xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.ศาลฎีกาลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมผู้พิพากษา ข้าราชการในจ.หนองบัวลำภู-เลย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



"โชติวัฒน์"ประธานศาลฎีกา ตรวจเยี่ยมศาลในจ.หนองบัวลำภู และจ.เลย พร้อมมอบนโยบายแก่ผู้พิพากษา ข้าราชการ ผู้พิพากษาสมทบ เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานบริการประชาชน ในพื้นที่ศาลยุติธรรมภาค 4

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างวันที่ 28 พ.ย. - 2 ธ.ค. 2565 นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้พิพากษาสมทบ และผู้ประนีประนอม ในพื้นที่ศาลยุติธรรมภาค 4

โดยวันนี้ (2 ธ.ค.) เวลา 08.15 - 14.00 น. เป็นการตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดหนองบัวลำภู ศาลจังหวัดเลย และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเลย

การตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดหนองบัวลำภู มีนายธีรารัตน์ สัมมา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ


ส่วนการตรวจเยี่ยมศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดหนองบัวลำภู มีนายสุวัฒน์ รุ่งเมฆารัตน์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดหนองบัวลำภู รักษาราชการแทนผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ

และการตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดเลย มีนายนรากร กันทะคำ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเลย พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ

สำหรับการตรวจเยี่ยมศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเลย มีนายอดิศร ตรีเนตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเลย พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ


ซึ่งนายโชติวัฒน์ ประธานศาลฎีกาได้มอบนโยบายแก่คณะผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ตลอดจน คณะผู้พิพากษาสมทบและผู้ประนีประนอม พร้อมทั้งรับฟังรายงานผลการดำเนินงานการปฏิบัติตามนโยบายประธานศาลฎีกา และแนวทางการปรับปรุงพัฒนาของศาล

ประธานศาลฎีกายังได้เน้นย้ำเรื่องการบริหารจัดการคดีอย่างมีประสิทธิผล โดยกล่าวว่า ขณะนี้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมการบริหารจัดการคดีในศาลชั้นต้นขึ้น เพื่อศึกษาแนวทางและให้คำแนะนำแก่ผู้พิพากษา ข้าราชการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ ในการบริหารจัดการคดีที่คั่งค้างและคดีที่จะมีการเสนอเข้ามาใหม่ให้แล้วเสร็จตามเกณฑ์มาตรฐาน พร้อมติดตามผลการดำเนินการดังกล่าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้มีอรรถคดีโดยการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม


ทั้งนี้ ประธานศาลฎีกาได้กล่าวถึงความสำคัญของการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาท เนื่องจากหากคดีสามารถตกลงกันได้ ย่อมเป็นประโยชน์แก่คู่ความทุกฝ่าย ไม่จำต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีโดยไม่จำเป็น รวมถึงลดปริมาณคดีที่จะขึ้นสู่การพิจารณาของศาลสูงไปด้วยในตัว ซึ่งศาลยุติธรรมนอกจากผู้พิพากษาแล้ว ผู้ประนีประนอมที่มาช่วยงานศาลล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความรู้ความสามารถ จึงแนะนำให้พิจารณาเพิ่มปริมาณคดีเข้าสู่ระบบการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาท เพื่อประโยชน์แก่คู่ความและเพื่อให้การบริหารจัดการคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม การไกล่เกลี่ยจะต้องกระทำภายใต้ความประสงค์ของคู่ความและภายในระยะเวลาอันจำกัด หากคู่ความไม่สามารถตกลงกันได้ก็ต้องส่งคดีกลับเข้าสู่กระบวนพิจารณา เพื่อมิให้คดีเนิ่นช้าโดยไม่จำเป็น

นอกจากนี้ ประธานศาลฎีกายังกล่าวถึงเรื่องภาพลักษณ์ขององค์กรศาลยุติธรรม โดยขอให้นำข้อคิดเห็นของประชาชนมาพิจารณา ปรับวิธีคิด วิธีทำงาน ให้ประชาชนเห็นว่าศาลยุติธรรมมีความพร้อมในการให้บริการและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาการตรวจเยี่ยมศาลวันนี้ ประธานศาลฎีกาได้ทักทาย พูดคุยและรับฟังปัญหาข้อขัดข้องจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามส่วนงานต่าง ๆ รวมถึงให้กำลังใจในการปฏิบัติงานและขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ

กำลังโหลดความคิดเห็น