"ชูวิทย์" แพ้กรรม! ความจริงมีหนึ่งเดียว โจร…ยังไงก็คือโจร

รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ ชูวิทย์ แพ้กรรม! ความจริงมีหนึ่งเดียว โจร…ยังไงก็คือโจร



ตลอดหลายเดือน ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ วาดลวดลายเป็นจอมแฉ แต่การออกมาแก้ตัวหลังที่โดนแฉกลับบ้าง ก็เป็นครั้งแรกที่นายชูวิทย์ ออกอาการผิดปกติ

มีท่าที หงอยๆ จ๋อยๆ เจื่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด ในระหว่างการแถลงข่าวเคลียร์พฤติกรรม “แฉไป ไถไป” ที่ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ลากไส้เน่าออกมาประจานจนช็อกกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง

ทั้งที่ปกติชูวิทย์จะออกลูกนักเลง ก้าวร้าวใส่คนไม่เลือกหน้า ถือว่าตัวเองเป็นต่อ ขย่มคนอื่นข้างเดียวอย่างอหังการ

จากที่เป็นผู้ล่า ขย้ำคนอื่นอย่างเมามัน พูดจาเยาะเย้ยถากถาง แบบไม่เห็นใครในสายตา ตอนนี้ นายชูวิทย์โดนพลิกบทบาทในชั่วข้ามคืน กลายเป็นฝ่ายถูกไล่ล่าบ้างแล้ว ต้องมาตั้งรับ ชี้แจงข้อกล่าวหาชุดแรกจากทนายตั้มเป็นพัลวัน

ชูวิทย์รีบชิงสารภาพ ว่าคนสีเทาเข้าถึงหลายคน ไม่ใช่แค่ “สารวัตรซัว” เจ้าพ่อบ่อนออนไลน์ไซส์แอล ที่ส่งถุงเงินมาเคลียร์ธุรกิจอาบอบนวด “ลาลิซ่า” เท่านั้น

แต่ยังมี “แทนไท” อีกคน ที่มาหาถึงโรงแรมเดวิส แต่นายชูวิทย์ก็อ้างว่ามาคุยกันอย่างเดียว ไม่มีการรับเงิน 50 ล้าน แบบที่ทนายตั้มแฉ

นายชูวิทย์อ้างเหตุที่ไม่แตะ “แทนไท” เพราะ 1.ข้อมูลน้อย 2.แทนไทหันไปทำธุรกิจถูกกฎหมายแล้ว

ซึ่งมันสวนทางกับสืบสวนของดีเอสไอ ที่พบว่า “แทนไท” เป็นหนึ่งในคนที่ส่งเงินไปฟอกกับ “นอท กองสลากพลัส” ในระดับนายทุนสำคัญ ไม่ได้วางมือจากธุรกิจสีเทา ซึ่งในสัปดาห์หน้า ดีเอสไอ อาจจะแจ้งข้อหาแทนไท ด้วย

และก็สวนทางกับข้อมูลของทนายตั้ม ที่ระบุเลยว่า เหตุที่นายชูวิทย์ไม่แตะ “แทนไท” ก็เพราะ “กล่องดวงใจ” ของเขา รับเงินดิจิตอลจาก “แทนไท” ไปแล้วถึง 50 ล้านบาท ผ่านบัญชีการเงินดิจิตอล ที่เรียกว่า MetaMask

และทนายตั้มก็จะไม่หยุดแค่การแฉด้วย เพราะจะเอาหลักฐานไปให้ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตรวจสอบเส้นทางการเงินดิจิตอล 50 ล้านดังกล่าว

จะเห็นว่าปกติ ต้องเป็นนายชูวิทย์ ดำเนินการอะไรแบบนี้กับใครต่อใคร แต่ตอนนี้ กลายเป็นเขาโดนบ้าง ตามกรรมเวรและความชั่วช้าที่ได้ทำไว้ มันปิดบังกันไม่ได้

ทนายตั้ม ย้ำว่า นายชูวิทย์ยังคงเป็นโจรเหมือนเดิม ไม่ใช่โจรกลับใจ อย่างที่ไปหลอกใครต่อใคร ทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ก็คือ ฮีโร่จอมปลอม

ตามชื่อชั้นทนายความเบอร์ใหญ่อย่างทนายตั้มเรื่องนี้ไม่มีทางที่ทนายตั้มจะมีแต่ข้อมูลเลื่อนลอย มาเปิดศึกล้มยักษ์ เพราะถ้าทำเช่นนั้น ก็มีแต่ตายกับตาย ชูวิทย์มันขยี้เละ

แต่ทนายตั้มประกาศเลยว่า เขามีอะไรในมืออีกเยอะ เพียงแต่จะค่อยๆ ปล่อยออกมาทีละขยัก เป็นสไตล์ที่ใช้น็อกใครต่อใครมาหลายคน

