ตร.ประเมินความเสี่ยงเหตุสารวัตรคลั่งกราดยิง อาจต้องใช้กระสุนจริง หากจำเป็น

ผบช.น.เผย ความคืบหน้าสารวัตรกานต์ คลุ้มคลั่งกราดยิงในบ้านพักย่านสายไหม หากประเมินสถานการณ์แล้วมีความเสี่ยง อาจจำเป็นต้องใช้กระสุนจริง

จากกรณี พ.ต.ท.กิตติกานต์ หรือ สารวัตรกานต์ อายุ 51 ปี ตำแหน่งสารวัตร สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล คลุ้มคลั่งกราดยิง เหตุเกิดภายในบ้านพักบ้านมั่นคง ซอยจิระมะกร ซอยย่อยซอยสายไหม 46 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะอยู่ระหว่างปิดล้อม ซึ่งผ่านมาแล้วกว่า 24 ชม. ยังไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้

โดยความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (15 มี.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ในระหว่างที่พยายามกดดันเพื่อเข้าควบคุมตัว หรือแม้กระทั่งเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว ซึ่งสถานการณ์มีความสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพราะผู้ก่อเหตุยังมีเครื่องกระสุนปืน ที่พร้อมยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่ได้ตลอด

ส่วนความคืบหน้าในการปฏิบัติงานนั้น ทางเจ้าหน้าที่สามารถเปิดพื้นที่ ในการควบคุมได้มากขึ้น และเปิดช่องว่างที่ทำให้เจ้าหน้าที่เห็นตัวผู้ก่อเหตุโดยสามารถกดดันให้ผู้ก่อเหตุ ขึ้นไปอยู่ในบริเวณชั้น 2 ของห้องพัก เป็นผลมาจากการใช้โดรนบินเข้าไปตรวจการด้านใน แต่เนื่องจากในขณะนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย จึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบในการใช้ยุทธวิธีจู่โจม ซึ่งต้องมีการประเมินอีกว่า อาการป่วยของผู้ก่อเหตุ จะต้องใช้วิธีใดระงับเหตุ แต่ถ้าหากประเมินออกมาแล้วว่า มีความจำเป็นต้องใช้กระสุนจริง เจ้าหน้าที่ก็พร้อมที่จะปฏิบัติงานทันที ส่วนการเจรจาสื่อสารนั้นไม่สามารถจะสื่อสารแบบคนปกติทั่วไปได้

พล.ต.ท.ธิติ เปิดเผยอีกว่า ยุทธวิธีที่ให้เพื่อนร่วมงานมาร้องเพลงให้ฟังและมีการจู่โจมควบคู่ไปด้วยนั้น เป็นวิธีที่ดึงดูดความสนใจ แต่จากการปฏิบัติแล้วทางผู้ก่อเหตุยังมีการตอบโต้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องถอนกำลังมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัยเสียก่อน ส่วนอาวุธที่ผู้ก่อเหตุใช้นั้น เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่า เป็นชนิดลูกโม่ที่ใช้ตอบโต้ นอกจากนี้ ยังมีเสียงปืนคล้ายระบบออโตเมติก ซึ่งสังเกตได้จากเสียงปืนที่ดังต่อเนื่องแต่ยัง ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า เป็นปืนชนิดใด

นอกจากนี้ มีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาในนะหว่างการเข้าจู่โจม ชุดปฏิบัติการพิเศษถูกกระสุนของผู้ก่อเหตุยิงสวนมาถูกหมวก แต่กระสุนแฉลบออกไปทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ และมีการเปิดเผยภาพจากโดรนของเจ้าหน้าที่ ที่สามารถบันทึกภาพผู้ก่อเหตุที่อยู่ภายในบ้านพักได้ชัดเจน ซึ่งสามารถระบุตำแหน่งได้