ศาลเลื่อนนัดสืบพยาน คดีฟ้อง “เสมียน-ตำรวจ” ปมยิง “พล.ต.ต.ธารินทร์ อดีตรองจเรตำรวจ” เหตุสลดในห้องพิจารณาศาลจันทบุรี เมื่อปลายปี 62 ไป 30 พ.ค.นี้
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก คดีหมายเลขดำ อ.553/2564 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายธนากร หรือ ท็อป วีรโรดม, ร.ต.อ.ขจร บรรจง เป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนามีปืนเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและเป็นผู้สนับสนุน
กรณี เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2562 พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจเกษียณราชการ วัย 67 ปีใช้อาวุธปืนกล็อก 22 กราดยิงคู่กรณีระหว่างการเข้าฟังพิจารณาคดี ปมขัดแย้งกันเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน 3,800 ไร่ ภายในห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดจันทบุรี ทำให้ นายบัญชา ปรมีคณาภรณ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ และ นายวิจัยสุขรมย์ ทนายความ เสียชีวิต ส่วน นางสุภาพร ปรมีคณาภรณ์ ภรรยาของนายบัญชา และทนายความอีกคนบาดเจ็บ ก่อนที่ นายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนาย จะเอาปืนจาก ร.ต.อ.ขจร บรรจง ตำรวจ สภ.เมือง จันทรบุรี ยิง พล.ต.ต.ธารินทร์ จนเสียชีวิต และกองปราบปรามได้สอบสวนคดีนี้แล้ว ต่อมามีการโอนคดีไปศาลจันทบุรี แต่ในที่สุดได้โอนกลับมาที่ศาลอาญาอีกครั้ง
จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ทั้งนี้ จำเลยที่ 1 ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์ 300,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์ 200,000 บาท
วันนี้ น.ส.จิรัฐิติกาล จันทราทิพย์ อายุ 30 ปี บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ยื่นคำร้องว่าตนเป็นผู้เสียหายจัดการแทนผู้ตาย ร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ และร้องขอให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนตาม ป.วิ อาญา มาตรา 30 และ มาตรา 44/1 ศาลถามจำเลยทั้งสองได้คัดค้านคำร้องทั้งสองประเด็น
ต่อมา น.ส.จิรัฐิติกาล พร้อมทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำสืบโจทก์ถึงเหตุการณ์ที่อยู่หน้าห้องที่มีปรากฏในกล้องวงจรปิด และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องพิจารณาซึ่งไม่มีกล้องวงจรปิด ต้องอาศัยพยานบุคคลที่รู้เห็นเหตุการณ์ มาเบิกความเป็นพยาน
โดยฝ่ายโจทก์ รวมทั้งเราถึงแม้จะไม่อยู่ในเหตุการณ์ แต่เชื่อว่า จากข้อมูลพยานหลักฐาน ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ว่า ในขณะที่ จำเลยคดีนี้ยิง พล.ต.ต.ธารินทร์ ที่ขณะนั้นกำลังนั่งลงรอมอบตัว รวมทั้งปืนของ พล.ต.ต.ธารินทร์ ก็หมดกระสุนแล้ว ไม่มีพฤติการณ์ที่จะก่อเหตุร้ายให้เกิดภยันตรายแก่บุคคลอื่นอีกต่อไป แต่ฝ่ายจำเลยอ้างว่าการยิง พล.ต.ต.ธารินทร์ เป็นไปเพื่อป้องกันภยันตรายที่จะเกิดขึ้นกับบุคคลอื่นที่อยู่ในห้องพิจารณา โดยอ้างว่า พล.ต.ต.ธารินทร์ กำลังจะยิงบุคคลอื่นหรือก่อเหตุร้ายอื่นอีก
ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็เป็นสิทธิของจำเลยที่ต่อสู้คดีตามกระบวนการ แต่พนักงานสอบสวนของกองปราบปรามได้รวบรวมพยานฐานไว้อย่างชัดเจน และสามารถหักล้างข้อต่อสู้ของจำเลยได้ในทุกข้อ
น.ส.จิรัฐิติกาล กล่าวต่อว่า ในส่วนของรูปคดี ตนฝ่ายผู้เสียหายไม่มีข้อกังวลอะไร เชื่อว่า ศาลจะให้ความเป็นธรรมได้อยู่แล้ว แต่คดีนี้มีความล่าช้า เนื่องจากมีการโต้แย้งเรื่องเขตอำนาจศาล ฝ่ายจำเลยพยายามจะขอไปพิจารณาที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯและศาลจังหวัดจันทบุรี ทำให้ล่าช้ากว่าจะถึงวันสืบพยาน และในวันนี้นัดสืบพยานครั้งแรก ฝ่ายจำเลยก็มาเลื่อนอ้างว่าทนายความจำเลยที่ 1 ป่วย ศาลจึงเลื่อนนัดสืบพยานไปเป็นวันที่ 30 พ.ค.นี้