แถมยังเขย่าประสาทนายชูวิทย์ด้วยว่า แหล่งข่าวที่เอาข้อมูลเด็ดมาให้

ก็คือ หลานของนายชูวิทย์ ที่ลุยสาวไส้นายชูวิทย์เอง จอมแฉจึงถึงกับเฉา เพราะรู้แก่ใจ เรื่องลึกลับดำมืดของเขา ไม่ได้เป็นความลับเสียแล้ว

แม้นายชูวิทย์จะเล่นมุขสาบานต่อหน้าพระ ให้ฉิบหายวายป่วง แต่สิ่งนี้ทนายตั้มก็พูดดักไว้ก่อนแล้วอย่างคนรู้ทัน ว่าคนอย่างนายชูวิทย์กล้าที่จะสาบาน กล้าพูดอะไรได้ทุกอย่าง เพื่อเอาตัวรอด จึงไม่ต้องให้ความสำคัญ

แนวทางต่อสู้ของนายชูวิทย์ ที่เห็นจากการแถลงโต้ข่าว จึงมีแต่ถีบแล้วถอย หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมรับว่าได้เงินใส่ถุงมาทั้งหมด 10 ล้านบาท อ้างว่าแค่ 6 ล้าน และบริจาคให้โรงพยาบาลไปจนหมด ไม่เก็บไว้เองแม้แต่บาทเดียว

ควรรู้ว่าใครก็ตาม ที่เอาเงินสกปรกไปบริจาคโรงพยาบาลรัฐ ก็จะได้ลดภาษีถึง 2 เท่าของเงินบริจาค เท่ากับว่า ยิ่งบริจาคมาก ยิ่งฟอกเป็นเงินสะอาดมาก

แต่ทนายตั้มก็รู้แก่ใจดีแหละ ว่าจริงๆ มันเป็น 10 ล้าน ไม่ใช่ 6 ล้าน และก็ไม่แน่ เขาอาจมีหลักฐานเรื่องถุงเงิน งัดมารัดคอนายชูวิทย์อีกเปลาะ

การเปิดโปงรอบแรกของทนายตั้ม ระบุว่า นายชูวิทย์รับเงินก้อนแรก 10 ล้าน จากสารวัตรซัว จากนั้น ก็สั่งให้ไปรีดคนอื่นมาเติมอีก 10 ล้าน มีลักษณะไถแล้วไถอีก ไม่ใช่ “จ่ายแล้วจบ”

ได้เงินสด 20 ล้าน ก็ตามด้วยเงินดิจิตอลของ “แทนไท” อีก 50 ล้าน ส่งเข้าบัญชี MetaMask ของ “กล่องดวงใจ” ซึ่งทำธุรกิจสีเทา ทั้งกัญชา ทั้งบุหรี่ไฟฟ้า

ซึ่งเรื่องจ่ายเงินเคลียร์นั้น “แทนไท” เคยโพสต์ประกาศไว้ในเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า “อยากรู้ใครเป็นยังไง ก็แค่เอาเงินไปใส่ในมือมัน”
นายชูวิทย์อาจตอบโต้ว่า เขาก็ลุยแฉพวกคนสีเทาแทบทุกคน แต่ประเด็นนี้ ทนายตั้มก็ดักคอไว้ก่อนแล้ว ว่านายชูวิทย์ใช้วิธีกระแอมชื่อถึงคนนั้นคนนี้ เพื่อบี้ให้มาจ่ายเงินต่างหาก

สิ่งเดียวที่นายชูวิทย์ยังพอไว้ลายอันธพาลเฒ่า ก็คือถามกลับอย่างหงอยๆ ทนายตั้มรับงานใครมาเล่นงานเขา?

กระแสขาขึ้นสุดขีด ขนาดชี้นกเป็นไม้ยังได้ของนายชูวิทย์ คงถึงคราวสะดุด ต้องระดมเล่ห์เหลี่ยมร้ายและความกะล่อนไปรับมือกับทนายตั้ม และรวมถึงคดีฟอกเงิน ที่อาจตามมาด้วย

ความจริงมีหนึ่งเดียว ดีก็คือดี ชั่วก็คือชั่ว เรื่องชูวิทย์ นักแฉลวงโลก เป็นอีกบทหนึ่งที่เห็นได้ว่า การประพฤติชั่วแต่อ้างเอาคุณธรรมบังหน้า มันต่ำตมจริงๆ ตอนนี้ชูวิทย์แพ้แล้ว ไม่ได้แพ้ทนายตั้ม หรือแพ้ใคร แต่มันแพ้กรรมตัวเองที่ทำไว้

--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )

ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1