MGR Online - ปคม.รวบ 2 หนุ่ม Sex Creator ลวงเด็กหนุ่มมาร่วมเพศ ก่อนอัดคลิป โพสต์ขายใน Onlyfans - กลุ่มไลน์ลับ
วันนี้ (2 ก.พ.) พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม.สั่งการ พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สว.กก.2 บก.ปคม. พ.ต.ท.พัฒน์ชพล มีนวลสิน สว.กก.2 บก.ปคม.จับกุม นายเสกสรรค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี และ นายวิทยา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 304,305/2566 ลงวันที่ 27 ม.ค. 66 ข้อหา “ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก โดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่ถึงสิบแปดปี, พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร, เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก, ชักจูง ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่เหมาะสมและชักจูง ยุยง ส่งเสริมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร” โดยจับกุม นายเสกสรรค์ ได้ที่ห้องพักภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในย่านรังสิต-คลองหนึ่ง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ส่วน นายวิทยา จับได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยรัชดาภิเษก 36 เขตจตุจักร กทม.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้ปกครองของผู้เสียหายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รายหนึ่งเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ว่า บุตรของตนเองถูกเพื่อนรุ่นพี่ชักชวนไปมีเพศสัมพันธ์และถูกอัดคลิปวิดีโอไปโพสต์ขายในช่องทางกลุ่มไลน์ลับ และทาง Onlyfans ผู้เสียหายเกิดความเครียด จึงได้ปรึกษาผู้ปกครองก่อนพาเข้าแจ้งความดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่า มีผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์รายหนึ่งมีพฤติกรรมโฆษณา ชักชวน ให้บุคคลทั่วไปสมัครเข้ากลุ่มลับเพื่อดูภาพ และคลิปวิดีโออนาจาร รวมถึงบนเว็บไซต์ Onlyfans จึงได้สมัครเข้ากลุ่มไลน์ลับดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่าชื่อบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงิน คือ นายเสกสรรค์ ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันที่ปรากฏในคลิป เจ้าหน้าที่ก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับไว้ กระทั่งจับกุมได้ดังกล่าว จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า มีบุคคลที่มีพฤติการณ์ในลักษณะดังกล่าวอีก คือ นายวิทยา โดยมีการชักชวนผู้เสียหายมามีเพศสัมพันธ์ในช่วงต้นปี 65 และถ่ายคลิปไปลงในกลุ่มลับ รวมถึงบนเว็บไซต์ Onlyfans เพื่อหาผลประโยชน์ในลักษณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตามจับกุมได้อีกราย
สอบสวน นายเสกสรรค์ รับสารภาพว่า เปิดกลุ่มไลน์ลับโดยคิดค่าสมัครเข้ากลุ่มคนละ 200 บาท มีสมาชิกกว่า 200 ราย มีเงินหมุนเวียนกว่านับแสนบาท โดยจะเลือกทักหาเด็กหนุ่มที่เป็นเน็ตไอดอล มีชื่อเสียงในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อหวังให้มีผู้สนใจสมัครมาเป็นสมาชิกในกลุ่มที่ตนเป็นแอดมิน
ส่วน นายวิทยา สารภาพว่า คิดค่าสมัครเข้ากลุ่มไลน์ลับคนละ 500 บาท มีสมาชิกกว่า 100 ราย โดยจะใช้วิธีชักชวนวัยรุ่นชายที่เป็นกลุ่ม LGBTQ ตามทวิตเตอร์ หากสนใจและตกลงกันได้ก็จะนัดมามีเพศสัมพันธ์ และแอบบันทึกภาพเคลื่อนไหวมาแสวงหาผลประโยชน์ในกลุ่มที่ตนเองเป็นแอดมิน นอกจากนี้ ยังค้าบริการทางเพศอีกด้วย จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดชผบช.ก.กล่าวว่า ตำรวจสอบสวนกลาง มีความห่วงใย เด็กวัยรุ่นทั้งชายและหญิง ในเรื่องในเรื่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีคนร้ายพยายามทำให้เด็กเชื่อว่าตกหลุมรัก อยากคบหาเป็นแฟน ขอภาพลับ นัดพบ ละเมิดทางเพศ และถ่ายรูปข่มขู่แบล็กเมล์ ซึ่งเข้าข่ายพฤติกรรมการเข้าหาเด็กเพื่อละเมิดทางเพศ (Child Grooming) ซึ่งเด็กจำนวนมากต้องทนทุกข์กับความทรงจำเลวร้ายที่รบกวนจิตใจไปตลอดชีวิต ส่งผลต่อการเรียน การทำงาน และความสัมพันธ์ บางคนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า พยายามฆ่าตัวตาย ซึ่งข้อเท็จจริงที่ทราบจากตัวเด็กสอดคล้องไปทางเดียวกันคือ ก่อนถูกละเมิดทางเพศจะมีพฤติกรรมสร้างความเป็นมิตร เข้ามาตีสนิทให้เด็กตายใจ ก่อนเสมอ แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ละเมิดทางเพศเด็ก ซึ่งผู้ปกครองและทุกฝ่ายต้องช่วยกันระมัดระวัง หมั่นตรวจสอบการใช้สื่อออนไลน์ของบุตรหลานของท่าน ว่ามีความผิดปกติน่าสงสัยหรือไม่
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวด้วยว่า สำหรับวิธีการแก้ปัญหาของผู้ที่เสพติดสื่อลามกอนาจารเด็ก ควรปรึกษาแพทย์ เข้ากลุ่มบำบัด หรือเข้ารับการสะกดจิตบำบัด (Hypnotherapy) ร่วมกับการรักษาด้วยวิธีอื่น รวมทั้งหากมีพฤติกรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในสังคม เช่น ต้องการโชว์ของลับในที่สาธารณะ จำเป็นต้องปรึกษาคุณหมอเพื่อรักษาอาการเหล่านี้และสุดท้าย สำหรับผู้ที่มีสื่อลามกเด็กไว้ในครอบครอง ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการส่งต่อสื่อลามกเด็ก หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน จะต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และผู้ที่คิดจะหลอกลวงเด็กหรือเยาวชน มาบันทึกภาพวีดีโอแล้วนำมาเผยแพร่เพื่อหารายได้ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ และเป็นความผิดที่มีอัตราโทษจำคุกกว่า 10 ปี ต่อการกระทำผิดหนึ่งครั้ง และมีอายุความ 20 ปี