ผบก.น.2 เผย หลังเจ้าหน้าที่บุกจับสารวัตรกานต์ คลุ้มคลั่งกราดยิงในบ้านพักย่านสายไหม พบถูกยิงเข้าหลายจุด อาการสาหัส โดนแจ้ง 5 ข้อหาหนัก
จากกรณี พ.ต.ท.กิตติกานต์ หรือ สารวัตรกานต์ อายุ 51 ปี ตำแหน่งสารวัตร สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล คลุ้มคลั่งกราดยิง เหตุเกิดภายในบ้านพักบ้านมั่นคง ซอยจิระมะกร ซอยย่อยซอยสายไหม 46 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะอยู่ระหว่างปิดล้อมกว่า 28 ชม. ก่อนจะสามารถยุติเหตุการณ์ดังกล่าวได้ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (15 มี.ค.) พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 เปิดเผยว่า สารวัตรกานต์ ถูกเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติยิงระงับเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช แพทย์กำลังวินิจฉัย ยังไม่ทราบรายละเอียดถึงอาการบาดเจ็บ ขณะนี้ยังไม่สามารถให้การได้ ร่างกายอ่อนเพลีย เพราะไม่ได้นอนพักผ่อน และไม่ได้รับประทานอาหารถึง 2 วัน
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่เกิดเหตุได้กำชับการตรวจที่เกิดเหตุของตำรวจพิสูจน์หลักฐานและพนักงานสอบสวน เพื่อรวบรวมหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุ โดยให้ตรวจดูอย่างละเอียดว่า นอกจากบ้านของผู้ก่อเหตุแล้ว มีความเสียหายเกิดขึ้นกับบ้านของประชาชนหลังอื่นอย่างไรบ้าง ซึ่งอาจต้องเรียกชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายเข้ามาให้การเป็นพยานด้วย ส่วนแนวทางการช่วยเหลือเยียวยา ต้องขอดูภาพรวมของความเสียหายที่เกิดขึ้นก่อน
นอกจากนี้ จะต้องพิสูจน์ทราบปลอกกระสุนที่ตกอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุให้ได้ว่าปลอกกระสุนอันใดเป็นกระสุนจากฝั่งผู้ก่อเหตุ และปลอกกระสุนอันใดเป็นกระสุนจากฝั่งของเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการ ซึ่งต้องนำไปตรวจสอบเปรียบเทียบกับข้อมูลว่าชุดปฏิบัติการชุดไหนใช้อาวุธชนิดใดบ้าง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เบื้องต้นพบอาวุธปืนลูกโม่ 1 กระบอกของผู้ก่อเหตุตกอยู่บริเวณหลังบ้าน ส่วนเครื่องกระสุนยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีอยู่ในบ้านจำนวนเท่าไหร่ รวมถึงอาวุธชนิดอื่นๆ ด้วย แต่จากข้อมูลพบว่าตั้งแต่เกิดเหตุ จนถึงเวลาที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ผู้ก่อเหตุยิงปืนออกมาประมาณ 60 นัด พร้อมกับยังไม่ได้ตรวจสอบสารเสพติดภายในบ้าน แต่กำชับกับทีมแพทย์แล้วว่าให้ตรวจเลือดเพื่อหาสารเสพติดด้วย ส่วนในบ้านพักพบสารเสพติดหรือไม่นั้น ยังไม่ยืนยันเนื่องจากยังไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด
ส่วนเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ตัดสินใจเข้าจู่โจมเพื่อควบคุมตัวผู้ก่อเหตุนั้น เป็นการประเมินของผู้บัญชาการจากหลายส่วน ประกอบกับเมื่อคืนนี้ กรมสุขภาพจิตส่งแพทย์มาร่วมประเมินสภาวะจิตใจของผู้ก่อเหตุ ซึ่งแพทย์มีความเห็นว่าผู้ก่อเหตุมีสภาพจิตเบี่ยงเบน การตอบสนองไม่ตรง ถามอย่างตอบอย่าง สมควรได้รับการรักษาโดยเร็ว ซึ่งแพทย์เห็นว่าการที่จะใช้การพูดคุย เพื่อให้ยอมมอบตัวนั้นไม่น่าจะทำได้ในระยะเวลาอันสั้น ส่วนเวลาที่เลือกใช้เข้าจู่โจมนั้น ก็เป็นเวลาที่เห็นว่าเหมาะสม เพราะผู้ก่อเหตุมีอาการผ่อนคลายลง หลังได้พูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม หากประเมินความผิดของสารวัตรกานต์ เบื้องต้นก็จะมีความผิดใน 5 ข้อหา คือ พยายามฆ่าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ต่อสู้ และขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทำให้เสียทรัพย์ พกพาอาวุธปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และ ยิงปืนในเมืองหมู่บ้าน ในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
