ปธ.ศาลฎีกา ลงพื้นที่ภาคเหนือ ตรวจเยี่ยม ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 และศาลแรงงานภาค 5 ศาลแขวงเชียงรายศาลและ แขวงเวียงป่าเป้า
วันนี้ (14 ธ.ค.) นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้พิพากษาสมทบ และผู้ประนีประนอม ในพื้นที่ศาลยุติธรรมภาค 5
โดยได้ตรวจเยี่ยมศาลแขวงเชียงราย ศาลแขวงเวียงป่าเป้า และศาลในจังหวัดเชียงใหม่
มีน.ส.ผกากรอง ศรีทองสุก ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงเชียงราย นายประยูร กิ่งไทร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงเวียงป่าเป้า นางวราภรณ์ สหัสโพธิ์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 นายปานทอง สุ่มมาตย์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 นางสาวมยุรี จามิกรานนท์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 นายวิสุทธิ์ กลิ่นพร อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 5 พร้อมคณะให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ ประธานศาลฎีกาได้มอบนโยบายแก่คณะผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนผู้ประนีประนอม พร้อมทั้งรับฟังรายงานผลการดำเนินงานการปฏิบัติตามนโยบายประธานศาลฎีกา และแนวทางการปรับปรุงพัฒนาของศาล
นายโชติวัฒน์ ประธานศาลฎีกา กล่าวว่า สำหรับการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลแขวงนั้น คดีส่วนใหญ่มีประเด็นข้อพิพาทไม่ซับซ้อนและจำนวนทุนทรัพย์ไม่สูง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลและผู้พิพากษาพึงประชุมวางแผนเพื่อบริหารจัดการคดีให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรม ทั้งด้านการพิจารณาพิพากษาคดีและการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท พร้อมให้คำแนะนำว่า การเพิ่มปริมาณคดีเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทนอกจากจะช่วยลดปริมาณคดีในชั้นพิจารณาและคดีที่ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลสูงแล้ว ยังเป็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์และเยียวยาความเสียหายบนความพึงพอใจของคู่ความด้วย สำหรับผู้อำนวยการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่พึงประชุมวางแผนในเรื่องการบริการประชาชนให้มีประสิทธิภาพ เพราะข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของศาลเป็นผู้มีหน้าที่ในการให้บริการประชาชนโดยตรง เมื่อประชาชนได้รับความยุติธรรมอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และได้รับการบริการที่ดีแล้ว ย่อมบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้มีอรรถคดีได้เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ได้เน้นย้ำถึงนโยบาย “รักศาล ร่วมใจ รับใช้ประชาชน” ว่า เป้าหมายสูงสุดของนโยบายดังกล่าว คือ การบริการประชาชนอย่างดี มีประสิทธิภาพ ด้วยความรวดเร็ว และเป็นธรรม ซึ่งการที่จะบรรลุผลสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากบุคลากรทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการคดีและการบริการประชาชนโดยยึดถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะเป็นศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกาพึงบริหารจัดการคดีให้เสร็จสิ้นโดยไม่ใช้เวลานานเกินสมควร เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิของคู่ความทุกฝ่าย ไม่ให้เสียโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการทางศาล ตั้งแต่ชั้นฝากขัง ชั้นรับฟ้อง ชั้นพิจารณา ชั้นพิพากษา รวมถึงการพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวที่ไม่ควรให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยต้องขังโดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ ศาลยุติธรรมพึงปรับตัวภายใต้บริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อธำรงความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน คำพิพากษาจึงต้องวินิจฉัยด้วยเหตุผลที่ชัดเจน รอบคอบ ถูกต้องตามหลักกฎหมาย เป็นธรรม และเป็นที่ยอมรับจากคู่ความทุกฝ่าย ในส่วนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ซึ่งถือเป็นบุคลากรที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการสนับสนุนงานตุลาการและเป็นผู้ให้บริการประชาชนในชั้นแรก ขอให้ร่วมแรงร่วมใจในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และร่วมกันสร้างผลสัมฤทธิ์ที่ดียิ่งขึ้นอีกในอนาคต เพื่อให้ศาลยุติธรรมยังคงยืนหยัดในการเป็นที่พึ่งของสังคมโดยรวมอย่างแท้จริง
ตลอดระยะเวลาการตรวจเยี่ยมศาลประธานศาลฎีกาได้ทักทาย พูดคุย และรับฟังปัญหาข้อขัดข้องจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามส่วนงานต่าง ๆ รวมถึงให้กำลังใจในการปฏิบัติงาน และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
ประธานศาลฎีกาและคณะมีกำหนดการที่จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดเชียงใหม่ ศาลแขวงเชียงใหม่ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ และศาลในจังหวัดลำพูน ในวันที่ 15 ธ.ค. 2565
ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 13 –16 ธันวาคม 2565 นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้พิพากษาสมทบ และผู้ประนีประนอม ในพื้นที่ศาลยุติธรรมภาค 5