำลังรับมอบเงินของกลางได้ดังกล่าว พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืน 1 กระบอก ทั้งนี้จากการซักถาม นายสถิต ยังคงยืนกรานปฏิเสธ
ขณะที่ในส่วนของ นายเอกพจน์ ขณะเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในสำนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวงนั้น ปรากฎว่าเจ้าตัวไม่อยู่ เนื่องจากไปเฝ้าภรรยาคลอดลูก ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ จึงประสานติดต่อให้มาเข้าพบเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิดเดียวกันจากกรณีดังกล่าว
นอกจากนี้ยังแบ่งกำลังอีกชุด เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายสถิต เพื่อค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งรายละเอียดปฏิบัติการครั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจจะมีการแถลงสรุปภาพรวมการดำเนินการอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ต่อมาเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน นายเอกพจน์ ปานแย้ม อายุ 53 ปี นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง ได้เดินทางมาที่สำนักงานเทศบาลเมืองคลองหลวง เพื่อเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. และ พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปปป. เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยหน้าที่ ,เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” จากคดีเดียวกัน ซึ่งรายละเอียดหลังจากนี้จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ที่ บก.ปปป. เวลา 18.00 น.
สำหรับประวัติของ เอกพจน์ วงศ์นาค นักร้องลูกทุ่ง มีชื่อจริงว่า เอกพจน์ ปานแย้ม เกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2512 ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ออกเดินสายร้องเพลงลูกทุ่งไปตามที่ต่าง ๆ พร้อมกับเรียนการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ไปด้วย โดยเพลงที่ได้รับความนิยมและสร้างชื่อให้แก่เอกพจน์ คือ เพลง ทหารเกณฑ์คนจน
ในปลายปี พ.ศ. 2539 เอกพจน์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่จ.ปทุมธานีบ้านเกิด และได้รับการเลือกตั้ง โดยชนะทั้งนายชูชาติ หาญสวัสดิ์ และนางวาณี หาญสวัสดิ์ ส.ส.เก่าเจ้าของพื้นที่ยาวนาน ซึ่งทำให้เอกพจน์ได้กลายมาเป็นนักร้องลูกทุ่งคนแรกที่ได้เป็น ส.ส.
จากนั้น เอกพจน์ได้ศึกษาต่อจนจบในระดับปริญญาตรีที่สถาบันราชภัฏเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และศึกษาต่อในระดับปริญญาโทรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2544 ได้ลงสมัครในพื้นที่เดิม สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งอีก ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548 ได้ย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทย ซึ่งก็ได้รับการเลือกตั้งอีก และในการเลือกตั้งในปลายปี พ.ศ. 2550 ได้ลงเลือกตั้งอีกครั้งเป็นครั้งที่ 4 ใน จ.ปทุมธานี สังกัดพรรคชาติไทย และได้รับเลือกตั้งอีก
ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2551 เมื่อพ้นจากการถูกตัดสิทธิทางเมือง จึงลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เดิม สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2557 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
จากนั้นเอกพจน์ได้หันมาทำงานการเมืองท้องถิ่น โดยเขาเป็นหัวหน้าทีม "เพื่อนเอกพจน์" และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และได้รับเลือกตั้ง