รอง ผบ.ตร.เผยผลชันสูตรศพ "สารวัตรกานต์" เบื้องต้นแพทย์ระบุ เสียชีวิตจากการเสียเลือดมาก กระสุนทะลุปอด เลือดตกในช่อท้อง และพบสารเสพติดกลุ่มกัญชา ยัน จนท.ไม่ได้มุ่งเอาชีวิต แต่โดนยิงต่อสู้ ด้านพี่ชายยังติดใจสาเหตุการตาย น้องชายโดนทำร้ายหรือไม่
จากกรณี พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ อายุ 51 ปี หรือสารวัตรกานต์ สังกัด ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล มีอาการคลุ้มคลั่งกระหน่ำยิงปืนออกมาจากบ้านพักในชุมชนบ้านมั่นคง ซอยจีระมะกร แยกซอยสายไหม 46 แขวงและเขตสายไหม กทม. กระทั่งเจ้าหน้าบุกเข้าควบคุมตัวได้ โดยผู้ก่อเหตุถูกยิงได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (16 มี.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ รพ.ภูมิพลฯ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ร่วมกับตำรวจ สน.สายไหม ตรวจสอบผลการชันสูตรศพสารวัตรกานต์ โดยภายหลังร่วมชันสูตรศพประมาณ 20 นาที พล.ต.อ.ต่อศักดิ์เปิดเผยว่า ผลการตรวจหาสารเสพติดในเลือดผู้ตาย เบื้องต้นพบสารเสพติดกลุ่มกัญชาในร่างกาย โดยต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดเพื่อให้เกิดความชัดเจนและตอบคำถามสังคมได้ คาดว่าอีก 3 วันจึงจะทราบผล
เบื้องต้นแพทย์รายงานสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการเสียเลือด แต่ไม่พบกระสุนตกค้างในร่างกาย เนื่องจากกระสุนทะลุออกจากร่างทั้งหมด มีบาดแผลรอยถากตามร่างกาย แต่จุดที่กระสุนเข้าหลักๆ เป็นร่างกายช่วงหน้าอกลงไป มีกระสุนทะลุปอดและมีอาการตกเลือดในช่องท้อง ยืนยันว่าไม่ได้หวังเอาชีวิต แต่เนื่องจากขณะเจ้าหน้าที่พยายามบุกเข้าคุมตัวโดยใช้กระสุนยางและปืนไฟฟ้า สารวัตรกานต์ได้ยิงปืนตอบโต้ทำให้ตำรวจอีกชุดหนึ่งที่ใช้กระสุนจริงยิงตอบโต้จนสารวัตรกานต์กระโดดจากหน้าต่างชั้น 2 ร่วงลงมาข้างล่าง
ทั้งนี้ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสีย โดยเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาทุกวิถีทางแล้วแต่ไม่สามารถเจรจาได้ จนแพทย์จิตเวชเจรจาและประเมินแล้วพบว่าเกินเยียวยา จึงจำเป็นต้องบุกเข้าชาร์จดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม พี่ชายของผู้ตายซึ่งเป็นผู้กำกับการอยู่ สภ.แห่งหนึ่ง ติดใจในสาเหตุการตายว่าเกิดจากการทำร้ายร่างกายหรือไม่ แต่ประเด็นนี้สามารถอธิบายทางการแพทย์ได้ว่าเกิดจากการปะทะ จากนี้จะรายงานผลให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับทราบ และให้ทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงอีกครั้ง โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เข้าไปทำภารกิจครั้งนี้ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมชี้แจงการปฏิบัติ ซึ่งตำรวจทำงานตามยุทธวิธี สามารถชี้แจงได้ถึงแม้จะใช้เวลาในการปฏิบัติงานร่วม 28 ชั่วโมงนั้นไม่ถือเป็นความล้มเหลว เพราะทุกขั้นตอนมีการวางแผนอย่างละเอียดรัดกุม และป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า จากนี้จะหารือเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงครอบครัวสารวัตรกานต์ เพราะมองว่าเจ้าตัวเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่สร้างคุณงามความดีมาตลอดการรับราชการ และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ขณะเดียวกัน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าไปรวบรวมกระสุนและพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมจำลองเหตุการณ์ก่อนนำผลมาประกอบสำนวนคดี สำหรับร่างสารวัตรกานต์ ญาติและครอบครัวจะนำไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดสุทธิสะอาด ย่านคลองสามวา โดยมีกำหนดการสวด 1 คืน ก่อนทำพิธีฌาปนกิจและนำกระดูกกลับภูมิลำเนาต่อไป