xs
xsm
sm
md
lg

ค้นบ้าน “หยู ซิน ฉี” หาหลักฐานเพิ่ม ปมตั้งสมาคมเถื่อน จ่อแจ้ง 3 ข้อหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง คุมตัวนายหยู ซิน ฉี ประธานสมาคมมณฑลส่านซีฯ เข้าค้นบ้านพักหรู หาหลักฐานเพิ่มเติม กรณีจัดตั้งสมาคมเถื่อน เตรียมแจ้ง 3 ข้อหา

วันนี้ (18 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง คุมตัว นายหยู ซิน ฉี ประธานสมาคมมณฑลส่านซีแห่งประเทศไทย มาตรวจค้นบ้านพักหรู ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านวัชรพล โดยวันนี้ตำรวจได้นำหมายค้นเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน หลังจากที่ได้เชิญตัวนายหยู ไปสอบสวนเมื่อวานนี้ (17 ก.พ.)

สำหรับการตรวจค้นวันนี้ ตำรวจสืบสวนได้นำเอกสารที่อยู่ในบ้าน และรถยนต์ของนายหยู ไปตรวจสอบ เรื่องการจัดตั้งสมาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งการแอบอ้างในเรื่องต่างๆ ซึ่งตำรวจก็ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไปพอสมควร และอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในวันจันทร์ที่ 20 ก.พ.นี้

นอกจากนั้น ตำรวจยังได้เข้าตรวจค้นห้องเช่าแห่งหนึ่งย่านถนนเสนานิคม 1 เนื่องจากพบว่าเคยเป็นที่ตั้งของที่ทำการสมาคมแห่งนี้ แต่ปัจจุบันพบว่านายหยู ได้เลิกเช่าไปแล้ว

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นวันนี้เจ้าหน้าที่ ได้ทำการตรวจยึดพยานหลักฐานเอกสารสำคัญรวมถึงภาพถ่ายของนาย หยู ซิน ฉี ที่ถ่ายรูปคู่กับบุคคลสำคัญ ตลอดจนหลักฐานการเรี่ยไรเงิน ที่นาย หยู ซิน ฉีนำไปใช้แอบอ้าง ซึ่งการที่เขาสามารถเปิดสมาคมได้ สำหรับคนจีนด้วยกันถือว่าการตั้งสมาคมเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ มีหน้ามีตา จากนั้นเขาจะสมาคมเป็นฉากหน้า เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้คนจีนด้วยกันได้เห็น ก่อนจะมีการถ่ายรูปบุคคลสำคัญ ถ่ายรูปผู้ใหญ่ เพื่อนำไปใช้กระทำความผิดหลอกคนจีนในไทยเพื่อเรี่ยไรเงิน

จากการตรวจค้นในวันนี้เจ้าหน้าที่เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับ นายหยู ซิน ฉี ประกอบไปด้วย 3 ข้อหาหลัก คือ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร, การตั้งสมาคมเถื่อน หรือจัดตั้งสมาคมโดยไม่มีใบอนุญาต อย่างไรก็ตาม เพิกถอนวีซ่าของนายหยู ซิน ฉี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ จะเป็นขั้นตอนของทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยชาวจีนรายนี้จะต้องถูกดำเนินคดีในไทยและจะทำการผลักดันออกนอกประเทศพร้อมกับขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์เป็นการถาวร ห้ามเดินทางเข้าประเทศอีกต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น